การใช้ Indicator ต่าง ๆ : Moving Average Oscillator
บทความต่อไปนี้เป็นบทความตอนที่ 12 ของการใช้ Indicator พื้นฐานที่มีอยู่ใน MT4 ซึ่ง เป็น Indicator ที่ได้รับความนิยมอย่างยาวนาน ผ่านการพิสูจน์โดยการเวลา แม้ว่าในประเทศไทยจะไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เพือให้เทรดเดอร์ได้สัมผัสมุมมองใหม่ ๆ เพิ่มเติมประสบการและความรู้เกี่ยวกับการเทรด Forex จึงนำเสนอการใช้ Indicator ต่าง ๆ โดย Indicator ที่นำเสนอในบทความนี้คือ Moving Average Oscillator ซึ่งเป็น Indicator ในหมวด Oscillator โดยเราจะนำเสนอทั้งในแง่มุมของ ลักษณะของ indicator การคำนวณ และการใช้งาน ของ Indicator ในตลาด Forex เป็นหลัก
Moving Average Oscillator คืออะไร?
Moving Average เป็นเครื่องมือที่มีคนรู้จักมากที่สุดเครื่องมือหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นว่า Moving Average Oscillator มีคนใช้งานไม่มากอย่างที่ Moving Average ได้รับความนิยม โดยในบทความนี้เราจะทำความรู้จักกับ Moving Average Oscillator กันครับ
Moving Average Oscillator หรือ OsMA ซึ่งเป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้แสดงความแตกต่างระหว่าง Oscillator และค่า Moving Average โดยทั่วไปแล้วเราจะมักรู้จักชื่อของ Indicator ประเภท Oscillator ที่เราคุ้นคือ MACD และใช้ค่อนข้างบ่อย อย่างไรก็ตาม คำว่า Oscillator ก็สามารถใช้กับ Indicator ตัวไหนก็ได้ MADC นั้นสร้างจาก Moving Average และเส้นให้สัญญาณคือค่าเฉลี่ยของเส้น MACD อีกทีหนึ่ง OsMA นั้นจะแตกต่างกันคือ เส้นที่เป็น Histogram ของ OsMA คือเส้นที่แสดงระยะห่างของเส้น MA สองเส้น ซึ่งแสดงในรูปแบบ Histogram
ด้วยลักษณะที่พิเศษของเครื่องมือนี้ทำให้มันสามารถยืนยันการเกิดเทรนด์ของราคาในสินทรัพย์ที่เราต้องการใช้ในการอ้างอิง ตัวอย่างเช่น ค่าเงินใน Forex และ สินทรัพย์ที่เราต้องการซื้อขายในตลาดหุ้น โดยสูตรของ Moving Average Oscillator มีดังนี้
OsMA = Oscillator value – Moving Average Valueฃ
โดยรูปร่างหน้าตาของ OsMA มีรูปร่างหน้าตาดังต่อไปนี้
รูปที่ 1 แสดง OsMA ในรูปแบบของ Histogram
จากรูปข้างต้นจะเห็นได้ว่า มี Histogram เคลื่อนไหวขึ้นลง เป็นคลื่น สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของราคา โดยถ้าหากมีเทรนด์ที่เกิดขึ้นในระยะยาว ความชันของ Histogram จะมีแท่งขนาดยาว ถ้าหากกราฟเคลื่อนไหวในกรอบ Side Way นั้นจะทำให้ขนาดแท่งของ OsMA นั้นสั้น แล้ว OsMA มันบอกอะไรเราได้บ้าง
การใช้งาน OS MA
การใช้งาน OS MA นั้นแตกต่างจาก Indicator อื่น ๆ ที่บางครั้งให้แนวคิดในการวิเคราะห์กราฟได้ถึง 2 รูปแบบ คือ การใช้ในการเทรดแบบแกว่งตัวและการใช้ในการเทรดแบบดูเทรนด์ อย่างไรก็ตาม การใช้ OsMA ใน Forex แล้วทำได้เพียงใช้ในการดูเทรนด์เป็นหลักเท่านั้น เพราะว่า OsMA นั้นมีจุดตัดเพียงจุดเดียวคือ จุด 0
สำหรับการให้สัญญาณ Buy ของ OsMA นั้นทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ ค่า Histogram ของ OsMA นั้นสูงกว่า 0 ก็ถือว่าเป็นสัญญาณ Buy ได้แล้ว
ในขณะที่การให้สัญญาณ Sell ก็ใช้สัญญาณตรงข้ามกันในการวิเคราะห์ว่ามันจะส่ง Sell เมื่อใด แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ามันจะดูง่าย ๆ และใช้ไม่ยาก ด้วยความที่มันธรรมดามากเกินไปมันทำให้มันตามมาด้วยข้อจำกัด 2 อย่างคือ
1 การล่าช้าของสัญญาณในการส่งคำสั่ง
- การไม่สามารถให้ความแม่นยำได้ในสภาวะตลาด Side Way
ซึ่งเงื่อนไขทั้ง 2 ข้อส่วนใหญ่ก็จะพบอยู่ใน Indicator ประเภท นี้อยู่แล้ว โดยรายละเอียดของมันเกี่ยวกับข้อจำกัดทั้งสอง 2 มีดังต่อไปนี้
การล่าช้าของสัญญาณในการส่งคำสั่ง
การล่าช้าของสัญญาณในการคำสั่งของ OsMA เกิดขึ้นเนื่องจาก concept ของการใช้ MA 2 เส้นแล้วใช้ Histogram ในการยืนยันความรุนแรง นั่นก็คือ ระยะห่างจาก MA 2 เส้น นั่นเอง ทำให้กว่าที่สัญญาณ MA ทั้ง 2 ตัวที่จะคำนวณได้ช้าเหลือเกินเพราะว่า Moving Average เป็นค่าเฉลี่ยของราคานั่นเอง ซึ่งเราอาจจะถือว่า Indicator ที่ให้สัญญาณประเภท Lagging Indicator ก็เป็นได้
แต่อย่างไรก็ตาม เราสามารถแก้ไขความล่าช้าของมันได้ โดยการปรับตั้งค่าของ Indicator ให้มีความไวเพิ่มขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าได้แม่นยำมากขึ้นและได้ราคาที่ทำให้จุดเสี่ยงของ Risk : Reward Ratio นั้นไม่น่าเกลียดจนทำให้การเทรดของเทรดเดอร์นั้นอยู่ในภาวะเสี่ยง
การไม่สามารถให้ความแม่นยำได้ในสภาวะตลาด Side Way
ในตลาด Side Way พวก Indicator จำพวก Oscillator จะต้องเผชิญความยากลำบากกันทุกตัว และเทรดเดอร์ก็จะเผชิญการตัดสินใจที่ยากลำบากในการดูเทรนด์ สิ่งที่ยากที่สุดคือ เราไม่รู้ว่ามันจะเปลี่ยน เข้าตลาดเทรนด์หรือ Sideway เมื่อไหร่ ทำให้มันส่งสัญญาณหลอกแก่เราได้ เมื่อเราเข้าเทรดไปแล้ว ทำให้เข้าพลาด เพราะว่ามันอาจจะกลับตัวได้ทุกเมื่อ แต่ถึงแม้จะมีสัญญาณหลอกในกรณีของ OsMA ก็คล้ายคลึงกับ เครื่องมืออื่น ๆ คือ คุณสามารถปรับแก้ปัญหานี้ได้โดย การใช้เครื่องมืออื่น ๆ ช่วย เส้น Indicator ประเภท Stochastic เพราะมันเป็น Indicator ที่ใช้ในช่วง ตลาด Sideway ซึ่ง Stochastic นั้นจะให้ผลที่ดี ถ้าหากเราสังเกตุเห็น Stochastic นั้นเข้าตลาด Sideway เราสามารถหยุดการตัดสินใจเทรดจากตรงนั้น เพราะว่า มันให้สํญญาณเร็วกว่าอยู่แล้ว
บ่อยครั้งที่เทรดเดอร์อาจจะเผชิญความยากลำบากในการแก้ไขปัญหาความไม่สมบูรณ์แบบของ Indicator เราสามารถใช้เครื่องมืออื่น ๆ ในการปรับแต่ง หรือเป็นเครื่องมือช่วยได้ แม้ว่ามันจะปรับได้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะสมบูรณ์แบบทุกครั้งไป การเทรดเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ของเทรดเดอร์
ทีมงาน : www.thaibrokerforex.com