เส้น

SWAP สิ่งที่ไม่ควรประมาท

ในโลกการเทรด Forex การเทรดแบบถือ position ค้างคืน เป็นการเทรดที่ได้รับความนิยมรูปแบบหนึ่ง ซึ่งในกลุ่มคนที่เทรดแล้วไม่ยอมปิดออเดอร์นั้น ยังมีวิธีการนี้อยู่ การถือออเดอร์ข้ามคืนแล้วถือว่า ถ้าไม่ปิดขาดทุนก็จะไม่ขาดทุน สิ่งที่คอยฆ่าพวกเขาตายอย่างช้า ๆ คือ Swap

Swap หลายคนคิดว่าจะเป็นเสิ่งที่ให้ประโยชน์ แต่จริง ๆ แล้ว โบรคเกอร์ไม่ได้คิดจะเสียเปรียบเราง่าย ๆ การตั้ง Swap ของ โบรคเกอร์ก็ได้ทำการบวกกำไรไว้ก่อนแล้วเพื่อป้องกันความเสี่ยงของพวกเขา ดังนั้น Swap ของแต่ละโบรคเกอร์ แต่ละช่วงเวลาท่านต้องคอยสังเกตุ แต่เชื่อหรือไม่ การถือ position ยิ่งยาว เรายิ่งเสียเปรียบ

ภาพที่ 1 แสดง Swap และระยะเวลาการถือ

จากภาพที่ 1 เป็นตัวอย่างที่อธิบายคำกล่าวข้างต้นได้อย่างดี ซึ่งเป็นภาพที่ผมได้มาจากใน อินเตอร์เนท โดยจะเห็นว่าค่า Swap ที่ได้มันสูงพอ ๆ กับกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้น ทุกท่านลองนึกถึงว่า เวลาราคาเคลื่อนไหวไปยังจุดเข้าเทรด แล้วจะพบว่า position ของเรายังขาดทุนอยู่ นั่นหมายความว่า Swap มันกินขนาดไปมากนั่นเอง เมื่อมันกินขนาดไปมากอย่างนี้ต่อให้ราคากลับไปจุดคุ้มทุน มันก็ยังไม่พอ

ทำไมเป็นแบบนี้

สาเหตุที่ทำให้มันเป็นแบบนี้เพราะว่าโบรคเกอร์ไม่ต้องการเสียเปรียบเราในกรณีที่คนชอบเปิด position ขนาดเล็ก และคิดว่าจะถือไปนาน ๆ โดยคาดหวังผลตอบแทนเล็กน้อย ซึ่งเมื่อเราถือไปนาน ๆ เราก็จะขาดทุนจากการที่เราต้องจ่าย Swap เหมือนกับที่ปรากฏในภาพที่ 1

ระบบเทรดแบบนี้ ผมเคยเห็นในระบบเทรดของกลุ่มเทรดออนไลน์  เช่น ระบบเทรดแบบ Close System และระบบเทรดที่ชื่อ KZM ซึ่งเป็นระบบเทรดที่นิยมเปิดออเดอร์ขนาดเล็กมาก ๆ ครั้งละ 0.01 Lot ขณะที่ ไม่มีการตั้ง Stop loss นั้นทำให้การผิดพลาดทางการเทรดนั้นอาจจะเกิดได้มากและต้องทนถือออเดอร์ผิดทาง ทำให้ต้นทุนการถือครองออเดอร์นั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ

สิ่งที่ควรทำต้องทำอย่างไร?

จากสถานการณ์ดังกล่าว Swap ทำให้การเทรดระยะยาวเป็นเรื่องที่เราเสียเปรียบ และเพื่อลดความเสียเปรียบนั้นเราต้องเทรดระยะเวลาที่เหมาะสม โดย Time Frame ที่เหมาะสมคือ ตั้งแต่ 4 ชั่วโมงขึ้นไปจนถึง 1 วัน การเทรดกราฟ week อาจจะทำได้ยากและกินเวลานาน ดังนั้นระบบเทรดของเราจะต้องใช้ระบบระยะสั้นเพื่อลดต้นทุนซ้ำซ้อน

การเทรดระยะเวลาสั้นเกินไปก็ทำให้เกิดต้นทุนสูง นั่นคือ ต้นทุน Spread ต่อระยะทางที่ราคาวิ่ง ซึ่งการเทรดระยะสั้นจะทำให้ spread มีสัดส่วนที่สูง พูดง่าย ๆ ก็คือ Broker ได้ดักทางเราไว้หมดแล้ว เราทำได้แค่ลดความเสียเปรียบให้มากที่สุดเท่านั้น  การออกแบบระบบเทรดจึงขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่จะเอื้อให้เรามีชัยชนะมากที่สุดนั่นเอง

ค่าเงินและโบรคเกอร์

อีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้การลดความเสียเปรียบของเรานอกจาก Time Frame แล้ว มันคือการเลือก ค่าเงินที่เราจะเทรด และ โบรคเกอร์ที่เราเลือกจะเทรด ซึ่งแต่ละค่าเงินและแต่ละโบรคเกอร์นั้น ให้อัตรา Swap แตกต่างกันโดยเราต้องดูทีละตัว ดังนี้

รูปที่ 2 แสดงสถานที่ตรวสอบ Swap

ในรูปที่ 2 เราคลิ๊กขวาในค่าเงินที่เราเลือกจะปรากฏหน้าต่างคุณสมบัติของค่าเงิน ให้เลือกค่าเงินในภาพผมได้เลือกค่าเงิน GBPJPY และกดเลือก Properties ซึ่งจะปรากฏหน้าต่างทางขวามา เมื่อปรากฏมาแล้วให้เลื่อนลงเพื่อดูค่า Swap ว่า Swap ค่าเงินไหนถูกบ้าง เราก็ทำการเทรดค่าเงินนั้น

จะรู้ได้ยังไงว่า Swap ค่าเงินไหนถูกนั้น ให้ดูที่ส่วนต่างของ ออเดอร์ Long กับ Short นั้นมีความแคบมาก บางค่าเงินนั้นให้ค่า Swap บวก แต่ว่าอย่าเพิ่งได้ใจและคิดว่า นี่แหละเราจะถือ position แล้วกิน swap บวก ที่ Swap เป็นบวกนั้นเป็นเรื่องของอัตราดอกเบี้ยและการประมาณของโบรคเกอร์ เราลองจินตนาการว่า สินค้าชิ้นหนึ่งมีราคาถูกมาก เมื่อมันถูกมากใครก็ต้องอยากครอบครองในระยะยาว และเมื่อมันต้องถือยาวจะได้กำไร Broker ก็จะทำการลดต้นทุนของเขาที่เขาต้องเจอเทรดเดอร์ถือยาวแบบเราโดยการใส่ Swap ยังไงหล่ะครับ มันหมายความว่า ยิ่ง Swap ลบเยอะแสดงว่า สินค้านั้นจะมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น ขณะที่ Swap บวก ซึ่งอาจจะเกิดจากการที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ทำให้เงินไหลเข้าประเทศที่ให้ดอกเบี้ยสูง เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จะทำให้ค่าเงินอ่อนค่า หมายความว่า ถ้าเราไปถือค่าเงินที่ได้ swap เป็นบวก เราก็จะขาดทุนส่วนต่างราคาอัตราแลกเปลี่ยน เรียกได้ว่า มันไม่มีอะไรง่ายจนทำกำไรได้ง่ายขนาดนี้หรอกครับ ไม่งั้นก็รวยกันหมดแล้ว

ซึ่งกระบวนการที่ว่ามาเป็นการตรวจสอบเบื้องต้นเท่านั้น ท่านสามารถหาวิธีในการตรวจสอบเพิ่มเติมได้

 

ทีมงาน : www.thaibrokerforex.com

เส้น

เขียนโดย

Poomipat Wonganun

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chatchawal Nakcharoen