คนสำเร็จไม่คิดมาก
ในโลกนี้มีคนอยู่ 3 ประเภท ถ้าหากเราแบ่งคนตามประเภทของการกระทำ คือ 1. คนที่ทำอะไรแล้วไม่คิดอะไรเลย แค่ทำลงไป ทำโดยไม่ได้คิด 2. คนที่ทำแล้วคิดให้ดีแล้วจึงลงมือทำ 3. คนที่ทำอะไรแล้วคิดมากเกินไปจนกลัวนั่นนี่จนไม่ได้ทำ
ในคน 3 กลุ่มหลัก ๆ นี้จะมีปะปนอยู่ทุกที่เต็มไปหมด คน 3 กลุ่มนี้เปรียบเสมือนทางสายกลางในพุทธศาสนา กลุ่มหนึ่งคือคนที่หย่อนเกินไป กลุ่มที่ 2 คือคนที่มีความพอดี กลุ่มที่ 3 คือคนที่ตึงเกินไป
ผมเป็นกลุ่มที่ 3 คือกลุ่มคนที่ตึงเกินไป ทำอะไรแล้วคิดมากเกินไปสมัยก่อน คิดอยู่นั่นและกลัว กลัวเสียจนมันไม่ต้องทำอะไร เพราะว่าเรากลัวว่ามันจะล้มเหลว ความกลัวว่ามันจะล้มเหลวทำให้มันไม่เกิดขึ้นเสียทีและเมื่อมันไม่เกิดเราก็ไม่ได้บทเรียนอะไรจากมัน ไม่สามารถเชี่ยวชาญศาสตร์นั้น ๆ ได้ ไม่สามารถเข้าใจและสู้ต่อไปลึก ๆ ได้ เรื่องพวกนี้มันเกี่ยวกับการประสบความสำเร็จในการเทรด โดยผมมีเรื่องเล่าดังนี้
เพื่อนผมคนหนึ่งเป็นคนที่คิดมากในการทำงาน เขาอยากเป็นข้าราชการและอยากสอบราชการให้ได้ เขาอยากรวยเขาอยากมีการงานมั่นคงทำ และเขาก็อยากจะเทรด Forex และประสบความสำเร็จแต่เขาก็ไม่เคยเทรดเลยประมาณ 2 ปีกว่าเขาเฝ้าแต่เทรด Demo อยู่อย่างนั้น ด้วยความที่เขากลัวขาดทุนและเสียเงินไปกับ Forex 1 ปีแรกผมนั้นขาดทุนกับ Forex ไปหลายหมื่น ผมเล่าให้เขาฟังและเขารู้สึกเสียดายเงิน เขาไม่กล้าลงเงินของตัวเองกับ Forex ได้แต่เทรด Demo ไปอยู่อย่างนั้น ผ่านไปปีที่ 2 เขาเฝ้าพยายามฝึก Demo ต่อและผมก็ขาดทุนไปหลักแสนบาทแล้ว เขาก็คิดว่า Forex เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะตลาดและทำกำไรได้แน่นอน และเขาคิดว่า เขาควรเลิกคิดรวยด้วยวิธีการเช่นนี้ หลังจากนั้นเขาก็เลิกเทรด โดยที่ไม่ได้ลงเงินจริงสักบาท 10 ปีต่อมาผมสร้างพอร์ทระดับหมื่นเหรียญและทำกำไรจากการเทรด และเลี้ยงตัวเองด้วยเงินจากการเทรด ส่วนหนึ่งและไม่ล้างพอร์ทอีกและได้เงินคืนจากการเทรด เพื่อนผมก็คิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องจริงแต่สิ่งที่เป็นจริงคือ ผมไม่ได้ทำงานอีกต่อไปแล้ว ผมแค่ใช้จ่ายให้พอดีกับเงินที่หาได้เท่านั้น แต่มันก็ยังไปทำงานต่อไป
ขณะที่เพื่อนอีกคนหนึ่งทำอะไรไม่ค่อยคิดแค่คิดว่า อยากจะทำก็ทำลงไป เขาไม่กลัวอะไร ไม่กลัวขาดทุนและถ้าขาดทุนแล้วไม่ใช่ก็ไม่ทำ เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เข้ามาเทรดพร้อม ๆ กับผมในตลาด Forex เพื่อนคนนี้เป็นคนมุทะลุดุดัน ทำอะไรแล้วทำจริง ตั้งใจแต่เป็นคนไม่ค่อยละเอียดไม่ค่อยช่างสังเกตุ มันคิดว่า การจะทำอะไรต้องตั้งใจ แต่ด้วยความที่ใจกล้ามากไปและไม่คิดหน้าคิดหลัง ทำให้มันสูญเงินจากพอร์ท Forex มาก มันก็คิดว่าเป็นเพราะมันฝีมือไม่ดีเท่านั้นเอง ความคิดง่าย ๆ แบบนี้ทำให้มันคิดว่าถ้าหากมันฝึกไปเรื่อย ๆ ก็จะสำเร็จเหมือนกัน ผ่านไป 3 ปี แรกมันหมดเงินไปหลายแสน จนเริ่มท้อ ผมก็หมดเงินหลักแสนและนำกลับมาคิดเป็นระยะ ๆ อีก 1 ปีต่อมาหลังจากที่ผมพักตัวจากวงการเพื่อกลับไปคิด ผมกลับมาถามมันมันบอกว่า Forex ไม่เหมาะกับมันและไม่สามารถทำกำไรได้ ที่ขาดทุนไปก็ถือว่าเป็นบทเรียน และก็เลิกเทรดไปเช่นกัน
จะเห็นว่าเพื่อนผม 2 คน คนที่หนึ่งตึงไป คนที่ 2 หย่อนไป ผมก็ไม่ได้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ถ้าหากความสำเร็จคือรวย ผมคงไม่ได้สำเร็จแต่ถ้าหากว่า มีรายได้พอที่จะสนับสนุนครอบครัวได้บางส่วน ผมคิดว่าผมก็คงสำเร็จของผม แต่ปัจจัยความสำเร็จของตัวเองนั้นผมอยู่ตรงกลางระหว่างเพื่อนสองคน คือเป็นคนที่กล้าทำเมื่อได้คิดไปสักหน่อยหนึ่งแล้ว และยอมรับผลมันได้ขณะที่การไม่ได้คิดอะไรเลยทำให้เรา ทำอะไรไม่ได้เกิดการเรียนรู้แม้เราจะกล้าทำก็ตาม ในโลกนี้มี คน 2 ประเภทแรก คือ ตึงมากไปและหย่อนมากไปอยู่พอสมควร ทำให้ความสำเร็จอาจจะเป็นเรื่องยาก สำหรับผมแล้ว คนที่ตึงมากไปกับคนที่หย่อนมากไปอันไหนมีโอกาสสำเร็จมากกว่ากัน ผมคงบอกว่า คนที่รู้จักความพอดีมีโอกาสำเร็จมากกว่า แต่ว่าถ้าหากว่า คนตึงที่ระแวดระวังมาก กับ คนที่หย่อนที่ไม่ดูอะไรเลย คนไหนมีโอกาสสำเร็จมากกว่า คงเป็นคนที่หย่อน เพราะว่าคนที่หย่อนอย่างน้อยก็ได้ทำ และลงมือทำ คนที่ไม่เคยลงมือทำเลย จะหาความสำเร็จได้ยังไงครับ เป็นไปไม่ได้ แล้วท่านหล่ะเป็นคนแบบไหน?
ทีมงาน : www.thaibrokerforex.com