สิ่งที่นักเทรดทุกท่านควรทราบก่อนเริ่มต้นการเทรด Forex คงไปไม่พ้นเรื่องของการเปิดบัญชี Forex แต่ทั้งนี้ในแต่ละโบรกเกอร์ก็ดันมีบัญชีหลายประเภทเหลือเกิน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าเราควรจะใช้บัญชีประเภทไหน ในวันนี้เรามาเจาะลึกกันครับว่าบัญชี เทรด forex นั้นมีอะไรบ้างและแต่ละบัญชีเหมาะสำหรับใครไปเริ่มต้นกันได้เลยครับ

การเทรด Forex กับประเภทบัญชีเทรด

รูปที่ 1 ภาพที่อธิบายถึงบัญชีเทรด (Trading Account) ในตลาด Forex ที่มีลักษณะแตกต่างกันออกไปในการส่งคำสั่งการซื้อขายในแต่ละปัญชี

  • บัญชีเทรด forex สำคัญอย่างไร ?
    • บัญชีเทรด (Trading Account) เป็นสิ่งที่นักเทรดทุกคนต้องมีเพื่อเข้าถึงการเทรดในตลาด Forex บัญชีเทรดทำหน้าที่เป็นเหมือนกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ใช้ฝากเงินทุนของนักเทรด และเป็นที่ที่นักเทรดทำการซื้อขายสกุลเงิน
    • บัญชีเทรดจะมีลักษณะและข้อกำหนดที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเภทของบัญชี ซึ่งแต่ละประเภทมีความเหมาะสมกับนักเทรดที่มีเป้าหมายและสไตล์การเทรดที่ต่างกัน บัญชีเทรดจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักเทรดสามารถจัดการความเสี่ยง ควบคุมการลงทุน และเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับตัวเองได้
    • ตัวอย่างเช่น บัญชี Standard เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่มีความรู้เบื้องต้น บัญชี ECN เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสเปรดต่ำและการเชื่อมต่อกับตลาดโดยตรง ส่วนบัญชี Micro และ Cent เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการทดลองกลยุทธ์โดยใช้ทุนต่ำ นอกจากนี้ยังมีบัญชี Islamic ที่ออกแบบมาให้ตรงกับหลักศาสนาอิสลาม ซึ่งไม่มีดอกเบี้ยข้ามคืน ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่เคร่งศาสนา เป็นต้น
    • การเลือกประเภทบัญชีเทรดจึงสำคัญมาก เพราะจะมีผลต่อกลยุทธ์และวิธีการเทรดของคุณในอนาคต การเลือกบัญชีที่ถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้มากขึ้น และลดความเสี่ยงในการเทรดในระยะยาวได้นั่นเองครับ

ประเภทบัญชีเทรด Forex มีกี่แบบกันนะ ?

รูปที่ 2 ภาพที่อธิบายประกอบสำหรับบัญชีประเภท Standard  และ ECN

บัญชี Forex โดกปกติจะถูกแบ่งออกเป็น 6 ประเภทหลัก ดังต่อไปนี้

  1. บัญชี Standard
  • ค่า Lot ต่อหน่วย: 1 Lot มาตรฐาน = 100,000 หน่วยของสกุลเงิน
  • เหมาะสำหรับใครและทำไมถึงเป็นที่นิยม
    • เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์แล้วหรือผู้ที่มีทุนพอสมควร
    • เป็นที่นิยมเพราะให้สภาพคล่องสูง มีสเปรดที่ไม่สูงมาก และเหมาะสำหรับการเทรดทั่วไป
  • ข้อดี
    • มีสภาพคล่องสูง ทำให้สามารถเปิดและปิดออเดอร์ได้รวดเร็ว
    • สเปรดต่ำเมื่อเทียบกับบัญชีที่มีทุนต่ำกว่า
    • ไม่มีค่าคอมมิชชั่นแยก (บางโบรกเกอร์)
  • ข้อเสีย
    • ต้องการทุนที่สูงซึ่งอาจจะไม่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
    • ความเสี่ยงสูงกว่าบัญชี Micro และ Cent …แต่ก็ทำให้ได้กำไรมากกว่าด้วยนะ
  1. บัญชี ECN (Electronic Communication Network)
  • ค่า Lot ต่อหน่วย: 1 Lot มาตรฐาน = 100,000 หน่วยของสกุลเงิน
  • ความพิเศษคือเชื่อมต่อโดยตรงกับตลาดจริง แตกต่างอย่างไร ?
    • บัญชี ECN ให้การเข้าถึงตลาดโดยตรง โดยไม่มีการแทรกแซงจากตัวกลาง ทำให้ราคาที่ได้รับเป็นราคาจริงจากตลาด
  • ข้อดี
    • สเปรดต่ำมาก โดยเฉพาะในช่วงที่มีสภาพคล่องสูง
    • การเชื่อมต่อกับตลาดจริง ทำให้ไม่เกิดการขัดขวางระหว่างการเทรด
    • เหมาะสำหรับการเทรดแบบสเกลป์ (Scalping) และการใช้ EA (Expert Advisor)
  • ข้อเสีย
    • มักจะมีค่าคอมมิชชั่นต่อการเทรด
    • ต้องใช้ทุนเริ่มต้นที่สูงกว่าบัญชี Micro หรือ Cent
    • อาจจะมีการขยับราคาเกิดขึ้นในช่วงที่สภาพคล่องน้อย

รูปที่ 3 ภาพที่อธิบายประกอบสำหรับบัญชีประเภท Micro , Nano  และ Cent

  1. บัญชี Micro
  • ค่า Lot ต่อหน่วย: 1 Micro Lot = 1,000 หน่วยของสกุลเงิน
  • เหมาะกับมือใหม่หรือไม่ ?
    • เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการทดลองเทรดจริงโดยใช้ทุนต่ำ
  • ข้อดี
    • สามารถเริ่มเทรดได้ด้วยทุนต่ำ
    • ความเสี่ยงน้อยกว่าบัญชี Standard และ ECN
    • เหมาะสำหรับการฝึกฝนและทดลองกลยุทธ์
  • ข้อเสีย
    • สเปรดอาจจะสูงกว่าบัญชี Standard หรือ ECN
    • กำไรที่ได้จากการเทรดจะน้อยกว่า เนื่องจากขนาด Lot ที่เล็กกว่า
  1. บัญชี Nano
  • ค่า Lot ต่อหน่วย: 1 Nano Lot = 100 หน่วยของสกุลเงิน
  • ทุนเล็กมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบกลยุทธ์ด้วยความเสี่ยงต่ำ
    • เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการเริ่มต้นเทรดด้วยทุนเล็กมาก หรือต้องการทดสอบกลยุทธ์ในสภาพแวดล้อมจริง
  • ข้อดี
    • ใช้ทุนเริ่มต้นที่น้อยมาก
    • เหมาะสำหรับการทดสอบกลยุทธ์โดยไม่ต้องเสี่ยงมาก
    • สามารถใช้ในการเรียนรู้ตลาดจริงได้โดยไม่ต้องใช้ทุนมาก
  • ข้อเสีย
    • สเปรดอาจจะสูงกว่า
    • เหมาะสำหรับการเทรดที่ไม่ซับซ้อนและระยะสั้น ๆ มากกว่าการเทรดระยะยาว
    • กำไรที่ได้ก็น้อยลงไปเช่นเดียวกัน
  1. บัญชี Cent
  • ค่า USD ต่อหน่วย: 1 USD = 1,000 Cent หรือก็คือ ฝากเงิน $1 ในบัญชี Cent ยอดเงินจะปรากฏเป็น 1,000 Cent เป็นต้น
  • ทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกฝนด้วยทุนจริง:
    • เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการเทรดด้วยทุนจริง แต่ไม่ต้องการเสี่ยงมาก
  • ข้อดี
    • ใช้ทุนต่ำในการเริ่มต้นเทรด
    • ความเสี่ยงน้อย เหมาะสำหรับการฝึกฝน
    • สามารถทำการเทรดในตลาดจริงได้
  • ข้อเสีย
    • กำไรต่อการเทรดจะน้อย เนื่องจากขนาด Lot เล็ก
    • ไม่เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการทำกำไรในปริมาณมาก

รูปที่ 4 ภาพที่อธิบายประกอบสำหรับบัญชีประเภท Islamic

  1. บัญชี Islamic
  • ค่า Lot ต่อหน่วย: ขึ้นอยู่กับประเภทของบัญชี (Standard, ECN, Micro) ที่ให้บริการแบบ Islamic
  • ความแตกต่างและประโยชน์สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเสียค่า Swap
    • บัญชี Islamic ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลาม โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ยข้ามคืน (Swap)
  • ข้อดี
    • ไม่มีดอกเบี้ยข้ามคืน ทำให้ไม่ขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม
    • เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการถือออเดอร์ในระยะยาวโดยไม่ต้องกังวลเรื่องดอกเบี้ย
  • ข้อเสีย
    • บางโบรกเกอร์อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมแทนการคิดดอกเบี้ยข้ามคืน
    • สเปรดอาจจะสูงกว่าบัญชีทั่วไป

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เลือกประเภทบัญชีอย่างไรถึงจะดี ?

คำถามที่ต้องถามก่อนเลือกบัญชี

การเลือกประเภทบัญชีเทรด Forex ที่เหมาะสมที่สุดควรเริ่มต้นจากการตั้งคำถามกับตัวเองเพื่อตรวจสอบความต้องการและสไตล์การเทรดของคุณให้ได้มากที่สุดโดยเริ่มต้นจากคำถามต่อไปนี้

  1. ขนาดทุนที่คุณมีคือเท่าไร?
    • หากคุณมีทุนจำกัด การเริ่มต้นด้วยบัญชีที่ใช้ทุนต่ำอย่าง บัญชี Cent, Nano, หรือ Micro จะช่วยให้คุณสามารถเทรดได้โดยมีความเสี่ยงต่ำและใช้ทุนน้อย
    • หากคุณมีทุนมากพอและต้องการกำไรที่มากขึ้น บัญชี Standard หรือ ECN จะเป็นทางเลือกที่ดีก็ได้ครับ
  2. ความถี่ในการเทรดของคุณเป็นอย่างไร?
    • ถ้าคุณเป็นนักเทรดที่ชอบทำกำไรในระยะสั้น (Scalper) หรือเทรดบ่อยครั้ง การใช้ บัญชี ECN ที่มีสเปรดต่ำจะเหมาะสมกว่า
    • หากคุณชอบการเทรดระยะยาวและไม่ต้องการเปิด-ปิดออเดอร์บ่อย ๆ บัญชี Standard หรือบัญชีที่ไม่มี Swap อย่างบัญชี Islamic ก็อาจจะเป็นทางที่ดี
  3. คุณใช้เลเวอเรจมากน้อยแค่ไหน?
    • ถ้าคุณต้องการใช้เลเวอเรจสูงเพื่อในการลงทุนขนาดเล็ก บัญชีอย่าง Micro, Nano, หรือ Cent ที่มักให้เลเวอเรจสูงก็อาจจะจะเป็นตัวเลือกที่ดีครับ
    • หากคุณต้องการการควบคุมความเสี่ยงมากขึ้น บัญชี Standard หรือ ECN ที่มีเลเวอเรจจำกัดจะเหมาะสมกว่า
  4. คุณต้องการความโปร่งใสมากน้อยแค่ไหน?
    • หากคุณต้องการความโปร่งใสสูง ไม่มีการแทรกแซงจากโบรกเกอร์ บัญชี ECN จะให้ความโปร่งใสมากที่สุดครับ
    • ในขณะเดียวกันบัญชี Standard มักให้ความสะดวกกว่าในการเทรด แต่ก็อาจมีการตั้งค่า Spread ที่สูงกว่าเล็กน้อยนั่นเอง

ไม่มีบัญชีใดที่ดีที่สุด แต่บัญชีที่ดีที่สุดคือบัญชีที่เหมาะกับคุณ

การเลือกบัญชีที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับ ความต้องการและสไตล์การเทรดของคุณ ซึ่งไม่มีบัญชีใดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทุกคน เพราะแต่ละคนมีความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนั้นคุณควรจะเข้าใจสิ่งที่อธิบายดังต่อไปนี้

  1. ทำความเข้าใจสไตล์การเทรดของตัวเอง
    • หากคุณเป็นมือใหม่ การเลือกบัญชีที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น บัญชี Micro, Nano, หรือ Cent จะทำให้คุณเรียนรู้และทดลองได้โดยไม่ต้องเสี่ยงมาก
    • หากคุณเป็นนักเทรดที่มีประสบการณ์ การเลือกบัญชี Standard หรือ ECN จะช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้มากขึ้นและใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายมากขึ้น
  2. พิจารณาจากทุนและเป้าหมายในการเทรด:
    • ทุนที่คุณสามารถใช้ได้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกบัญชี อย่าพยายามเทรดในบัญชีที่เกินขอบเขตทุนของคุณเองไม่อย่างนั้น อาจจะเกิดการล้างพอร์ตเกิดขึ้นได้
    • ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะใช้บัญชีเทรดเพื่อฝึกฝน, ทดสอบกลยุทธ์ หรือ ทำกำไรในระยะยาว เป็นต้น

สรุป

บัญชีเทรด Forex นั้นมีหลายประเภทที่สามารถเลือกได้ตามสไตล์การเทรดของคุณเอง ไม่ว่าจะเป็น บัญชี Standard ที่เหมาะสำหรับนักเทรดทั่วไปที่มีทุนพอสมควร บัญชี ECN สำหรับนักเทรดมืออาชีพที่ต้องการสเปรดต่ำและเชื่อมต่อกับตลาดจริง บัญชี Micro , Nano และ Cent ที่ใช้ทุนต่ำ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการทดลองกลยุทธ์ด้วยความเสี่ยงต่ำ และสุดท้ายคือ บัญชี Islamic ที่ไม่มีดอกเบี้ยข้ามคืน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเทรดตามหลักศาสนาอิสลาม นั้นเองครับ