วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบตลาด Forex กับตลาดอื่น ๆ ว่าทำไมตลาด Forex ถึงเป็นตลาดที่น่าสนใจ แรกเริ่มผมก็เทรดอยู่ตลาดหุ้น พอเข้ามาเทรดตลาด Forex แล้วก็ติดใจและไม่กลับไปตลาดหุ้นอีก ตลาดหุ้นเอาไว้สะสม Asset ก็แล้วกันส่วนตลาด Forex เทรดทำกำไรและเก็งกำไรมันส์กว่ามาก  โดยวันนี้เราจะมาเปรียบเทียบตลาด Forex กับ ตลาดหุ้น ตลาด Forex กับตลาด Futures กันว่าทำไมเราต้องมาเทรด ตลาด Forex

ตลาด Forex กับตลาดหุ้น

ถ้าจะให้เทียบตลาด Forex กับตลาดหุ้น ขนาดของตลาด Forex มีขนาดที่ใหญ่กว่ามาก ทำให้โอกาสในการเทรดของตลาด Forex มีมากกว่า เนื่องจากตลาดมีความผันผวนมากกว่า และถ้าหากตลาด Forex กับตลาดหุ้น ตลาดหุ้นนั้นไม่มี Leverage ให้ใช้ทำให้การมีโอกาสทำกำไรในจังหวะที่ตลาดแกว่งตัวสูงและมีความน่าจะเป็นในการเคลื่อนไหวทิศทางใดทิศทางหนึ่งมาก นั้นมาก และเราสามารถส่ง position ที่ขนาดใหญ่กว่า จำนวนเงินที่เรามี ได้ โดยต้องอาศัยความชำนาญนิดหน่อย

ซึ่งความได้เปรียบของการใช้ Leverage นี้บางครั้งเราสามารถทำกำไรได้หลัก 30 – 40 % ต่อการเทรดเลย ในกรณีที่เทรดได้แม่นยำ แต่อย่างไรก็ตามการเททรด เมื่อเทียบกับตลาดหุ้น แล้ว ตลาดหุ้นเป็น Asset ทำให้ความเสี่ยงมันย่อมน้อยกว่า ขณะที่ตลาด Forex เมื่อมีการใช้ Leverage อย่างผิด ๆ จะทำให้เราล้างพอร์ทได้เลยเช่นกัน ดังนั้น มันก็เหมือนดาบสองคมสำหรับ Leverage

mql4 & set

ภาพที่ 1 ตลาด Forex กับ ตลาดหุ้น

ตลาด Forex จะมีเครื่องมือที่เยอะกว่าตลาดหุ้น เพราะว่า เขียนด้วยภาษาที่เป็นมาตรฐานกว่า ขณะที่โบรคเกอร์ของตลาดหุ้นนั้นใช้บริการโปรแกรมสำเร็จรูปทำให้การใช้ indicator นั้นทำได้จำกัด  โดยมีเฉพาะจำนวนที่โปรแกรมแถมมาให้เท่านั้น

ตลาด Forex กับตลาด Futures

ถ้าหากจะเทียบกับตลาด Forex กับตลาด Futures แล้ว ก็ถือว่าเป็นตลาดที่ใช้ Leverage เช่นเดียวกัน  ข้อแตกต่างชองตลาด Forex กับตลาด Futures ของตลาดหุ้นไทย มี 2 ประการหลัก ๆ ได้แก่ Leverage ที่มีขนาดใหญ่กว่า ในการเทรด Forex Leverage สามารถสูงได้ถึง 1:3000 ขณะที่การเทรด Futures สามารถมี Leverage ได้ประมาณ 1:10 เท่านั้น

mql4 & TFEX

ภาพที่ 2 แสดงภาพสัญลักษณ์ Forex กับ ตลาดอนุพันธ์ ( TFEX หรือ Thailand Futures Exchange )

ซึ่งก็เป็นเงินที่จำนวนมากแล้ว ขณะเดียวกันยังมีกฏระเบียบการเทรดที่แตกต่างกันสำหรับการเทรด Forex และ Futures และที่สำคัญของการเทรด Forex เมื่อเปรียบเทียบกับตลาด Futures แล้ว ตลาด Forex มีสภาพคล่องมากกว่า ขณะที่ตลาด Futures ของไทยนั้นสภาพคล่องน้อยกว่า ทำให้บางครั้งการขายหรือซื้อในราคาที่ต้องการจริง ๆ นั้นไม่มีสินค้าหรือไม่มีผุ้ซื้อสินค้าเนื่องจากปริมาณผู้เล่นในตลาดน้อย

ข้อดีอื่น ๆ ของตลาด Forex

ซึ่งนั่นก็เป็นข้อได้เปรียบหลัก ๆ ของตลาด Forex ส่วนข้อดีข้อเสียอื่น ๆ ของตลาด Forex เพื่อจะตอบคำถามว่า ทำไมเราต้องเทรดตลาด Forex กัน มีดังนี้

ไม่มีค่าคอมมิชชั่น – ระบบ commission เป็นค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากบริการ ซึ่งตลาด Forex จะไม่มีค่าคอมมิชชั่น อย่างไรก็ตามถ้าในตลาด ECN ก็จะมีการเก็บคอมมิชั่น ซึ่งถ้าเป็นบัญชีแบบอื่น ก็จะไม่มีการเรียกเก็บโดยจะมีเพียงส่วนต่างของ Spread เท่านั้น ซึ่งก็เทียบเท่า Bid กับ Offer ของตลาด หุ้น หรือตลาด TFEX เช่นเดียวกัน เมื่อไม่มีค่าคอมมิชชั่น ทำให้ต้นทุนธุรกรรมนั้นต่ำกว่ามาก และหมายความว่าโอกาสในการทำกำไรได้ก็จะง่ายกว่า ตลาด TFEX

ตลาดเปิด 24 ชั่วโมง – นี่ก็เป็นอีก 1 ข้อดีของตลาด Forex คือ ตลาดที่เปิด 24 ชั่วโมงและไม่มีวันปิดทำให้โอกาสในการเทรดนั้นเกิดขึ้นมากมาย ไม่ต้องกังวลและกลัวว่าจะไม่มีโอกาสเทรดอีกแล้ว เราสามารถเฝ้าดูตลาดได้ทั้งวัน แตก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่สมควรนัก และข้อดีของตลาดที่เปิด 24 ชั่วโมง โอกาสในการเทรด จังหวะในการเทรด ทำให้มีโอกาสมากในการสร้างผลตอบแทนตามมา

ของฟรีเต็มไปหมด – ของฟรีในที่นี้ คือ ความรู้ ยกตัวอย่างเช่น บทเรียนออนไลน์บทนี้ ซึ่งเป็นบบทเรียนฟรีออนไลน์ของตลาด Forex แต่ถ้าหากว่าเราไปเทียบกับตลาดหุ้นหรือตลาด Futures แล้วเครื่องมือหรือว่าหนังสอืฟรีนั้นค่อนข้างหาได้ยาก นอกจากนี้ ของฟรีประเภท indicator ของตลาด Forex ยังมีให้ใช้มากมาย และสามารถเข้าถึงได้ทุกระดับ การประยุกต์ใช้ก็ง่ายเพราะว่า ส่วนใหญ่แล้วเป็น Software ประเภท opensource เสียส่วนใหญ่

มีระบบหุ่นยนต์ให้พัฒนา – ระบบการเทรดหุ่นยนต์ หรือ Forex EA นั้นมีให้บริการมากมายหลายระดับทั่งการเช่า การซื้อ หรือแม้กระทั่งการดาวน์โหลดฟรีมาใช้ ก็สามารถนำไปใช้ทำกำไรได้เช่นกัน ขณะที่ตลาด TFEX หรือตลาดหุ้นนั้นสร้างมาจากโปรแกรมเฉพาะ ทำให้การใช้ Robot ในการเทรดนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากเนื่องจากรายย่อยก็จะมีความจำกัดด้านทรัพยากรในการเทรด

เขียนโดย

Pakornkiat Poonsuk

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chatchawal Nakcharoen