บุคลิกของคนสุขุม รอบคอบ

คนที่สุขุมรอบคอบจริงๆ คนประเภทนี้ส่วนใหญ่ จะมีความสามารถมาก ระมัดระวัง ไตร่ตรองคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล ไม่ลงทุนสะเปะสะปะ ไม่เชื่อหรือทำการบุ่มบ่ามโดยง่าย ข้อได้เปรียบของคนประเภทนี้คือโอกาสชนะในเกมส์ Forex จะสูง โอกาสแพ้มีน้อย และสามารถแก้เกมส์เมื่อพลาดพลั้งได้ดี

เทรดเดอร์ประเภทนี้ถือได้ว่ามีน้อยมาก แต่ถ้าหากวัดว่า บุคลิกประเภทนี้มีในเทรดเดอร์ประเภทไหนก็ต้องบอกว่า มีในทุกประเภท และทุกช่วงเวลา ด้วยความที่เราเป็นคน ก็มักจะมีช่วงหนึ่งที่เราสุขุมและรอบคอบ เรามักใช้การไตร่ตรองพิจารณาไว้เป็นอย่างดีแล้วว่าจะต้องทำอย่างไร อย่างไรก็ตามนั่นก็ไม่ใช่หมายความว่า เราเป็นคนที่สุขุมรอบคอบ

ธรรมชาติของนักคิดและนักเทรด
ธรรมชาติของนักคิดและนักเทรด Photo by Simeon Jacobson on Unsplash

การจะเป็นเทรดเดอร์ที่สุขุมรอบคอบได้ ต้องมีบุคลิกด้านนี้เยอะกว่าด้านอื่นๆ ซึ่งได้จาก การเป็นคนแบบนั้นอยู่แล้วหรือว่า มีต้นทุนทางด้านนั้นเยอะและพัฒนาให้กลายเป็นคนแบบนั้น การเป็นคนสุขุมรอบคอบนี้ทำให้เราพัฒนาได้ยากมาก เพราะว่าเราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองพอสมควร เทรดเดอร์น้อยมากที่ผมจะเคยเห็นที่เป็นแบบนี้ แต่วิธีการเขียนบทความของผม เขียนจากการที่ผมมีบุคลิกทุกด้านที่ผมเคยผ่านมาแม้จะไม่ได้ออกด้านไหนชัดเจน แต่ก็พอจับความรู้สึกของเทรดเดอร์ประเภทนี้ได้

แผนการพัฒนาความรู้

สิ่งที่เทรดเดอร์กลุ่มนี้ต้องการ จะเป็นการพัฒนาทักษะและฝีมือ เช่นเดียวกับการพัฒนาพอร์ทลงทุน เพราะว่า เทรดเดอร์ที่สุขุม ไม่มีข้อเด่นด้านร่างกาย และไม่มีข้อเด่นด้านจิตใจ แต่ข้อเด่นของเขาคือ สติปัญญา ซึ่งก็เหมือนจะดูดีและใช้ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันกลับใช้ไม่ค่อยได้ผลเพราะว่า โลกของการเทรดไม่ได้มีเหตุผลสนับสนุนตั้งแต่แรก

ข้อสังเกต ให้ดูเงื่อนไข การใช้ indicator ก็จะเห็นว่าในเมื่อราคาชี้น้ำ indicator เพราะมันเอามาคำนวณ indicator แล้วทำไมเราถึงใช้ indicator อยู่ เทรดเดอร์กลุ่มนี้จะเกิดคำถาม หลายคำถามมันต้องได้รับการตอบคำถาม และมีกี่คำถามกันหล่ะที่ต้องตอบ ผมก็ตอบได้ว่าเยอะมาก สิ่งที่เทรดเดอร์กลุ่มนี้ต้องทำคือ การหาคำตอบไปเรื่อย ๆ ขณะที่ต้องฝึกเทรดไปเรื่อยๆ เช่นกัน เพราะว่า คำตอบของคำถามไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานขนาดไหนในการตอบ

แผนการเทรด Forex สำหรับคนสุขุม รอบคอบ มักจะมีคำถามมากมาย เช่น

  1. ควรเชื่อ indicator ประเภทไหนดี
  2. ควรเลือก Time Frame ไหนดี เพราะอะไร Time Frame ใหญ่หรือเล็กที่ชี้นำราคา
  3. เวลามีจริงหรือไม่
  4. กราฟแท่งเทียนสะท้อนความเป็นจริงหรือไม่
  5. ควรจะต้องทำกำไรกี่ % ต่อปี เพราะอะไร

นั่นก็เป็นตัวอย่างที่คำถามที่เทรดเดอร์ต้องเผชิญ ดังนั้นเทรดเดอร์ต้องรู้จักการช่างสังเกตและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง

แผนการพัฒนาพอร์ทลงทุน

เนื่องจากการพัฒนาพอร์ทลงทุน ช่วงแรกไม่ควรจะมุ่งเป้าที่กำไร สิ่งที่เทรดเดอร์ควรจะให้ความสำคัญ คือ การใช้พอร์ทเป็นแหล่งทดลองสำหรับการหาความรู้แต่ละอย่างเพราะว่า บางอย่างในตลาด Forex มันไม่สมเหตุสมผล

แผนการพัฒนาพอร์ทสำหรับเทรดเดอร์ประเภทนี้ ควรจะทำการเก็บเงินและสร้างผลตอบแทนที่น้อยนิดจนกว่าเทรดเดอร์จะมีความเข้าใจและเน้นที่การไม่ขาดทุนทำให้เทรดเดอร์ไม่ต้องไปเผชิญภาวะรบกวนทางใจมากนัก เพราะเทรดเดอร์ประเภทนี้ไม่ได้มีความโดดเด่นทางด้านจิตใจเป็นหลัก ควรมุ่งเป้าด้วยการออม สร้างบัญชีเทรด เช่น เก็บเงินเข้าพอร์ทเดือนละ 100 USD สร้างแผนการเทรด พัฒนาระบบในระยะ 10 ปีนี้ เมื่อได้ทำความเข้าใจกับวิธีการเทรดที่ถูกต้องแล้วจึง ลงทุนในวิธีการนั้น โดยทำการทดสอบระบบเป็นขั้นเป็นตอน

ระบบเทรดและวิธีการเทรดไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับคนกลุ่มนี้ เพราะว่าพวกเขามีสติปัญญาเพียงพอที่จะคิดระบบเองได้อยู่แล้ว และที่สำคัญความคิดสร้างสรรค์ ความสุขุมทำให้พวกเขาไม่ต้องเผชิญปัญหามากนัก อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ ๆ เลยก็คือ ระบบความรู้ที่มีอยู่ในตลาดยากจะพิสูจน์ได้ว่า ความรู้แบบไหนเป็นความรู้ที่ถูกต้อง ทำให้พวกเขาต้องพัฒนาความรู้ในการเทรดเองและสร้างระบบขึ้นมาเอง และต้องทดลองผ่านกาลเวลาซึ่งจะกินเวลานานมากกว่าเสียอีก

สรุป

ในการเทรด Forex เราอาจจะพบว่าเราสามารถมีบุคลิกได้หลายบุคลิก เพราะว่า บางคนอาจจะเป็นคนที่เชี่ยวชาญการสร้างสรรค์ขณะที่ก็มีบุคลิกของความสุขุมอยู่ด้วยอย่างไรก็ตาม การเป็นคนสุขุมรอบคอบนั้นแสดงถึงความมีปัญญา การระแวดระวัง ในการเทรด ความคิดที่เป็นเหตุเป็นผล การเป็นคนบุคลิกแบบนี้จึงต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรู้ที่ถูกต้องให้มาก และในการพัฒนาความรู้นี้ต้องใช้เวลาเพราะว่าความรู้ที่มีอยู่ในตลาด Forex นั้น ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นความรู้ที่ถูกต้องหรือไม่ สำหรับการพัฒนาแผนการเทรดสำหรับคนกลุ่มนี้แทนที่จะเน้นไปที่แผนการเทรด แต่สิ่งที่ต้องเน้น คือ การพัฒนาตัวเอง การพัฒนาความรู้ควบคู่ไปกับการพัฒนาพอร์ทลงทุน โดยเน้นไปที่การเติบโตอย่างต่อเนื่อง การเน้นการออมในช่วงที่ยังทำความเข้าใจกับการเทรดมากกว่าที่จะเน้นทำกำไรในระยะยาว และสร้างกำไรทางด้านความรู้เข้าสู่ตัวเองเป็นหลัก

เขียนโดย

Alisa William

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chonthicha Poomidon