Relative Strength Index (RSI) เป็น Tools หรือ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่นิยมใช้ในการประเมินความแข็งแกร่งและความเร็วของการเปลี่ยนแปลงราคาของสินทรัพย์ที่มีคนนิยมใช้กันเยอะมากโดยเฉพาะคนไทยอย่างเราๆ

ดังนั้นเราจะ ตั้งค่า RSI เท่าไหร่ ให้เหมาะสมสามารถช่วยให้เราสามารถตัดสินใจเข้า Position ซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในบทความนี้ผมจะนำเสนอวิธีการตั้งค่า RSI ในหลายรูปแบบ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ครับ

RSI คืออะไร และทำไมมันถึงสำคัญในการเทรด forex มาก

RSI เป็น indicator ตัวหนึ่งที่ถูกพัฒนาโดย J. Welles Wilder Jr. ในปี 1978 ใช้ในการวัดความเร็วและการเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนไหวของราคา โดยมีค่าระหว่าง 0 ถึง 100 เพื่อระบุสภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) ของสินทรัพย์ใดๆ

ประโยชน์ของ RSI ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค

  • ระบุหาสภาวะ Overbought และ Oversold: เมื่อ RSI สูงกว่า 70 แสดงว่าสินทรัพย์อาจอยู่ในสภาวะ Overbought และเมื่อ RSI ต่ำกว่า 30 แสดงว่าสินทรัพย์อาจอยู่ในสภาวะ Oversold
  • ช่วยในการตัดสินใจซื้อขาย: RSI ช่วยให้นักลงทุนระบุจุดเข้าซื้อหรือขายตามสภาวะตลาด
  • วิเคราะห์แนวโน้มราคา: การเปลี่ยนแปลงของ RSI สามารถบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มราคา

วิธีการคำนวณค่า RSI indicator

สูตรการคำนวณ RSI

  • RSI = 100 – (100 / (1 + RS))
  • โดยที่ RS = ค่าเฉลี่ยของการเปลี่ยนแปลงราคาที่เป็นบวก / ค่าเฉลี่ยของการเปลี่ยนแปลงราคาที่เป็นลบ

ตั้งค่า RSI เท่าไหร่ดี?

  • ค่า RSI มาตรฐานที่เทรดเดอร์นิยมใช้ คือ period 14 ซึ่งมันสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของเราเลย
  • ค่า RSI คนนิยมใช้รองลงมา คือ period 7 นั่นเอง เพราะไม่สั้น ไม่ยาวจนเกินไป เหมาะกับการเทรดใน Time Frame เล็ก ๆ ครับ

ความแตกต่างระหว่าง RSI ระยะสั้นและระยะยาว

  • RSI ระยะสั้น (เช่น period 5-7): การตั้งค่า RSI แบบนี้จะส่งผลให้มันมีการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้นบน Time Frame M1-30
  • RSI ระยะยาว (เช่น period 14-28): ให้สัญญาณที่เสถียรกว่า เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว บน Time Frame H1 ขึ้นไป

ค่า RSI ที่เหมาะสมเป็นแบบไหนกัน?

จริง ๆ แล้วค่า RSI มันสามารถปรับเปลี่ยนไปได้ตามกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์วางแผนจะใช้ หากจะใช้เพื่อดู Overbought และ Oversold ก็นิยมใช้อยู่ 2 setting คือ ช่วง 30-70 เป็นการใช้ในจังหวะที่ตลาดมีความผันผวนปานกลาง และ ช่วง 20-80 เอาไว้ใช้ในตลาดที่มีความผันผวนสูงครับ อย่างไรก็ตาม เราสามารถปรับค่า Period ของ RSI indicator ไปตามกลยุทธ์ต่าง ๆ ได้ดังนี้

  • Breakout Trading Strategy: กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการวาดเส้นแนวนอนและแนวทแยงบนจุดอ้างอิงของออสซิลเลเตอร์ เพื่อระบุจุด breakout ที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้า หมายความว่าเมื่อ RSI ส่งสัญญาณล่วงหน้า เราก็สามารถใช้ระดับเหล่านี้ในการเข้า Position ซื้อขายได้เลยเมื่อเกิดการ breakout ครับ
  • Divergence Strategy: การสังเกต divergence ระหว่างราคาและ RSI สามารถช่วยระบุการกลับตัวของแนวโน้มได้ เช่น เมื่อราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ RSI ไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ แสดงถึง bearish divergence เป็นต้น (ส่วนมากจะใช้เกณฑ์การตั้งค่า RSI แบบอิง Time Frame)
  • Overbought and Oversold Strategy: การใช้ RSI เพื่อระบุสภาวะ overbought (RSI > 70) และ oversold (RSI < 30) เพื่อหาจุดเข้าซื้อหรือขายที่เหมาะสม
  • RSI with Moving Averages: การใช้ RSI ร่วมกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อยืนยันสัญญาณ Position
  • RSI Trendline Strategy: การวาดเส้นแนวโน้มบนกราฟ RSI เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
  • RSI Two-Timeframe Strategy: การใช้ RSI บนสองกรอบเวลาเพื่อยืนยันสัญญาณการซื้อขาย

รูปที่ 1 แสดงตัวอย่างการใช้ RSI indicator ในการระบุ Divergence

การตั้งค่า RSI สำหรับมือใหม่

วิธีตั้งค่า RSI ขั้นพื้นฐาน

  1. เปิดโปรแกรม MetaTrader
  2. เลือก Insert -> Indicators -> Oscillator -> Relative strength index
  3. ตั้งค่าช่วงเวลา (Period) ที่ต้องการ เช่น 7 หรือ 14 เป็นต้น
  4. กำหนดระดับ Overbought และ Oversold ที่ต้องการ เช่น 70 และ 30 เป็นต้น

ข้อแนะนำในการใช้งาน RSI

  • ใช้ RSI ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ
  • หลีกเลี่ยงการตัดสินใจซื้อขายโดยอิงจาก RSI เพียงอย่างเดียว

วิธีตั้งค่า RSI สำหรับการเทรดระยะสั้นและระยะยาว

การเทรดระยะสั้นควร ตั้งค่า RSI เท่าไหร่

  • RSI ระยะสั้น (period 5-7): เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการจับการเคลื่อนไหวของราคาในระยะเวลาสั้น ๆ

รูปที่ 2 ตัวอย่างการดึง RSI indicator มาใช้ (ขั้นตอนที่ 1-3) และการตั้งค่า RSI (ขั้นตอนที่ 4-5)

การเทรดระยะยาวควร ตั้งค่า RSI เท่าไหร่

  • RSI ระยะยาว (period 14-28): เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มองหาแนวโน้มระยะยาวและต้องการลดสัญญาณรบกวน หรือพวก False Signal

การเปรียบเทียบผลลัพธ์จากการตั้งค่าที่แตกต่างกัน

การทดลองตั้งค่า RSI ในช่วงเวลาต่าง ๆ และวิเคราะห์ผลลัพธ์ย้อนหลังสามารถช่วยให้นักลงทุนค้นพบการตั้งค่าที่เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของตนเอง

ตั้งค่า RSI ให้เหมาะสมกับสินทรัพย์แต่ละประเภท

คู่เงิน: ค่าที่เหมาะสมในการวิเคราะห์ RSI

  • RSI Period 14: เป็นค่ามาตรฐานที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์คู่เงินที่มีสภาพคล่องสูง เช่น EUR/USD แต่ไม่เหมือนกับคู่เงินที่มีความผันผวนอย่าง GBP/USD

รูปที่ 3 ข้อควรระวังหนึ่งอย่างของการใช้ RSI indicator คือไม่ควรใช้แบบเดี่ยว ๆ นะครับ เพราะมันมีโอกาสพบ False signal ได้ง่าย

ทองคำ: เทคนิคการตั้งค่า RSI สำหรับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

  • การปรับค่า RSI ให้สั้นลง (เช่น period 7) อาจช่วยในการจับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่ผันผวน นอกจากนี้มันอาจจะเหมาะกับพวกน้ำมัน พลังงานอื่นๆ และพวกสกุลเงินดิจิทัลอย่างบิทคอยอีกด้วย

สรุป

RSI เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้วัดความเร็วและการเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนไหวของราคา โดยมีค่าสำคัญระหว่าง 0-100 การ ตั้งค่า RSI เท่าไหร่ จึงขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และประเภทสินทรัพย์ของนักลงทุน ค่า RSI มาตรฐานที่นิยมใช้คือ 14 ซึ่งเหมาะสำหรับการเทรดทั่วไป ในขณะที่ RSI ระยะสั้น (5-7) จะตอบสนองเร็วและเหมาะกับเทรดเดอร์ระยะสั้น บทความนี้แนะนำการตั้งค่าและกลยุทธ์ที่หลากหลาย เช่น Breakout, Divergence, และการตั้งค่าร่วมกับ Moving Averages เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการลงทุน

 

แหล่งอ้างอิง

 

เขียนโดย

Pakornkiat Poonsuk

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chonthicha Poomidon