ลองจินตนาการว่าคุณเป็นนักล่าที่ต้องการจับปลาตัวเล็กๆ ในสระใหญ่ คุณต้องไว ต้องแม่น และต้องรู้ว่าปลาอยู่ตรงไหน Scalping ในโลก Forex ก็ไม่ต่างกันเลยครับ มันคือเทคนิคการเทรดแบบรวดเร็วที่มีเป้าหมายเพื่อเก็บกำไรเล็กๆ น้อยๆ ในระยะเวลาสั้นๆ แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความตื่นเต้นจนหลายคนหลงใหลซึ่งจะมาเล่าให้ฟังกันในบทความนี้นะครับ

Scalping คืออะไร

รูปที่ 1 อธิบายและสรุปว่า Scalping คืออะไรแบบเข้าใจง่าย

Scalping แบบเข้าใจง่าย

  • Scalping ในโลกของ Forex คือกลยุทธ์การเทรดที่เน้นความเร็วเป็นหัวใจสำคัญครับ มันคือการเข้าออกตลาดอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที หรือบางครั้งอาจเป็นวินาที
  • เป้าหมายของ Scalping คือการเก็บกำไรเล็กๆ จากการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงสั้นๆ แต่ทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผลรวมกลายเป็นกำไรก้อนโตครับ
  • ทำไมถึงถูกเรียกว่า “เร็วแค่ไหนก็ต้องเร็วกว่า” น่ะเหรอครับ? เพราะตลาด Forex มีการเปลี่ยนแปลงทุกวินาที Scalper จึงต้องมีความสามารถในการวิเคราะห์กราฟ ตัดสินใจ และกดคำสั่งซื้อขายได้ทันที โดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว 
  • คิดง่ายๆ ว่า Scalping ก็เหมือนการจับปลาตัวเล็กๆ หลายตัวแทนที่จะรอจับปลาตัวใหญ่เพียงตัวเดียว ใครที่ชอบอะไรเร็วๆ รวยเร็ว หรือชอบความตื่นเต้น Scalping คือคำตอบเลยครับ

จุดเด่นของ Scalping

  • รวยเร็ว: คุณสามารถสะสมกำไรได้อย่างรวดเร็วถ้าคุณมีแผนการเทรดที่ดีและมีวินัย
  • เสี่ยงไว: ความเสี่ยงก็มาไวเช่นกัน เพราะการเทรดในระยะสั้นต้องอาศัยการตัดสินใจที่รวดเร็วและแม่นยำ
  • เปรียบเหมือนขี่รถมอเตอร์ไซค์ในสนามแข่ง: คุณไปถึงเป้าหมายเร็ว แต่ถ้าไม่ระวัง คุณก็ล้มไวเหมือนกัน

ตัวอย่าง Scalping ในชีวิตจริง

  • ลองนึกถึงแม่ค้าขายอาหารเช้าในตลาดที่ขายน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ แม่ค้าคนนี้ไม่หวังว่าจะขายสินค้าราคาสูงๆ แต่เน้นขายของในปริมาณมาก เช่น ปาท่องโก๋ชิ้นละ 5 บาท แต่ขายได้เป็นร้อยๆ ชิ้นในตอนเช้าเท่านั้น
  • Scalping ก็มีแนวคิดเดียวกันเลยครับ กำไรต่อออเดอร์อาจจะเล็กน้อย แต่ถ้าคุณทำได้หลายออเดอร์ คุณก็มีโอกาสเก็บกำไรได้มากในเวลาไม่นาน

ทำไมเทรดเดอร์หลายคนถึงสนใจ Scalping มากเป็นพิเศษ

ทำไมเทรดเดอร์หลายคนถึงสนใจกลยุทธ์นี้มากเป็นพิเศษ

  1. กำไรเร็วแบบติดจรวด
    Scalping คือกลยุทธ์ที่ทำให้เทรดเดอร์เห็นกำไรในพริบตาครับ ไม่ต้องรอข้ามวันหรือข้ามสัปดาห์ เพียงไม่กี่นาทีหรือไม่กี่วินาที หากจังหวะเหมาะ คุณอาจปิดดีลพร้อมกำไรได้ในทันที
  2. ลดความเสี่ยงจากความผันผวนระยะยาว
    เนื่องจาก Scalping เน้นการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวระยะสั้น เทรดเดอร์จึงไม่ต้องกังวลกับข่าวใหญ่หรือเหตุการณ์สำคัญที่อาจทำให้ตลาดเปลี่ยนทิศทางในระยะยาวครับ
  3. โอกาสในการเทรดที่หลากหลาย
    ในแต่ละวัน ตลาด Forex มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา Scalping เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์สามารถหาจังหวะเข้าออกได้หลายครั้ง ไม่ต้องรอจังหวะที่สมบูรณ์แบบในระยะยาว
  4. เหมาะกับคนที่มีเวลาอยู่หน้าจอ
    สำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบจับตากราฟ และพร้อมเข้าซื้อขายอยู่เสมอ Scalping ถือเป็นกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ เพราะมันช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนเป็น “นักล่า” ที่พร้อมจะคว้าโอกาสตลอดเวลาครับ
  5. ความท้าทายที่ตื่นเต้น
    Scalping ไม่ใช่แค่การเทรด แต่มันคือเกมที่ต้องใช้ไหวพริบ ความแม่นยำ และการตัดสินใจที่รวดเร็ว เทรดเดอร์หลายคนจึงหลงใหลในความตื่นเต้นที่กลยุทธ์นี้มอบให้ครับ
  6. เก็บเล็กผสมน้อย แต่ได้มากในระยะยาว
    ถึงแม้กำไรจากการเทรดแต่ละครั้งจะไม่มาก แต่เมื่อรวมกันหลายๆ ดีลต่อวัน ผลกำไรที่ได้อาจสร้างความพึงพอใจให้กับเทรดเดอร์ไม่น้อยเลยครับ

ด้วยคุณสมบัติที่เน้นความเร็ว ความตื่นเต้น และโอกาสในการทำกำไรที่หลากหลาย จึงไม่แปลกเลยครับที่ Scalping จะกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ยอดนิยมของเหล่าเทรดเดอร์ทั่วโลก

Scalping เหมาะกับใครบ้าง?

  1. คนที่รักความเร็วและตื่นเต้น
  • ถ้าคุณเป็นคนที่หลงใหลในความเร็ว ชอบความท้าทาย และตื่นเต้นกับการลุ้นผลลัพธ์แบบนาทีต่อนาที Scalping น่าจะเป็นแนวทางการเทรดที่เหมาะกับคุณครับ 
  • สไตล์การเทรดที่ไม่ต้องรอนาน เหมาะกับคนที่อยากได้กำไรเร็วๆ และพร้อมรับแรงกดดันจากการตัดสินใจที่ฉับไว
  1. คนที่มีเวลาเฝ้าหน้าจอทั้งวัน
  • Scalping ไม่ใช่แค่การกดออเดอร์แล้วเดินหนีไปดื่มกาแฟ
  • การเทรดแบบนี้ต้องการการจับตาดูตลาดอย่างใกล้ชิด การเคลื่อนไหวของราคาที่เปลี่ยนแปลงเร็วใน Time Frame สั้นๆ อาจเป็นโอกาสหรือความเสี่ยง คุณจึงต้องมีสมาธิและพร้อมปรับตัวตลอดเวลา
  • เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาและพร้อมจดจ่อกับหน้าจอแบบเต็มที่
  1. นักเทรดมือใหม่ควรลองหรือไม่?

Scalping ไม่ได้เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะ นักเทรดมือใหม่ ที่อาจยังไม่มีประสบการณ์มากพอในการวางกลยุทธ์หรือการจัดการอารมณ์

  • ข้อควรระวังสำหรับมือใหม่
    • ความเร็วในการเทรดอาจทำให้คุณสับสนและตัดสินใจผิดพลาด
    • การตั้งค่าหรือการจัดการความเสี่ยงอาจไม่รัดกุมพอ
    • ค่าธรรมเนียมในการเทรดบ่อยๆ อาจกินกำไรของคุณไป

ถ้าคุณยังใหม่ในตลาด Forex อาจเริ่มด้วยการศึกษาข้อมูลและทดลองในบัญชี Demo ก่อน เพื่อให้คุณเข้าใจธรรมชาติของ Scalping และรู้ว่ามันเหมาะกับสไตล์ของคุณหรือไม่ครับ

เทคนิคสำคัญในการ Scalping

รูปที่ 2 อธิบายเทคนิคสำคัญในการ Scalping ตั้งแต่เลือกคู่เงินที่เหมาะสมจนไปถึงการเลือก Time Frame

เลือกคู่เงินที่เหมาะสม

การเลือกคู่เงินเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับ Scalping เพราะคู่เงินที่มีความผันผวนสูงและ Spread ต่ำจะช่วยให้คุณทำกำไรได้ง่ายขึ้น

  • คู่เงินที่เหมาะสำหรับ Scalping ที่สุด
    • EUR/USD: คู่เงินยอดนิยมที่มี Spread ต่ำและสภาพคล่องสูง
    • GBP/USD: มีความผันผวนสูง เหมาะกับนัก Scalping ที่ต้องการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา
    • USD/JPY: อีกคู่เงินที่ Spread ต่ำและราคามักเคลื่อนไหวในกรอบชัดเจน
  • เคล็ดลับ: เลือกคู่เงินที่ตลาดกำลัง Active เช่น ช่วงเวลาตลาดลอนดอนหรือนิวยอร์ก เพื่อเพิ่มโอกาสในการเทรดที่มีประสิทธิภาพ

ต้องตั้ง Stop Loss และ Take Profit 

Scalping เป็นเกมที่รวดเร็ว ดังนั้นคุณต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการปกป้องพอร์ตของคุณ

  • Stop Loss
    • ควรตั้งให้ใกล้พอที่จะป้องกันความเสียหายใหญ่ แต่ไม่แน่นจนถูกปิดออเดอร์ก่อนเวลา
    • ตัวอย่าง: ตั้ง Stop Loss ห่างจากจุดเข้าเพียง 5-10 pips
  • Take Profit
    • ตั้งเป้าหมายกำไรที่เหมาะสม เช่น 10-20 pips ต่อการเทรด
    • อย่าโลภเกินไป เพราะ Scalping เน้นการสะสมกำไรเล็กๆ หลายๆ ครั้ง
  • อย่าลืม: การไม่ตั้ง Stop Loss เปรียบเหมือนขับรถโดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

ใช้กลยุทธ์ Time Frame สั้นๆ

Scalping เป็นการเทรดที่ใช้ Time Frame สั้นๆ เช่น

  • M1 (1 นาที): เหมาะสำหรับนักเทรดที่ชอบลุ้นแบบนาทีต่อนาที
  • M5 (5 นาที): ให้เวลามากขึ้นเล็กน้อยในการวิเคราะห์แนวโน้ม
  • เคล็ดลับ:
    • ใช้เครื่องมืออย่าง Moving Average หรือ Bollinger Bands เพื่อช่วยวิเคราะห์จุดเข้าออก
    • ฝึกอ่านกราฟแท่งเทียนใน Time Frame เล็กเพื่อจับจังหวะที่เหมาะสม
  • ความสนุกของ Scalping
    ลองนึกภาพการลุ้นผลแบบวินาทีต่อวินาที ทุกครั้งที่กราฟขยับ คุณจะได้ลุ้นไปด้วยว่าจะจบลงด้วยกำไรหรือเปล่า

การ Scalping ต้องการความแม่นยำและวินัยในทุกการตัดสินใจ ตั้งแต่การเลือกคู่เงิน การตั้ง Stop Loss/Take Profit ไปจนถึงการใช้ Time Frame ที่เหมาะสม ถ้าคุณวางแผนได้ดี Scalping จะเป็นการเทรดที่ทั้งสนุกและได้กำไรครับ

กลยุทธ์สำหรับ Scalping ที่แนะนำ

Scalping ไม่ใช่แค่การเทรดเร็วๆ แต่ต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนเพื่อให้สามารถทำกำไรในระยะสั้นได้อย่างมั่นคง ต่อไปนี้คือกลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับนัก Scalping ที่ต้องการความสำเร็จในตลาด Forex

รูปที่ 3 สรุปและอธิบายเทคนิคกลยุทธ์สำหรับ Scalping ที่แนะนำ

กลยุทธ์ Moving Average Crossover

หนึ่งในกลยุทธ์ที่ง่ายและเป็นที่นิยมสำหรับ Scalping

  • หลักการ
    ใช้เส้น Moving Average สองเส้น (เช่น EMA 9 และ EMA 21) เพื่อหาจุดเข้าและออก 

    • เมื่อเส้น EMA 9 ตัดขึ้นเหนือ EMA 21 เป็นสัญญาณซื้อ (Buy)
    • เมื่อเส้น EMA 9 ตัดลงใต้ EMA 21 เป็นสัญญาณขาย (Sell)
  • เหมาะสำหรับ: Time Frame M1 หรือ M5
  • เคล็ดลับ: ใช้ร่วมกับ RSI เพื่อยืนยันแนวโน้มและลดสัญญาณหลอก

กลยุทธ์ Bollinger Bands Breakout

เหมาะสำหรับตลาดที่มีความผันผวนสูง

  • หลักการ
    ใช้ Bollinger Bands ในการตรวจจับการ Breakout 

    • เมื่อราคาทะลุเส้นขอบบน: เข้าเทรด Sell
    • เมื่อราคาทะลุเส้นขอบล่าง: เข้าเทรด Buy
  • เหมาะสำหรับ: ตลาดที่มีข่าวสำคัญหรือช่วงเวลาที่มีการเคลื่อนไหวมาก
  • เคล็ดลับ: อย่าลืมตั้ง Stop Loss ใกล้จุดเข้าเพื่อป้องกันความเสียหายหากราคากลับตัว

กลยุทธ์ RSI Overbought/Oversold

เน้นการจับจังหวะกลับตัวในตลาดที่เคลื่อนไหวแรง

  • หลักการ
    ใช้ RSI (Relative Strength Index) เพื่อวิเคราะห์จุดที่ตลาด Overbought หรือ Oversold 

    • RSI สูงกว่า 70: ตลาด Overbought (เข้า Sell)
    • RSI ต่ำกว่า 30: ตลาด Oversold (เข้า Buy)
  • เหมาะสำหรับ: การ Scalping ใน Time Frame สั้น เช่น M1 หรือ M5
  • เคล็ดลับ: ใช้ร่วมกับแนวรับ-แนวต้านเพื่อเพิ่มความแม่นยำ

กลยุทธ์ Price Action

สำหรับคนที่ไม่ชอบใช้ Indicators

  • หลักการ
    มองหาการเคลื่อนไหวของกราฟแท่งเทียน (Candlestick) เพื่อวิเคราะห์จุดเข้าและออก 

    • Pin Bar: บอกถึงการกลับตัว
    • Inside Bar: สัญญาณของการ Breakout
  • เหมาะสำหรับ: Time Frame M1 หรือ M5 ที่มีแนวโน้มชัดเจน
  • เคล็ดลับ: ฝึกอ่านกราฟแท่งเทียนเพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมของราคา

กลยุทธ์ข่าวสำคัญ (News Scalping)

เหมาะสำหรับคนที่ชอบความตื่นเต้นและชอบติดตามข่าวสาร

  • หลักการ
    เทรดตามข่าวสำคัญที่ส่งผลต่อความผันผวนของราคา 

    • ใช้ปฏิทินข่าวเศรษฐกิจ หรือ Forex Factory เพื่อดูเหตุการณ์สำคัญ เช่น การประกาศอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นหรือลง 
  • เหมาะสำหรับ: การ Scalping ในช่วงเวลาที่ตลาดมีความเคลื่อนไหวแรง
  • เคล็ดลับ: ต้องเตรียมตัวล่วงหน้าและตั้ง Stop Loss/Take Profit อย่างรัดกุม

ข้อดีและข้อเสียของ Scalping

รูปที่ 4 สรุปข้อดีและข้อเสียของ Scalping แบบเข้าใจง่าย

ข้อดี

  1. ทุนน้อยก็เริ่มได้
    • Scalping เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้มีทุนมาก เพราะคุณสามารถเริ่มเทรดได้ด้วยเงินทุนขั้นต่ำ แล้วเก็บกำไรทีละเล็กทีละน้อย
    • ไม่ต้องรอสะสมเงินก้อนใหญ่เพื่อเริ่มต้นเทรด
  2. ได้กำไรไว ไม่ต้องรอนาน
    • การ Scalping ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีต่อออเดอร์ ทำให้คุณสามารถสร้างกำไรได้เร็วและหลายครั้งในวันเดียว
    • ไม่เหมือนการเทรดระยะยาวที่ต้องรอดูตลาดหลายวันหรือหลายสัปดาห์
  3. สนุกและตื่นเต้น
    • Scalping เป็นการเทรดที่เหมาะกับคนที่ชอบความท้าทายและการลุ้นแบบเรียลไทม์
    • การเคลื่อนไหวของกราฟในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้รู้สึกถึงพลังของตลาด

ข้อเสีย

  • ต้องมีวินัยสูงและไม่เหมาะกับคนใจร้อน
    • Scalping ต้องการการตัดสินใจที่รวดเร็วและความแม่นยำสูง หากคุณไม่มีวินัยหรือควบคุมอารมณ์ไม่ได้ คุณอาจตัดสินใจผิดพลาดจนเสียหาย
    • เหมาะสำหรับคนที่สามารถควบคุมความกดดันและมีสมาธิสูง
  • ค่าธรรมเนียมอาจกินกำไร
    • การ Scalping ต้องเปิดออเดอร์หลายครั้งในแต่ละวัน ทำให้ค่าธรรมเนียมการเทรด (Spread และ Commission) สะสมจนกลายเป็นต้นทุนที่สูง
    • หากไม่คำนวณต้นทุนให้ดี อาจกลายเป็นว่ากำไรที่ได้มาถูกค่าธรรมเนียมกินไปหมด
  • เหนื่อยและใช้พลังงานเยอะ
    • การต้องจับตาดูหน้าจอตลอดเวลาและตัดสินใจเร็ว อาจทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยหรือหมดพลังงาน
    • ไม่เหมาะกับคนที่ไม่สามารถโฟกัสต่อเนื่องได้เป็นเวลานาน

สรุป

Scalping เป็นวิธีการเทรดที่เหมาะสำหรับคนที่รักความเร็ว ตื่นเต้นกับการลุ้นผลในระยะสั้น และพร้อมเผชิญกับความท้าทายในการตัดสินใจที่ฉับไว หากคุณเป็นคนที่มีเวลามากพอจะเฝ้าหน้าจอ มีวินัยในการปฏิบัติตามแผน และไม่หวั่นต่อความเสี่ยงเล็กน้อยในทุกการเทรด Scalping อาจเป็นสไตล์ที่เหมาะกับคุณก็ได้นะครับ

แต่หากคุณเป็นคนที่ชอบความสบายใจ ไม่ถนัดในความเร็ว หรือไม่อยากเสียเวลากับการเฝ้าหน้าจอทั้งวัน Scalping อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี เพราะมันต้องการทั้งเวลาและพลังงานสูง รวมถึงความสามารถในการจัดการความเครียดและอารมณ์ที่มากกว่าการเทรดในรูปแบบอื่นนั่นเอง

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

 

เขียนโดย

Poomipat Wonganun

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chonthicha Poomidon