Skrill คืออะไร

Skrill คือ แพลตฟอร์มการชำระเงินออนไลน์ที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 2001 โดยในตอนแรกใช้ชื่อว่า Moneybookers ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น Skrill ในปี 2013 เราสามารถมองว่า Skrill เป็นเหมือนกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) ที่ช่วยให้การทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศสะดวกมากขึ้น

ที่สำคัญ คือ Skrill ได้รับการควบคุมโดย Financial Conduct Authority (FCA) ของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินที่มีมาตรฐานสูง ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าการใช้งานจะปลอดภัย

  • Skrill มีระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง ทั้งการเข้ารหัสข้อมูลแบบ SSL และระบบยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA) เพื่อป้องกันการฉ้อโกง
  • จุดเด่นของ Skrill ที่ทำให้เป็นที่นิยมคือ การรองรับการทำธุรกรรมในกว่า 40 สกุลเงิน
  • สามารถใช้งานได้ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ทำให้สะดวกมากสำหรับคนที่ต้องโอนเงินระหว่างประเทศบ่อยๆ โดยเฉพาะนักลงทุนในตลาด Forex หรือคนที่ต้องทำธุรกรรมออนไลน์กับต่างประเทศ
  • นอกจากนี้ Skrill ยังมีบริการบัตร Prepaid Mastercard ที่เชื่อมต่อกับบัญชี Skrill โดยตรง ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้จ่ายเงินในบัญชี Skrill ผ่านบัตรได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการถอนเงินที่ตู้ ATM หรือซื้อของตามร้านค้าที่รับบัตร Mastercard
  • สำหรับความปลอดภัย Skrill มีระบบป้องกันการฉ้อโกงที่เข้มงวด มีการตรวจสอบตัวตนของผู้ใช้งาน (KYC) และมีทีมงานคอยดูแลระบบตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน
  • มีระบบแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรม ทำให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบการใช้งานได้ตลอดเวลา
  • Skrill นั้นมีบัญชีให้เลือก 2 แบบคือ บัญชีส่วนตัวสำหรับการใช้งานทั่วไป และบัญชีธุรกิจสำหรับผู้ที่ต้องทำธุรกรรมในปริมาณมาก หรือต้องการฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเติม

ข้อดีและข้อเสียของ Skrill

ข้อดี

  • ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่ว่าจะทำธุรกรรมผ่านเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นมือถือ
  • รองรับการทำธุรกรรมในกว่า 40 สกุลเงินและใช้งานได้มากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก
  • มีระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง ทั้งการเข้ารหัส SSL และระบบยืนยันตัวตนสองชั้น
  • รองรับการใช้งานกับโบรกเกอร์ Forex ชั้นนำส่วนใหญ่ทั่วโลก เหมาะสำหรับนักเทรด
  • มีแอพพลิเคชั่นมือถือที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สามารถทำธุรกรรมได้ทุกที่ทุกเวลา
  • ทำธุรกรรมได้ทันที โดยเฉพาะการโอนระหว่างบัญชี Skrill ด้วยกัน เงินเข้าบัญชีปลายทางทันที
  • มีทีมบริการลูกค้าพร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันไม่มีวันหยุด

ข้อเสีย

  • ค่าธรรมเนียมค่อนข้างสูง โดยเฉพาะการฝากเงินผ่านบัตรเครดิต (2.9%) และการถอนเงิน ($5.50)
  • การถอนเงินในบางประเทศอาจใช้เวลานาน 2-5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับธนาคารปลายทาง
  • มีข้อจำกัดด้านวงเงินสำหรับบัญชีที่ยังไม่ยืนยันตัวตน ต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มวงเงิน
  • บางธนาคารไม่รองรับการทำธุรกรรมกับ Skrill ทำให้ไม่สามารถโอนเงินเข้า-ออกได้
  • มีข้อจำกัดการใช้งานในบางประเทศ บางบริการอาจไม่สามารถใช้งานได้ในบางพื้นที่
  • มีค่าธรรมเนียมรายเดือนสำหรับบัญชีที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเกิน 6 เดือน
  • การยืนยันตัวตนอาจใช้เวลานานและต้องส่งเอกสารหลายอย่าง โดยเฉพาะสำหรับการทำธุรกรรมวงเงินสูง

คู่มือการสมัครใช้งาน การเปิดบัญชี Skrill

การเปิดบัญชี Skrill สามารถทำได้โดยการเข้าไปที่เว็บไซต์หรือแอพพลิเคชันมือถือ (มีให้ดาวน์โหลดทั้งใน Google Play และ Apple Store) จากนั้นคลิกที่ “Register” เพื่อเริ่มต้น สิ่งสำคัญคือต้องใช้ IP Address ที่ได้รับจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณโดยตรง และหลีกเลี่ยงการใช้ VPN, พร็อกซี่ หรือบริการปกปิด IP อื่นๆ ในระหว่างการลงทะเบียน

ขั้นตอนการลงทะเบียนมีดังนี้

  1. เลือกประเทศและสกุลเงินที่ต้องการใช้
  2. ตั้งค่าข้อมูลการเข้าสู่ระบบ (อีเมลและรหัสผ่าน)
  3. ยืนยันอีเมลผ่านรหัสครั้งเดียวหรือลิงก์ยืนยัน
  4. กรอกข้อมูลส่วนตัว (เช่น ชื่อ วันเดือนปีเกิด)
  5. กรอกที่อยู่
  6. กรอกและยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ผ่าน SMS

ตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล คุณอาจต้องยืนยันแหล่งที่มาของเงินและวัตถุประสงค์หลักในการใช้บัญชี ข้อมูลทั้งหมดที่คุณให้ต้องถูกต้องและตรงกับบัตรประจำตัวและที่อยู่ปัจจุบันของคุณ

  • รหัสยืนยันอีเมล/ลิงก์มีอายุ 15 นาที หากส่งรหัสเกินจำนวนครั้งที่กำหนด สามารถลองใหม่ในวันถัดไปหรือใช้อีเมลอื่น

  • กรณีไม่ได้รับ SMS ให้ตรวจสอบการรับข้อความและสัญญาณเครือข่าย หากยังมีปัญหาให้ลองใส่เบอร์โทรศัพท์ใหม่

การรักษาความปลอดภัยบัญชี

  • หลังลงทะเบียนสำเร็จ
  • คุณต้องตั้งรหัส PIN 6 หลักสำหรับการเข้าสู่ระบบและทำธุรกรรม
  • สามารถเพิ่มความปลอดภัยได้ในส่วน Settings > Security > Additional authentication methods

บริการที่สามารถใช้งานได้

  • ฝากเงินเข้ากระเป๋าเงินผ่านบัตร โอนเงิน หรือบัตรกำนัล
  • ชำระเงินบนเว็บไซต์ที่รองรับ รวมถึงเว็บพนัน โป๊กเกอร์ และคาสิโน
  • รับ-ส่งเงินกับร้านค้าและบุคคล
  • เทรดคริปโตเคอร์เรนซี
  • ถอนเงินไปยังบัตร บัญชีธนาคาร หรือกระเป๋าเงินมือถือ
  • บางบริการอาจต้องยืนยันตัวตนก่อนใช้งาน และมีการกำหนดวงเงินสำหรับแต่ละบริการ วงเงินจะแสดงเมื่อทำรายการ หากถึงขีดจำกัด ระบบจะแจ้งให้ยืนยันตัวตนเพิ่มเติม

หมายเหตุ: ไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคาร แต่อาจมีข้อจำกัดในการฝาก-ถอนเงินในบางประเทศ และบัตร Skrill Prepaid Mastercard มีให้บริการเฉพาะผู้อยู่อาศัยในเขตเศรษฐกิจยุโรปและสหราชอาณาจักรเท่านั้น

คู่มือการ ฝากถอน โอน

1. บัตรเครดิต/เดบิต

  • Visa และ Mastercard – รองรับการถอนเงินได้ทันที
  • Diners Club – เหมาะสำหรับผู้ถือบัตรในเอเชีย
  • JCB – นิยมใช้ในญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออก

2. ระบบธนาคาร

  • โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง
  • ระบบ SWIFT สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ
  • ระบบโอนเงินท้องถิ่นในแต่ละประเทศ

วิธีการฝากเงินเข้า Skrill สำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย

  • ผ่าน Neteller
    • เชื่อมต่อบัญชี Neteller กับ Skrill
    • โอนเงินระหว่างกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ทันที
    • มีค่าธรรมเนียมการโอนที่แข่งขันได้
  • Bank Transfer (การโอนเงินผ่านธนาคาร)
    • โอนเงินจากบัญชีธนาคารในประเทศไทย
    • ใช้เวลาประมาณ 1-3 วันทำการ
    • เหมาะสำหรับการฝากเงินจำนวนมาก
  • ระบบ SWIFT
    • สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ
    • มีความปลอดภัยสูง
    • ใช้เวลาประมาณ 3-5 วันทำการ
    • มีค่าธรรมเนียมการโอนตามอัตราของธนาคาร

ข้อควรระวังในการใช้งาน

  • ตรวจสอบค่าธรรมเนียมของแต่ละช่องทางก่อนทำรายการ
  • ยืนยันตัวตนให้เรียบร้อยเพื่อเพิ่มวงเงินการทำธุรกรรม
  • เก็บรักษาข้อมูลการเข้าถึงบัญชีอย่างปลอดภัย
  • ติดตามประวัติการทำรายการอย่างสม่ำเสมอ

การใช้งาน Skrill ในประเทศไทยอาจมีข้อจำกัดบางประการ แต่ด้วยช่องทางการฝากและถอนเงินที่หลากหลาย ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักเทรด Forex ที่ต้องการความคล่องตัวในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ

Skrill รองรับการชำระเงิน ช่องทางไหนบ้าง

Skrill มีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายและครอบคลุม แต่ละช่องทางอย่างละเอียด ดังนี้

บัตรเครดิตและเดบิต

  • รองรับ Visa และ MasterCard
  • ฝากเงินได้ทันทีแบบเรียลไทม์
  • มีค่าธรรมเนียมการฝาก 2.9% ของยอดเงิน
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการทำรายการ
  • มีระบบความปลอดภัยขั้นสูงในการป้องกันการฉ้อโกง

การโอนเงินผ่านธนาคาร (Bank Transfer)

  • รองรับการโอนเงินจากธนาคารทั่วโลก
  • ใช้เวลาดำเนินการ 2-5 วันทำการ
  • เหมาะสำหรับการโอนเงินจำนวนมาก
  • ค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับธนาคารและประเทศ
  • ต้องยืนยันตัวตนก่อนใช้บริการ

บัตรเงินสด Paysafecard

  • เติมเงินผ่านรหัสบัตรที่ซื้อจากร้านค้า
  • ไม่ต้องใช้บัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคาร
  • เงินเข้าบัญชีทันทีหลังป้อนรหัส
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลทางการเงิน
  • มีวงเงินจำกัดต่อบัตร

การชำระด้วย Cryptocurrency

  • รองรับสกุลเงินดิจิทัลหลายประเภท
  • แปลงค่าเป็นสกุลเงินปกติได้ทันที
  • มีระบบความปลอดภัยสูง
  • เหมาะสำหรับนักลงทุนคริปโต
  • อัตราแลกเปลี่ยนเป็นไปตามราคาตลาด

การโอนระหว่างบัญชี Skrill

  • โอนได้ทันทีระหว่างผู้ใช้ Skrill
  • ค่าธรรมเนียมเพียง 1.45%
  • ใช้อีเมลในการระบุผู้รับ
  • มีระบบยืนยันตัวตนสองชั้น
  • ตรวจสอบประวัติการโอนได้ตลอด

การชำระผ่านมือถือ

  • ใช้งานผ่านแอพ Skrill บนสมาร์ทโฟน
  • รองรับการสแกน QR Code
  • ชำระเงินได้ทุกที่ทุกเวลา
  • มีระบบแจ้งเตือนทันที
  • ควบคุมการใช้จ่ายผ่านแอพได้

บริการโอนเงินระหว่างประเทศ

  • โอนเงินได้มากกว่า 40 สกุลเงิน
  • อัตราแลกเปลี่ยนที่แข่งขันได้
  • เหมาะสำหรับธุรกิจระหว่างประเทศ
  • มีบริการแจ้งเตือนสถานะการโอน
  • รองรับการโอนในกว่า 200 ประเทศ

การเชื่อมต่อกับ E-Wallet อื่นๆ

  • เชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำ
  • โอนเงินระหว่างแพลตฟอร์มได้
  • มีระบบตรวจสอบความปลอดภัย
  • รองรับการชำระเงินหลายรูปแบบ
  • ค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ

ทุกช่องทางการชำระเงินมีระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง และมีการติดตามธุรกรรมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการทุจริตและการฉ้อโกง ผู้ใช้สามารถเลือกช่องทางที่เหมาะสมตามความต้องการและข้อจำกัดของแต่ละประเทศค่ะ

ระบบการชำระเงินของ Skrill

ข้อมูลเพิ่มเติม นโยบายของ Skrill USA, INC.

การยืนยันตัวตนและความปลอดภัย

  • สำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินทุกประเภท Skrill ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะสามารถใช้งานช่องทางการชำระเงินต่างๆ ได้อย่างเต็มรูปแบบ
  • ผู้ใช้จำเป็นต้องผ่านการยืนยันตัวตนหลายระดับ เริ่มจากการยืนยันอีเมล ไปจนถึงการส่งเอกสารยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชน และหลักฐานที่อยู่ ยิ่งระดับการยืนยันตัวตนสูงขึ้น วงเงินในการทำธุรกรรมก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

ข้อจำกัดและวงเงิน

แต่ละช่องทางการชำระเงินมีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน เช่น

  • บัตรเครดิต/เดบิต: อาจมีการจำกัดวงเงินต่อวันหรือต่อเดือน ขึ้นอยู่กับประวัติการใช้งาน
  • การโอนผ่านธนาคาร: มักมีวงเงินขั้นต่ำและขั้นสูงที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ
  • Cryptocurrency: อาจมีข้อจำกัดในบางประเทศตามกฎหมายท้องถิ่น

เวลาในการดำเนินการ

การทำธุรกรรมแต่ละประเภทใช้เวลาต่างกัน ดังนี้

  • การโอนระหว่างบัญชี Skrill: เงินเข้าทันที
  • บัตรเครดิต/เดบิต: เงินเข้าทันที แต่อาจถูกระงับชั่วคราวเพื่อตรวจสอบ
  • การโอนผ่านธนาคาร: 2-5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับประเทศและธนาคาร
  • Cryptocurrency: ขึ้นอยู่กับเวลายืนยันธุรกรรมบนเครือข่าย

การป้องกันการฉ้อโกง

Skrill มีระบบตรวจจับการทุจริตที่ซับซ้อน คือ

  • ตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินทุก
  • ติดตามรูปแบบการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ
  • ยืนยันตัวตนเพิ่มเติมสำหรับธุรกรรมมูลค่าสูง
  • ระงับบัญชีทันทีหากพบความผิดปกติ

ข้อควรระวังในการใช้งาน

  • ตรวจสอบค่าธรรมเนียมก่อนทำรายการเสมอ
  • ระวังการหลอกลวงที่แอบอ้างเป็น Skrill
  • ไม่ควรแชร์รหัสผ่านหรือข้อมูลการเข้าถึงบัญชีกับผู้อื่น
  • ควรเก็บหลักฐานการทำรายการทุกครั้ง

การแก้ไขปัญหา

หากพบปัญหาในการทำธุรกรรม Skrill มีระบบช่วยเหลือ คือ

  • ฝ่ายบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
  • ระบบติดตามสถานะธุรกรรม
  • กระบวนการเรียกเงินคืนกรณีโอนผิด
  • ระบบระงับการทำรายการฉุกเฉิน

นโยบายการคืนเงิน

Skrill มีนโยบายการคืนเงินที่ชัดเจน

  • คืนเงินได้ภายใน 8 สัปดาห์สำหรับการชำระเงินอัตโนมัติที่ไม่ได้รับอนุญาต
  • มีระบบพิสูจน์ตัวตนก่อนการคืนเงิน
  • คืนเงินรวมค่าธรรมเนียมในกรณีที่เป็นความผิดพลาดของระบบ
  • มีขั้นตอนอุทธรณ์หากไม่เห็นด้วยกับผลการพิจารณา

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า Skrill ได้พัฒนาระบบการชำระเงินที่ครอบคลุม ปลอดภัย และมีความยืดหยุ่นสูง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทั่วโลก

 

ค่าธรรมเนียม

ประเภทการชำระเงินช่องทางการชำระเงินค่าธรรมเนียม
การถอนเงินCard Diners, Card JCB และ Visa/Mastercard2.50%
การฝากเงินNeteller3.49%
Bank Transfer218.77 บาท
Swift218.77 บาท
ประเภทบัญชีSkrill2.99%
True Skrill1.45%
การโอนเงินและรับเงินBank Transfer-
Debit Card, Paysafecash, Bank Transfer และ Sofort/Klarna1.00% ขึ้นไป
Credit Card2.99% ขึ้นไป
การแปลงสกุลเงินต่างประเทศ (ไม่ใช่สกุลเงิน Euro)-4.49%
การซื้อขายคริปโตSkrill1.50%
True Skrill1.50%
Silver VIP1.40%
Gold/Diamond VIP1.30%

เงื่อนไขการใช้งาน Skrill แบบละเอียด

ข้อมูลเพิ่มเติม: กฎหมายและกฎระเบียบด้านการชำระเงิน

  • การเปิดและใช้งานบัญชี: ผู้ใช้งานต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป และสามารถเปิดได้เพียง 1 บัญชีเท่านั้น เว้นแต่จะได้รับอนุญาตพิเศษ ในการสมัครต้องให้ข้อมูลที่เป็นความจริงและถูกต้อง หากไม่ปฏิบัติตามภายใน 3 เดือน อาจมีค่าปรับ Non-Compliance Fee สูงถึง 60 EUR บัญชี Skrill สามารถเลือกสกุลเงินหลักได้ตามที่บริษัทกำหนด และจะใช้สกุลเงินนั้นตลอดระยะเวลาการใช้งาน
  • การรักษาความปลอดภัย: ผู้ใช้ต้องเก็บรักษารหัสผ่านและข้อมูลความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด แนะนำให้เปลี่ยนรหัสผ่านทุก 3-6 เดือน และไม่ควรใช้รหัสผ่านที่คาดเดาได้ง่าย หากพบความผิดปกติหรือสงสัยว่าบัญชีถูกบุกรุก ต้องแจ้งบริษัททันทีและติดต่อตำรวจ บริษัทอาจระงับบัญชีชั่วคราวหากพบความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และจะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบโดยเร็วที่สุด

การทำธุรกรรมและค่าธรรมเนียม:

  • การฝากเงิน: สามารถทำได้หลายช่องทาง เช่น บัตรเครดิต/เดบิต โอนผ่านธนาคาร แต่ห้ามฝากด้วยเงินสดเว้นแต่ได้รับอนุญาต
  • การถอนเงิน: มีการกำหนดวงเงินตามระดับการยืนยันตัวตน ต้องถอนเข้าบัญชีที่เป็นชื่อของผู้ใช้เท่านั้น
  • การโอนเงิน: ทำได้ทันทีถ้าผู้รับมีบัญชี Skrill หากไม่มี จะส่งอีเมลแจ้งวิธีรับเงิน ซึ่งต้องรับภายใน 14 วัน
  • ค่าธรรมเนียม: มีทั้งค่าธรรมเนียมการทำรายการและค่าแลกเปลี่ยนเงิน โดยจะหักจากยอดเงินในบัญชีโดยตรง
  • การป้องกันการฟอกเงินและธุรกรรมต้องห้าม: มีข้อห้ามเด็ดขาดในการใช้บัญชีเพื่อกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น การพนัน การฟอกเงิน การก่อการร้าย หากพบการกระทำผิด บริษัทจะระงับหรือปิดบัญชีทันที และอาจรายงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังห้ามใช้บริการในบางประเทศตามที่ระบุในเว็บไซต์
  • การปิดบัญชีและการยกเลิก: ผู้ใช้สามารถปิดบัญชีได้ตลอดเวลาโดยติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า หากมียอดเงินคงเหลือ จะต้องถอนออกภายในเวลาที่กำหนด บริษัทอาจปิดบัญชีโดยแจ้งล่วงหน้า 2 เดือน หรือปิดทันทีหากพบการละเมิดข้อกำหนด

การคุ้มครองข้อมูลและการสื่อสาร:

  • ข้อมูลส่วนตัวจะถูกประมวลผลตามนโยบายความเป็นส่วนตัว
  • การติดต่อหลักจะผ่านทางอีเมล ผู้ใช้ต้องมีอีเมลที่ใช้งานได้อย่างน้อย 1 อีเมล
  • บริษัทจะส่งรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีทุกเดือน
  • รองรับหลายภาษา แต่การสื่อสารหลักจะเป็นภาษาอังกฤษ
  • การระงับข้อพิพาท: หากมีข้อร้องเรียน สามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าได้ บริษัทจะตอบกลับภายใน 48 ชั่วโมง หากไม่พอใจผลการพิจารณา สามารถร้องเรียนต่อ Financial Ombudsman Service ได้ โดยข้อกำหนดทั้งหมดอยู่ภายใต้กฎหมายอังกฤษและเวลส์
  • การคุ้มครองเงินฝาก: แม้ว่าบัญชี Skrill จะไม่ใช่บัญชีธนาคาร และไม่ได้รับความคุ้มครองจาก Financial Services Compensation Scheme (FSCS) แต่ก็อยู่ภายใต้ European Electronic Money Directive และกฎหมายของสหราชอาณาจักรที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยและสภาพคล่องของเงินในบัญชีอิเล็กทรอนิกส์
  • เรื่องวงเงินและข้อจำกัด: Skrill มีการกำหนดวงเงินในการทำธุรกรรมที่แตกต่างกันตามระดับการยืนยันตัวตนของผู้ใช้ โดยวงเงินจะปรับเปลี่ยนแบบไดนามิก ผู้ใช้สามารถดูวงเงินของตนเองได้ในโปรไฟล์บัญชี สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบวงเงินก่อนการฝากเงิน เพราะบริษัทไม่สามารถอนุญาตให้ทำธุรกรรมเกินวงเงินที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย
  • การทำธุรกรรมแบบต่อเนื่อง: Skrill อนุญาตให้ตั้งค่าการชำระเงินแบบต่อเนื่องได้ เช่น การจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน โดยผู้ใช้ต้องอนุญาตให้หักเงินจากบัญชีหรือบัตรที่ใช้ในการชำระครั้งแรก หากต้องการยกเลิก ต้องแจ้งทั้ง Skrill และผู้ให้บริการโดยตรง ไม่ควรยกเลิกผ่านธนาคารหรือผู้ออกบัตรเพียงอย่างเดียว
  • การคืนเงินและเรียกเก็บเงินคืน: กรณีที่มีการเรียกเก็บเงินคืน (Chargeback) หรือการคืนเงินที่ทำให้บัญชีติดลบ ผู้ใช้ต้องเติมเงินให้ครอบคลุมยอดติดลบทันที บริษัทอาจส่งการแจ้งเตือนและดำเนินการทางกฎหมายหากไม่มีการชำระ นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียม Chargeback 25 EUR ต่อครั้ง
  • บริการจากผู้ให้บริการภายนอก (Third Party Providers): Skrill อนุญาตให้ผู้ให้บริการภายนอกที่ได้รับอนุญาตจาก FCA เข้าถึงข้อมูลบัญชีและทำธุรกรรมแทนผู้ใช้ได้ แต่ต้องเป็นไปตามคำสั่งของผู้ใช้และข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ หากผู้ใช้ให้ข้อมูลความปลอดภัยกับบุคคลที่ไม่ใช่ผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต Skrill จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
  • ค่าบริการและค่าดูแลบัญชี: บัญชี Skrill ไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือนสำหรับการใช้งานส่วนตัว ตราบใดที่มีการเข้าสู่ระบบหรือทำธุรกรรมอย่างน้อยทุก 6 เดือน หากไม่มีการใช้งาน จะมีค่าธรรมเนียมการดูแลบัญชีที่ไม่มีการเคลื่อนไหว 5 EUR ต่อเดือน ซึ่งจะถูกหักจากยอดเงินคงเหลือในบัญชี
  • การแก้ไขข้อผิดพลาดในการทำธุรกรรม: หากพบการทำธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือผิดพลาด ผู้ใช้ต้องแจ้งบริษัททันทีและไม่เกิน 13 เดือนนับจากวันที่เกิดรายการ บริษัทจะคืนเงินรวมถึงค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง ยกเว้นกรณีที่ความผิดพลาดเกิดจากการประมาทเลินเล่อร้ายแรงของผู้ใช้
  • การโอนสิทธิ์และความเป็นเจ้าของ: บัญชี Skrill เป็นบัญชีส่วนบุคคล ไม่สามารถโอนสิทธิ์หรือมอบสิทธิ์ให้บุคคลอื่นได้ เงินในบัญชีเป็นของผู้ถือบัญชีเท่านั้น ยกเว้นกรณีการสืบทอดตามกฎหมาย ดังนั้นการพยายามโอนหรือให้สิทธิ์แก่บุคคลที่สามจะถือเป็นการละเมิดข้อกำหนด

บทสรุป

  • Skrill ถือว่ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) ที่ได้รับการกำกับดูแลจาก Financial Conduct Authority ในอังกฤษ ให้บริการฝาก-ถอน-โอนเงินระหว่างประเทศ การแปลงสกุลเงิน รวมถึงการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี
  • สามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ Skrill โดยกรอกข้อมูลส่วนตัว ยืนยันตัวตน และเลือกประเภทบัญชีที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Skrill ทั่วไป (ค่าธรรมเนียม 2.99%) หรือ True Skrill (ค่าธรรมเนียม 1.45%)
  • การใช้งานหลักๆ ครอบคลุมการฝากเงินผ่าน Neteller (3.49%), Bank Transfer หรือ Swift, การถอนเงินผ่านบัตรเครดิตหลากหลายประเภท และการโอนเงินระหว่างบัญชีทั้งในและต่างประเทศ 
  • นอกจากนี้ยังรองรับการซื้อขายคริปโตที่มีค่าธรรมเนียมตั้งแต่ 1.30-1.50% ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชี
  • ระบบความปลอดภัยของ Skrill เป็นไปตามมาตรฐาน PSD2 ของสหภาพยุโรป มีการยืนยันตัวตนแบบ Strong Customer Authentication และการป้องกันการฉ้อโกงระดับสูง รวมถึงการเข้ารหัสข้อมูลทุกการทำธุรกรรม

 

เขียนโดย

Somchai Witthtaya

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chonthicha Poomidon