NinjaTrader คืออะไร?

  • NinjaTrader คือ แพลตฟอร์มการซื้อขายที่พัฒนาโดยบริษัท NinjaTrader, LLC ตั้งอยู่ที่ซานต์ ลุยส์ มิสซูรี่ สหรัฐอเมริกา
  • ก่อตั้งและเริ่มพัฒนาในปี 2003 โดย Raymond Deux
  • มุ่งเน้นการเทรด Futures และ Forex เป็นหลัก
  • โดดเด่นด้านเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูงและการซื้อขายอัตโนมัติ
  • ได้รับความนิยมจากเทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการวิเคราะห์ตลาดในเชิงลึก
  • มีชื่อเสียงด้านความเร็วและความแม่นยำในการประมวลผลข้อมูล
  • เน้นการวิเคราะห์ Order Flow ที่ละเอียดสำหรับ Futures Traders
  • รองรับการปรับแต่งที่หลากหลายผ่าน NinjaScript

ข้อดี

  • เครื่องมือวิเคราะห์ Order Flow และ Volume ชั้นเยี่ยม
  • การทดสอบย้อนหลังที่แม่นยำมาก
  • ประสิทธิภาพสูงสำหรับการเทรด Futures
  • การปรับแต่งที่ไม่มีข้อจำกัด

ข้อเสีย

  • ราคาสูง
  • เรียนรู้ยากสำหรับมือใหม่
  • ไม่รองรับหุ้นและ ETF
  • ต้องมีความรู้โปรแกรมมิ่งเพื่อใช้งานเต็มประสิทธิภาพ

MetaTrader คืออะไร?

  • MetaTrader คือ แพลตฟอร์มการเทรดที่พัฒนาโดย MetaQuotes Software
  • มี 2 เวอร์ชันหลัก: MetaTrader 4 (MT4) เปิดตัวปี 2005 และ MetaTrader 5 (MT5) เปิดตัวปี 2010
  • ได้รับความนิยมมากที่สุดในวงการเทรด Forex ทั่วโลก
  • MT4 มุ่งเน้น Forex และ CFDs เป็นหลัก
  • MT5 รองรับสินทรัพย์หลากหลายมากขึ้น รวมถึงหุ้น, Futures, และ Options
  • มีระบบ Expert Advisors (EAs) สำหรับการเทรดอัตโนมัติที่แข็งแกร่ง
  • มักมาพร้อมกับโบรกเกอร์ Forex โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • ใช้งานง่ายและมีความเสถียรสูง

ข้อดี

  • ฟรีจากโบรกเกอร์
  • ระบบ Expert Advisors ที่แข็งแกร่ง
  • ใช้ทรัพยากรน้อย ทำงานได้แม้บนเครื่องสเปคต่ำ
  • ชุมชนและตลาด EAs ที่ใหญ่มาก

ข้อเสีย

  • อินเตอร์เฟซดูล้าสมัย
  • MT4 และ MT5 ไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้
  • ฟีเจอร์บางอย่างขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์
  • การอัพเดตนวัตกรรมใหม่ช้ากว่าแพลตฟอร์มอื่น

TradingView คืออะไร?

  • TradingView คือ แพลตฟอร์มการวิเคราะห์กราฟและชุมชนสำหรับนักเทรด เปิดตัวในปี 2011
  • พัฒนาโดยบริษัท TradingView Inc.
  • ทำงานบนเว็บเบราว์เซอร์ (cloud-based) ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์
  • ครอบคลุมสินทรัพย์หลากหลายประเภท: หุ้น, Forex, คริปโต, ดัชนี, ETFs, สินค้าโภคภัณฑ์
  • มีชุมชนโซเชียลขนาดใหญ่สำหรับแบ่งปันไอเดียและกลยุทธ์การเทรด
  • มีภาษา Pine Script สำหรับเขียนอินดิเคเตอร์และกลยุทธ์การเทรดเอง
  • อินเตอร์เฟซสวยงาม ทันสมัย และใช้งานง่าย
  • เข้าถึงข้อมูลตลาดทั่วโลกในที่เดียว

ข้อดี

  • เข้าถึงง่ายจากทุกอุปกรณ์
  • อินเตอร์เฟซสวยงาม ทันสมัย ใช้งานง่าย
  • ครอบคลุมสินทรัพย์และตลาดทั่วโลก
  • ชุมชนโซเชียลขนาดใหญ่และอินดิเคเตอร์มากมาย

ข้อเสีย

  • การซื้อขายอัตโนมัติมีข้อจำกัด
  • ต้องสมัครสมาชิกแบบเสียเงินเพื่อใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูง
  • การทดสอบย้อนหลังไม่ละเอียดพอสำหรับมืออาชีพ
  • อาจมีปัญหาความล่าช้าเนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มบนเว็บ

 

แพลตฟอร์มไหนดีที่สุด?

การพิจารณาว่า แพลตฟอร์มไหน “ดีที่สุด” ขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของคุณในฐานะนักเทรด แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดแข็งที่แตกต่างกันซึ่งทำให้เหมาะสำหรับกิจกรรมการเทรดและโปรไฟล์นักเทรดที่แตกต่างกัน

สำหรับคนทั่วไป TradingView คือคำตอบที่ดีที่สุด เว้นแต่คุณมีความต้องการเฉพาะทางที่ MetaTrader หรือ NinjaTrader ตอบโจทย์ได้ดีกว่า

ถ้าต้องเลือกแพลตฟอร์มที่ดีที่สุด คือ

TradingView ดีที่สุดสำหรับคนส่วนใหญ่ เพราะ:

  • ถ้าคุณเทรดหลายประเภทสินทรัพย์ ให้คุณค่ากับความง่ายในการใช้งานและการเข้าถึงได้บนหลายอุปกรณ์ หรือได้ประโยชน์จากการเทรดเชิงสังคมและการแบ่งปันไอเดีย
  • ใช้งานง่ายที่สุด ไม่ต้องติดตั้ง เข้าได้ทุกอุปกรณ์
  • ครอบคลุมสินทรัพย์หลากหลายที่สุด (หุ้น, Forex, คริปโต, ฯลฯ)
  • มีชุมชนใหญ่ที่แชร์ไอเดียและอินดิเคเตอร์มากกว่า 100,000 ตัว
  • เหมาะกับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นฟรี

MetaTrader ดีที่สุดถ้าคุณ:

  • เน้นเทรด Forex เป็นหลัก ต้องการใช้กลยุทธ์ EA หรือต้องการแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ซึ่งทำงานได้ดีแม้กับทรัพยากรการคำนวณที่จำกัด
  • ต้องการรันระบบเทรดอัตโนมัติ (Expert Advisors) โดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอทั้งวัน
  • มีคอมพิวเตอร์สเปคต่ำ
  • ไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม (ฟรีจากโบรกเกอร์)

NinjaTrader ดีที่สุดถ้าคุณ:

  • เน้นเทรด Futures แบบจริงจัง ต้องการการวิเคราะห์ เช่น Order Flow แบบลึกๆ, DOM, Footprint Chart  
  • ยอมจ่ายแพง ($99/เดือน หรือ $1,499 ตลอดชีพ) หรือยอมจ่ายมากกว่านั้นได้
  • มีความรู้โปรแกรมมิ่งและมีเวลาเรียนรู้เยอะ

“ถ้าให้ดี ควรใช้หลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน” ใช้ TradingView สำหรับการสแกนตลาดเบื้องต้นและหาไอเดียเทรด, ใช้ MetaTrader สำหรับการเทรด EA และใช้ NinjaTrader สำหรับการวิเคราะห์ตลาด Futures เชิงลึก

ตัวเลือกของคุณควรสอดคล้องกับสไตล์การเทรด ตลาดที่คุณให้ความสำคัญ ความต้องการทางเทคนิค และข้อจำกัดด้านงบประมาณของคุณ พิจารณาเริ่มต้นด้วยแพลตฟอร์มที่ตรงกับความต้องการทันทีของคุณมากที่สุด โดยตระหนักว่าความต้องการของคุณอาจเปลี่ยนแปลงไปเมื่อคุณพัฒนาในฐานะเทรดเดอร์

ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ

ความน่าเชื่อถือ

  • NinjaTrader: บริษัทก่อตั้งปี 2003 ได้รับการรับรองจาก NFA และ CFTC มีความโปร่งใสด้านราคา แต่มีประวัติถูกปรับในปี 2024 จากปัญหาด้านการกำกับดูแล
  • MetaTrader: บริษัทก่อตั้งปี 2000 เป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรม Forex มีโบรกเกอร์ใช้งานมากกว่า 750 ราย มีความเสถียรสูงแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีข้อจำกัด แต่การอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ ค่อนข้างช้า
  • TradingView: ก่อตั้งปี 2011 เติบโตรวดเร็วมีผู้ใช้กว่า 30 ล้านคน ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนชั้นนำ บริการข้อมูลตลาดที่ถูกต้องจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ทีมสนับสนุนตอบสนองรวดเร็ว

การป้องกันความปลอดภัย

  • NinjaTrader: การเข้ารหัส SSL/TLS ที่แข็งแกร่ง ระบบยืนยันตัวตนที่ดี การควบคุมการเข้าถึงที่ละเอียด
  • MetaTrader: การเข้ารหัส RSA 128-bit มาตรฐาน ระบบยืนยันตัวตนพื้นฐาน เสี่ยงต่อมัลแวร์มากกว่า
  • TradingView: การเข้ารหัส HTTPS/SSL ที่ทันสมัย การยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA) ความเสี่ยงจากมัลแวร์ต่ำ

การกำกับดูแลและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

  • NinjaTrader: ได้รับการกำกับดูแลโดย NFA และ CFTC ในสหรัฐอเมริกา มีประวัติการถูกปรับในปี 2024
  • MetaTrader: ไม่ได้รับการกำกับดูแลโดยตรง แต่โบรกเกอร์ที่ใช้ MT4/MT5 ส่วนใหญ่ได้รับการกำกับดูแล
  • TradingView: ไม่ได้จัดการเงินของลูกค้าโดยตรง การซื้อขายเกิดขึ้นผ่านโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแล

ความเสถียรของระบบ

  • NinjaTrader: มีความเสถียรสูง เหมาะสำหรับการเทรด High Frequency Trading มีการสำรองข้อมูลที่แข็งแกร่ง
  • MetaTrader: มีชื่อเสียงในด้านความเสถียร ทำงานได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีทรัพยากรจำกัด
  • TradingView: อาจมีปัญหาความล่าช้าเนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มบนเว็บ แต่มีเสถียรภาพดีสำหรับการวิเคราะห์

ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของบริษัท

  • NinjaTrader: บริษัทที่มีประวัติยาวนาน มีความโปร่งใสในโครงสร้างราคา มีประเด็นเรื่องการกำกับดูแลในอดีต
  • MetaTrader: บริษัทที่มีประวัติยาวนาน เป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรม แต่บางครั้งขาดความโปร่งใสในเรื่องการอัพเดต
  • TradingView: บริษัทที่เติบโตเร็ว ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนที่มีชื่อเสียง มีความโปร่งใสในนโยบายและราคา

ความแตกต่างของ NinjaTrader vs MetaTrader vs TradingView

การใช้งานและการเข้าถึง

ด้านสินทรัพย์ที่รองรับ

ด้านเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค

ระบบซื้อขายอัตโนมัติ

ค่าใช้จ่าย

กลุ่มผู้ใช้เป้าหมาย

ความเหมือนระหว่าง NinjaTrader, MetaTrader และ TradingView

สรุป คำแนะนำสำหรับนักลงทุนไทย

  • หากคุณเทรด Forex เป็นหลัก – MetaTrader น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากโบรกเกอร์ Forex ในไทยส่วนใหญ่รองรับ และมีชุมชนผู้ใช้ภาษาไทยขนาดใหญ่
  • หากคุณเทรดหุ้นไทย และต้องการเครื่องมือวิเคราะห์ที่ใช้งานง่าย – TradingView เป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากครอบคลุมตลาดหลักทรัพย์ไทยได้ดี และใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา
  • หากคุณเป็นเทรดเดอร์ Futures มืออาชีพ – NinjaTrader อาจคุ้มค่ากับการลงทุน แต่ต้องเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้ระบบที่ซับซ้อนและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

สุดท้ายแล้ว นักลงทุนไทยหลายคนใช้หลายแพลตฟอร์มร่วมกัน เช่น ใช้ TradingView สำหรับวิเคราะห์และคัดกรองหุ้น แล้วใช้ MetaTrader สำหรับการเทรด Forex และระบบอัตโนมัติ วิธีนี้ช่วยให้คุณได้ประโยชน์สูงสุดจากจุดแข็งของแต่ละแพลตฟอร์ม และลดข้อจำกัดที่อาจมีผลต่อการลงทุนของคุณ

FAQ — NinjaTrader vs MetaTrader vs TradingView – เทียบหมัดต่อหมัด ใครคือที่สุด?


NinjaTrader มีราคาค่อนข้างสูง ด้วยจุดที่เหนือกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ คือเครื่องมือวิเคราะห์ Order Flow และ Volume Profile ที่ละเอียดมากๆ ช่วยให้เทรดเดอเร์เห็น “เบื้องหลัง” การเคลื่อนไหวของราคา เห็นแรงซื้อแรงขายที่แท้จริง ไม่ใช่แค่อาศัย Indicator ทั่วไป และระบบ Backtesting ของ NinjaTrader ก็มีความแม่นยำสูง ทำให้สามารถทดสอบกลยุทธ์การเทรดได้อย่างละเอียดก่อนนำไปใช้จริง
ไม่แนะนำเลย ถ้าจะเน้นเทรด Forex หรือ หุ้น แล้วจะมาใช้ NinjaTrader จริงๆ NinjaTrader มีฟังก์ชันรองรับการเทรด Forex อยู่บ้าง แต่ฟีเจอร์และเครื่องมือต่างๆ ถูกออกแบบมาเน้นการวิเคราะห์ตลาด Futures เป็นหลัก ยิ่งเอา NinjaTrader ไปเทรดหุ้น คือเสียของเลย เพราะไม่ได้มีข้อมูลหรือเครื่องมือที่รองรับตลาดหุ้นมากเท่ากับแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง TradingView หรือ MetaTrader 5 
เอาจริงๆ ก็ ยากกว่า TradingView หรือ MetaTrader ในแง่ของ User Interface และจำนวนฟีเจอร์ที่ “ซ่อน” อยู่ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใข้ความรู้โปรแกรมมิ่ง ถ้าจะใช้งานแค่พื้นฐานทั่วไป เช่น การดูกราฟ การวางออเดอร์ หรือการใช้ Indicators ที่มีมาให้ แต่ถ้าอยากจะปลดล็อกพลังที่แท้จริง ของ NinjaTrader เช่น การสร้าง Custom Indicators หรือพัฒนาระบบเทรดอัตโนมัติด้วย NinjaScript อันนี้ยังไงก็ต้องมีพื้นฐานการเขียนโค้ดบ้าง
ไม่มีโบรกเกอร์ Forex เจ้าไหนให้ License NinjaTrader ฟรีๆ แบบไม่มีเงื่อนไข แต่มีบางโบรกเช่น FXCM หรือ Interactive Brokers รองรับการเชื่อมต่ออยู่ แนะนำให้สมัครตรงที่ NinjaTrader จะง่ายกว่า ใช้งานพื้นฐานหลักๆได้ เช่น Technical Analysis, Backtesting (ด้วย Playback Data), และพวกจำลองการเทรด (Paper Trading) แต่เข้าไม่ถึง Order Flow + Add on
บอกเลยร้าง ๆ โหรงเหรง แห้งเหี่ยว เช่นใน NinjaTrader Community Forum ด้วยสินค้าที่ “เฉพาะกลุ่ม” เน้นไปที่เทรดเดอร์ Futures + การพัฒนา Algo Trading ด้วย NinjaScript ถ้าเทียบกับ TradingView หรือ MetaTrader ต้องยอมรับว่า สู้ยาก ในแง่ของขนาดและความคึกคัก TradingView นี่ระดับ “Social Network ของเทรดเดอร์” ส่วน MetaTrader ก็มี Community ที่โครตแข็งแกร่ง โดยเฉพาะ EA

 

เขียนโดย

Pakornkiat Poonsuk

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chonthicha Poomidon