Ponzi Scheme คืออะไร? เข้าใจพื้นฐานก่อนตกเป็นเหยื่อ

  • Ponzi Scheme (แชร์ลูกโซ่) คือรูปแบบการหลอกลวงทางการเงิน
  • ใช้ เงินของนักลงทุนใหม่ ไปจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับนักลงทุนเก่า
  • ไม่มีธุรกิจจริงอยู่เบื้องหลัง เช่น ขายสินค้า หรือทำกำไรจากตลาด
  • ระบบจะพังทันที ถ้าไม่มีคนใหม่เข้ามาลงทุนต่อ
  • ปัจจุบันยังถูกใช้ซ้ำ ๆ ผ่านหลายรูปแบบ เช่น การลงทุนออนไลน์, คริปโต, เทรด Forex, อสังหา, ธุรกิจ MLM ปลอม ๆ

จุดเริ่มต้นของ Ponzi Scheme จากอดีตสู่ปัจจุบัน

  • ต้นกำเนิดคำว่า “Ponzi Scheme” มาจาก Charles Ponzi นักต้มตุ๋นชาวอิตาลีที่โด่งดังในสหรัฐฯ ช่วงปี 1920
  • เขาหลอกประชาชนว่า จะลงทุนใน “คูปองไปรษณีย์ระหว่างประเทศ” และให้ผลตอบแทนสูงถึง 50% ใน 45 วัน
  • ความจริงคือ เขาไม่ได้ลงทุนอะไรเลย ใช้เงินจาก “คนใหม่” มาจ่ายให้ “คนเก่า” จนระบบพัง
  • Charles Ponzi ถูกจับในปี 1920 แต่แนวคิดนี้ไม่เคยตาย กลับถูกดัดแปลงและใช้ซ้ำตลอดหลายทศวรรษ

ภาพแสดงถึงกระบวนการ Ponzi แชร์ลูกโซ่ ที่มีการเอาเงินนักลงทุนใหม่ ให้นักลงทุนเก่า และ ก็ต่อยอดไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะไม่มีผู้เข้าร่วมใหม่

พัฒนาการของ Ponzi Scheme ในยุคต่าง ๆ

  • ยุคก่อนอินเทอร์เน็ต: ผ่านโบรชัวร์, ใบปลิว, การชักชวนแบบปากต่อปาก
  • ยุคอินเทอร์เน็ต: ใช้เว็บไซต์ปลอม แพลตฟอร์มลงทุนหลอก ๆ ที่ดูน่าเชื่อถือ
  • ยุคโซเชียลมีเดีย: หลอกผ่าน Facebook, LINE, TikTok โดยใช้ Influencer หรือคนใกล้ตัวสร้างความเชื่อมั่น
  • ยุคคริปโตและ NFT: แฝงตัวมากับเหรียญใหม่ โครงการ ICO หรือโครงการปลอมที่อ้างเทคโนโลยี

ภาพแสดงถึงพัฒนาการของแชร์ลูกโซ่ ตั้งแต่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ต จน ปัจจุบัน

10 ข้อ รู้ให้ทัน ไม่มีวันตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่

1.สัญญาผลตอบแทนสูงเกินจริง

รายละเอียด

  • แชร์ลูกโซ่มักหลอกล่อด้วยการให้ผลตอบแทนที่ “เกินจริง” และ “ไม่สมเหตุสมผล” เช่น การการันตี 10% ต่อเดือน หรือ 120% ต่อปี ทั้งที่การลงทุนทั่วไปมีความผันผวน
  • ใช้คำพูดเช่น “ได้เงินง่าย ไม่ต้องทำอะไร”, “ลงทุนครั้งเดียวในตลาดการเงิน หรือ กองทุน รวยตลอดชีวิต”

วิธีสังเกต

  • หากมีการการันตีผลตอบแทนสูงผิดปกติ โดยไม่มีการพูดถึงความเสี่ยงใด ๆ ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นการหลอกลวง

ตัวอย่างจริง
คดี Forex-3D โฆษณาชวนเชื่อว่าจะให้ผลตอบแทนสูงถึง 10% ต่อเดือน โดยอ้างว่าใช้ระบบ AI เทรด Forex อัตโนมัติ จูงใจให้ประชาชนหลงเชื่อกว่า 9,000 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 2,400 ล้านบาท

2. ไม่มีใบอนุญาต หรือจดทะเบียนที่ถูกต้อง

รายละเอียด

วิธีตรวจสอบ

  • เข้าตรวจสอบชื่อบริษัท/บุคคลในเว็บไซต์ ก.ล.ต. (https://www.sec.or.th) ว่ามีใบอนุญาตหรือไม่

ตัวอย่างจริง
บริษัท อควาเทรด หลอกขายแพ็คเกจลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจการลงทุนจริง ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีหลังผู้เสียหายหลายร้อยคนแจ้งความ

3. รายได้ขึ้นอยู่กับการชวนคน

รายละเอียด

  • แชร์ลูกโซ่ไม่มีการลงทุนจริง รายได้ของสมาชิกจึงไม่ได้มาจาก “ผลตอบแทนจากธุรกิจ” แต่เป็นการเอาเงินของคนใหม่จ่ายให้คนเก่า
  • มีการจูงใจให้หาสมาชิกต่อ เช่น การให้ “ค่านายหน้า” หรือ “โบนัสแนะนำเพื่อน”

สัญญาณเตือน

  • หากแผนรายได้เน้นการชวนคนเพิ่มมากกว่าการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ คือรูปแบบพีระมิด (Pyramid Scheme)

ตัวอย่างจริง
ยูฟัน สโตร์ (UFUN) โฆษณาว่าเป็นแพลตฟอร์มลงทุนในเหรียญดิจิทัล มีรายได้จากการชวนคนใหม่เข้าร่วม ขยายเป็นเครือข่ายหลายพันคน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 20,000 ล้านบาท ก่อนถูกดำเนินคดี

4. ขาดความโปร่งใสเรื่องธุรกิจ

รายละเอียด

  • ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเงินลงทุนถูกนำไปทำอะไร
  • หลายแห่งอ้างว่า “เป็นความลับ”, “บอกไม่ได้เพราะเป็นสูตรลับ”, หรือใช้คำศัพท์เทคนิคทำให้เข้าใจยาก

วิธีป้องกัน

  • ถามให้ชัดเจนว่าโมเดลธุรกิจคืออะไร มีรายได้มาจากไหน ใครเป็นคนดูแลเงิน และแสดงงบการเงินได้หรือไม่

ตัวอย่างจริง
กรณี แชร์แม่มณี อ้างว่าเปิดเงินกู้ให้ดาราและคนในวงการบันเทิง พร้อมแจกผลตอบแทนสูง แต่ไม่สามารถระบุธุรกิจที่แท้จริงได้ จนสุดท้ายพบว่าเป็นแชร์ลูกโซ่เต็มรูปแบบ มูลค่าความเสียหายกว่า 1 พันล้านบาท

5. ไม่สามารถถอนเงินได้ง่าย

รายละเอียด

  • ในช่วงแรกอาจถอนเงินได้ปกติ แต่เมื่อมีสมาชิกเพิ่มน้อยลง บริษัทจะเริ่มอ้างปัญหา เช่น ระบบขัดข้อง, ต้องรออนุมัติ ฯลฯ
  • สุดท้ายอาจปิดหนีโดยไม่สามารถติดต่อได้

คำเตือน

  • ธุรกิจที่ไม่ให้ถอนเงินได้ “ทุกเวลา” หรือมีข้อแม้แปลก ๆ ในการถอน ควรตั้งข้อสงสัยทันที

ตัวอย่างจริง
Forex-3D เริ่มมีผู้เสียหายจำนวนมากแจ้งว่าไม่สามารถถอนเงินได้ตามกำหนด บางรายรอข้ามเดือนแต่ก็ยังไม่ได้รับเงิน สุดท้ายบริษัทเงียบหายและผู้บริหารหลบหนี

6. มีการหลอกใช้บุคคลที่มีชื่อเสียง

รายละเอียด

  • แชร์ลูกโซ่หลายแห่งใช้ภาพดารา, คนดัง, หรือผู้มีชื่อเสียง โดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น ภาพถ่ายปลอม, ตัดต่อรีวิว
  • หลอกว่า “ดาราคนนี้ก็ลงทุนกับเรา”, “นักเทรดคนนั้นยืนยันว่าได้เงินจริง”

สิ่งที่ควรทำ

  • อย่าเชื่อข้อมูลที่มาจากภาพหรือโพสต์ในโซเชียล ต้องตรวจสอบที่มาหลักฐานเสมอ

ตัวอย่างจริง
กรณี Forex-3D มีการอ้างชื่อดาราหลายคน เช่น ดารานักแสดงชายระดับต้น ๆ ของไทย ว่าร่วมลงทุนด้วย โดยใช้ภาพถ่ายร่วมกับผู้บริหารเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง

7. กดดันให้รีบตัดสินใจ

รายละเอียด

  • ใช้จิตวิทยาเร่งเร้า เช่น “ต้องโอนวันนี้ถึงจะได้โปร”, “เหลือแค่ 5 สิทธิ์สุดท้าย”
  • ไม่ให้เวลาคิดหรือศึกษารายละเอียดใด ๆ

แนวทางป้องกัน

  • การลงทุนที่ดีควรให้คุณมีเวลาไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ถ้ารู้สึกว่ากำลังถูกเร่งให้ตัดสินใจเร็ว คือธงแดง

ตัวอย่างจริง
คดี แชร์บ้านลอยน้ำ มีการเสนอว่า “สมัครตอนนี้เท่านั้น ได้สิทธิ์อยู่ฟรี 6 เดือน และรับกำไรรายวัน” ทำให้คนจำนวนมากรีบโอนเงิน ก่อนจะพบว่าธุรกิจไม่มีจริง

8. ไม่มีหลักฐานเอกสารที่ชัดเจน

รายละเอียด

  • ไม่มีเอกสารยืนยันการลงทุน, ไม่มีสัญญาทางกฎหมาย
  • ไม่มีบันทึกธุรกรรมอย่างเป็นระบบ เช่น รายการโอน, รายการจ่าย, ใบกำกับภาษี

คำแนะนำ

  • อย่าลงทุนกับใครที่ไม่สามารถให้เอกสารยืนยันที่ชัดเจน และมีความน่าเชื่อถือได้

ตัวอย่างจริง
คดีแชร์ลูกโซ่ แคชคาร์ดที่อ้างว่าจะคืนเงินพร้อมดอกเบี้ยให้ใน 7 วัน แต่ไม่มีเอกสารสัญญาการลงทุนหรือใบเสร็จรับเงิน ทำให้ผู้เสียหายหลายคนไม่สามารถดำเนินคดีทางกฎหมายได้ทันที

9. ผู้ก่อตั้งหรือเจ้าของไม่มีตัวตนชัดเจน

รายละเอียด

  • ไม่สามารถระบุตัวตนเจ้าของหรือผู้บริหารได้
  • หลายรายใช้ชื่อปลอม ไม่เปิดเผยตัวจริง ไม่ยอมออกสื่อ

แนวทางตรวจสอบ

  • ตรวจสอบชื่อในเว็บไซต์, ใบอนุญาต หรือประวัติการทำธุรกิจเดิม
  • หากไม่มีแหล่งข้อมูลอื่นยืนยันตัวตนเลย เป็นสัญญาณอันตราย

ตัวอย่างจริง
แชร์ลูกโซ่ “อีซี่มอนี่” ใช้แค่แชทไลน์เป็นช่องทางติดต่อ ไม่มีที่อยู่บริษัทชัดเจน และไม่ระบุตัวเจ้าของ แอดมินปิดไลน์หนีเมื่อมีคนขอถอนเงินจำนวนมาก

10. มีประวัติร้องเรียนหรือถูกเตือนจากหน่วยงานรัฐ

รายละเอียด

  • หน่วยงานกำกับดูแล เช่น ก.ล.ต., ปปง., สคบ. หรือ ตำรวจไซเบอร์ มักออกประกาศเตือนล่วงหน้า
  • บางบริษัทมีผู้เสียหายร้องเรียนไว้ในโลกออนไลน์ หรือมีรายชื่ออยู่ในบัญชีดำ

สิ่งที่ควรทำ

  • ค้นชื่อบริษัทหรือโครงการใน Google พร้อมคำว่า “โกง”, “แชร์ลูกโซ่”, “ถูกฟ้อง” เพื่อดูข้อมูลจากผู้เสียหาย

ตัวอย่างจริง
เว็บไซต์ ก.ล.ต. เคยออกประกาศเตือนการลงทุนใน Global FX ว่าไม่มีใบอนุญาต แต่ยังมีคนหลงเชื่อลงทุนต่อจนเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง

ภาพแสดงถึงรายละเอียดการจับโป๊ะของแชร์ลูกโซ่ ถ้ารู้ทันก่อน ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อ

บทเรียนจากข่าวจริง: เหยื่อ Ponzi Scheme เสียอะไรบ้าง

  1. สูญเสียเงินเก็บทั้งชีวิต
  • กรณีแชร์แม่ชม้อย: มีผู้เสียหายกว่า 13,000 คน สูญเสียเงินรวมกว่า 4,000 ล้านบาท หลายคนต้องขายบ้าน ขายรถ และใช้เงินออมทั้งชีวิตเพื่อร่วมลงทุน อ่านข่าวต่อได้ที่ : Legardy
  1. ตกเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว
  • กรณี Forex 3D: ผู้เสียหายกว่า 8,400 คน สูญเงินรวมกว่า 2,000 ล้านบาท โดยหลายคนต้องกู้ยืมเงินจากธนาคารและสถาบันการเงินเพื่อร่วมลงทุน อ่านข่าวต่อได้ที่ :  tdri.or.th
  1. สูญเสียความเชื่อมั่นในระบบการเงิน
  • กรณี OneCoin: นักลงทุนทั่วโลกสูญเสียเงินกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่มีมูลค่าจริง อ่านข่าวต่อได้ที่ : Coinaute
  1. เกิดความเครียดและปัญหาสุขภาพจิต
  • กรณี Bernard Madoff: นักลงทุนหลายรายถึงขั้นฆ่าตัวตายหลังจากสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมากจากโครงการ Ponzi ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ อ่านข่าวต่อได้ที่ : EBC Financial Group
  1. สูญเสียความสัมพันธ์และชื่อเสียง
  • กรณีแชร์แม่มณี: ผู้เสียหายหลายคนต้องเผชิญกับความอับอายและความสัมพันธ์ที่เสียหายกับครอบครัวและเพื่อนฝูง หลังจากตกเป็นเหยื่อของแชร์ลูกโซ่ 

รวมคดีดังในประเทศไทยที่เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่

สร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน ป้องกันตัวเองจาก Ponzi Scheme

ศึกษาข้อมูลการลงทุนให้ละเอียด

  • อย่าเชื่อคำพูดที่บอกว่า “ไม่มีความเสี่ยง” หรือ “ผลตอบแทนสูงทุกเดือน”

ไม่หลงเชื่อคำเชิญชวนที่เกินจริง

  • ถ้าใครบอกว่าการลงทุนนี้ไม่มีความเสี่ยงและมีผลตอบแทนที่สูงมาก ๆ ควรสงสัยไว้ก่อน

หลีกเลี่ยงการลงทุนที่ไม่โปร่งใส

  • การลงทุนที่ถูกต้องต้องได้รับการควบคุมและตรวจสอบโดยหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ

ไม่ลงทุนทั้งหมดในแหล่งเดียว

  • ควรกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์หลายประเภท เช่น หุ้น, อสังหาริมทรัพย์, และสินทรัพย์ปลอดภัย 

เรียนรู้วิธีการตรวจสอบและรายงานธุรกิจที่น่าสงสัย

  • หากสงสัยว่าการลงทุนอาจเป็น Ponzi Scheme ให้ตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ก.ล.ต. หรือ หน่วยงานที่ดูแลการเงิน

หมั่นติดตามสถานการณ์การลงทุน

  • หากธุรกิจเริ่มมีพฤติกรรมที่น่าสงสัย เช่น การถอนเงินยาก หรือการชวนคนเพิ่ม เพื่อให้คุณสามารถรับผลตอบแทน ควรรีบหยุดการลงทุนทันที 

ภาพแสดงถึงวิธีการป้องกันตัวเองจากแชร์ลูกโซ่ แน่นอนเลยว่าเพียงแค่อย่าหลงเชื่อ หรือ โลภสิ่งของอะไรง่าย ๆ ต้องศึกษาให้ดี ก่อนการลงทุน

คลิปที่น่าสนใจ

ขอแนะนำคลิปที่เปิดเผย โครงการพีระมิด และ แผน Ponzi เข้าใจง่ายใน 1 นาที  จากช่อง One Minute Economics

สรุป

  • แชร์ลูกโซ่ หรือ Ponzi Scheme คือ การหลอกลวงที่ใช้วิธีเอาเงินจากคนใหม่มาให้คนเก่า โดยไม่มีกิจการหรือการลงทุนจริง ๆ แค่หมุนเงินไปมา 
  • เมื่อไม่มีคนใหม่มาลงทุน ระบบจะพังและคนที่ลงทุนล่าสุดจะเสียเงินไปหมด 
  • ส่วนมากมันจะอ้างผลตอบแทนสูงเกินจริงแล้วก็ไม่มีความโปร่งใส ทำให้คนตกเป็นเหยื่อได้ง่าย ๆ
  • ดังนั้นก่อนคิดจะลงทุน ต้องตรวจสอบ ศึกษาอย่างละเอียด ก่อนที่จะตกเป็นหนึ่งในเหยื่อแชร์ลูกโซ่ 
  • ถ้าหากว่าจะลงทุน หรือ เทรด Forex ก็ต้องมองหา โบรกเกอร์ Forex ที่มีความน่าเชื่อถือ 

อ้างอิง: 

FAQ — 10 ข้อสำคัญที่ช่วยให้คุณรู้ทันแชร์ลูกโซ่ (Ponzi Scheme)


เพราะสำหรับคนทั่วไป Forex ฟังดูแอบเท่ ดูมีความซับซ้อน เข้าใจยาก และมีศัพท์เทคนิคเยอะ เช่น Leverage, Lot, Pip ทำให้ผู้ที่ไม่มีความรู้พื้นฐาน อาจถูกหลอกได้ง่ายว่ามี “สูตรลับ” หรือ “AI วิเศษ” ที่ทำกำไรมหาศาลได้ 

รูปแบบที่พบบ่อย:

  • อ้างว่า “มีทีมเทรดเก่งระดับโลก” แค่ฝากเงินไว้ เดี๋ยวแบ่งกำไร
  • รับปันผลสัปดาห์ละ 10–20% แค่ลงทุนเฉย ๆ
  • อ้างว่าใช้ “บอทเทรด” เก็งกำไร Forex ให้โดยอัตโนมัติ

เพราะแชร์ลูกโซ่ต้อง “โตเร็ว” ล่อด้วยความเวอร์ ให้เหยื่อ ตัดสินใจไว ไม่คิดนาน เพื่อหาเงินคนใหม่มาจ่ายคนเก่าให้ทัน ถ้ากำไรน้อย คนไม่รีบเอาเงินมาลง และระบบจะล้มเร็ว เพราะเงินใหม่ไม่พอจ่ายคนเก่า

ตัวอย่าง:

  • ถ้าบอกให้ผลตอบแทน 6%/ปี แบบกองทุนจริง คนไม่สน
  • ถ้าบอก 10%/สัปดาห์ หรือ 40%/เดือน คนแห่เข้า
กรณี Bernie Madoff ในสหรัฐอเมริกา (เริ่มตั้งแต่ปี 1990s ถูกจับในปี 2008) เป็นแชร์ลูกโซ่ที่ แฝงในรูปแบบของกองทุนลงทุนหรู โดยหลอกแม้แต่คนรวย, มหาเศรษฐี, ธนาคารใหญ่ ๆ ระดับโลก เพราะดูโปรมาก ๆ อ้างว่าสามารถทำผลตอบแทน ~10%/ปี อย่างสม่ำเสมอ เข้าหลักสูตรสุดเนียน ไม่เยอะเวอร์วัง แต่ใช้เงินคนใหม่มาจ่ายคนเก่ามาตลอด มูลค่าความเสียหายรวมกว่า $65,000,000,000 หรือกว่า 2.3 ล้านล้านบาท!
  1. หยุดเติมเงินทันที —  อย่าเชื่อคำว่า “เติมรอบสุดท้ายแล้วจะถอนคืนได้หมด”
  2. ลองถอนเงินดู — ถ้าเริ่มอ้างว่าถอนไม่ได้ ติดระบบ คิวเต็ม ก็แน่นอนล่ะ
  3. เก็บหลักฐานทุกอย่าง — สลิปโอน, แชท, ข้อตกลง, และทุกรายละเอียด ไว้เอาผิด
  4. แจ้ง สคบ. + ปปง. หรือ ตำรวจไซเบอร์ 
  5. แจ้งเตือนคนรู้จักที่คุณเผลอพาเข้ามาด้วย — รู้สึกผิดแน่นอน แต่ดีกว่าปล่อยให้เสียหายหนักขึ้น

เพราะแชร์ลูกโซ่เก่งเรื่อง “ทำให้ความโลภชนะเหตุผล”มันไม่ได้มาหาคนที่รู้ทัน แต่มาหาคนที่ “กำลังตกงาน”, “หวังรวยทางลัด”, “ถูกเพื่อนที่ไว้ใจได้ชวน”, “สายลุยแหลก กลัวจน ไม่กลัวเสี่ยง”

เทคนิคของแชร์ลูกโซ่:

  • ใช้คำพูดที่คลุมเครือแต่ดูฉลาด เช่น “Passive Income”, “รายได้จาก AI”, “เราลงทุนแทนคุณ”
  • จ้างคนดัง รีวิว หรือโชว์ถอนเงิน (เงินที่เขาถอนได้คือเงินเหยื่อคนใหม่)
  • ทำเว็บ/แอปให้ดูมืออาชีพ มีแดชบอร์ดสวยหรู จนเหยื่อหลงคิดว่าเป็นบริษัทจริง
  • พัฒนาตามกระแสโลก: จากใบปลิวสู่เว็บไซต์ปลอม, โซเชียลมีเดีย, และล่าสุดคือคริปโต, อีกหน่อยคงไม่พ้น ลงทุน AI

 

เขียนโดย

Pakornkiat Poonsuk

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chonthicha Poomidon