Zipmex คืออะไร?
- Zipmex เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ให้บริการทั้งการเทรดเหรียญคริปโต การฝากเหรียญเพื่อรับผลตอบแทน และการจัดเก็บสินทรัพย์
- เคยเปิดให้บริการในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น ไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย
- ในประเทศไทย Zipmex เคยได้รับใบอนุญาตจาก สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ดำเนินธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างถูกกฎหมาย
- จุดเด่นอยู่ที่ฟีเจอร์ ZipUp และ ZipLock ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้นำเหรียญไปฝากแลกกับดอกเบี้ยที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด
- แพลตฟอร์มได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในช่วงปี 2020–2021 ด้วยภาพลักษณ์ที่ปลอดภัย โปร่งใส และทันสมัย
- อย่างไรก็ตาม ปี 2022 Zipmex ประสบปัญหาด้านสภาพคล่อง ส่งผลให้ไม่สามารถให้ลูกค้าถอนเงินที่ฝากไว้ได้ตามปกติ
- กรณี Zipmex กลายเป็นตัวอย่างสำคัญของความเสี่ยงที่แฝงอยู่เบื้องหลัง Exchange ที่ดูน่าเชื่อถือจากภายนอก
Zipmex คือใคร ก่อตั้งโดยใคร
- Zipmex คือแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (Crypto Exchange) ที่เปิดตัวในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
- ก่อตั้งโดย Marcus Lim นักธุรกิจสายเทคโนโลยีจากออสเตรเลีย และทีมพัฒนาในสิงคโปร์
- มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นแพลตฟอร์ม “ซื้อ ขาย ฝาก ถอน” สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างถูกกฎหมาย โปร่งใส และปลอดภัย
- ให้บริการภายใต้บริษัท Zipmex Asia Pte. Ltd. (สิงคโปร์) และในไทยผ่าน Zipmex Company Limited
ภาพอธิบายจุดเริ่มต้นของ Zipmex แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ให้บริการ เทรดคริปโตฯ ตั้งแต่จุดรุ่งเรืองสู่จุดหมายปัญหาด้านสภาพคล่อง
ไทม์ไลน์สำคัญของ Zipmex
- จุดเริ่มต้นของ Zipmex คือปี 2018
- ขยายสู่ประเทศไทยในปี 2019
- ได้การอนุญาตจาก ก.ล.ต, ในปี 2020 ก่อนที่จะเกิดปัญหาและจบลงภายในปี 2024
- เวลาเพียง 4-5 ปี ที่ทำให้ Zipmex กลายเป็นกรณีศึกษาใหญ่ของวงการคริปโตฯไทย ที่บอกได้ว่า ถึงแม้จะรับรอง แต่ก็มีความไม่แน่นอนเหมือนกัน
2018 จุดเริ่มต้น
- Zipmex ก่อตั้งขึ้นที่สิงคโปร์ โดยมีผู้ก่อตั้งหลักคือ Marcus Lim และ Akalarp Yimwilai (ซึ่งต่อมาเป็นผู้บริหาร Zipmex Thailand)
- เป้าหมายเริ่มแรกคือการเป็น Crypto Exchange ที่ได้รับการกำกับดูแล (Regulated Exchange) และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง
- ระดมทุนจาก Angel Investors หลายรายในเอเชีย เพื่อเตรียมขยายบริการครอบคลุมเอเชียแปซิฟิก
2019 ขยายสู่ประเทศไทย
- จัดตั้ง Zipmex Thailand โดยเน้นตลาดไทยเป็นเป้าหมายหลักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- เริ่ม ยื่นขอใบอนุญาตกับสำนักงาน ก.ล.ต. ไทย ซึ่งในขณะนั้นมีแพลตฟอร์มไม่กี่เจ้าที่เข้าสู่กระบวนการรับรอง
- เปิดให้บริการในรูปแบบ “Soft Launch” มีฟีเจอร์ซื้อขายคริปโต, BTC, ETH, XRP ด้วย ค่าธรรมเนียมต่ำกว่าคู่แข่ง
2020 ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต.
- Zipmex Thailand ได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการจาก สำนักงาน ก.ล.ต.
- ใบอนุญาตประเภท Digital Asset Exchange (แพลตฟอร์มซื้อขาย)
- ใบอนุญาตประเภท Broker (เป็นตัวกลางการซื้อขายกับ Exchange อื่น)
- เริ่มให้บริการเต็มรูปแบบผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน (iOS / Android)
- เน้นภาพลักษณ์ว่าเป็น แพลตฟอร์ม “ถูกต้องตามกฎหมาย” และโปร่งใส สร้างความน่าเชื่อถือในตลาด
2021 ช่วงเติบโตสูงสุด
- เปิดตัวฟีเจอร์ ZipUp (ฝากเหรียญแบบยืดหยุ่น รับดอกเบี้ยรายวัน) และ ZipLock (ฝากแบบกำหนดระยะเวลา)
- ร่วมมือกับดารา อินฟลูเอนเซอร์ และจัดอีเวนต์ต่าง ๆ เพื่อโปรโมต
- ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในช่วงตลาด Crypto Bull Run
- มีฐานผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นนับแสนรายในไทยและอินโดนีเซีย
- ถูกจัดเป็นหนึ่งใน 3 แพลตฟอร์มคริปโตที่มีคนใช้งานมากที่สุดในไทย รองจาก Bitkub และ Satang
ต้นปี 2022 เริ่มใช้กลยุทธ์ปล่อยกู้เบื้องหลัง
- เพื่อจ่ายดอกเบี้ยให้ผู้ใช้ ZipUp และ ZipLock, Zipmex นำสินทรัพย์ของลูกค้าไปปล่อยกู้ต่อให้กับบริษัท DeFi รายใหญ่ เช่น Babel Finance และ Celsius
- กลยุทธ์นี้ ไม่ได้โปร่งใส ต่อลูกค้า ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าสินทรัพย์ของตนถูกนำไปเสี่ยงในรูปแบบ Lending
- ดอกเบี้ยที่ Zipmex จ่ายออกมาสูงผิดปกติ เช่น USDT สูงถึง 10–12% ต่อปี
กรกฎาคม 2022 – จุดเริ่มต้นของวิกฤต
- Celsius และ Babel Finance ประสบปัญหาสภาพคล่อง และล้มละลาย จากวิกฤตตลาด DeFi
- Zipmex สูญเสียเงินจากการปล่อยกู้ให้สองบริษัทนี้ รวมกว่า 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ประกาศ “ระงับการถอนบางฟีเจอร์” กะทันหัน โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า
- ผู้ใช้งานหลายราย ไม่สามารถถอนเงินหรือเหรียญได้ โดยเฉพาะในบัญชี ZipUp/ZipLock
- กลายเป็นเหตุการณ์ “แช่แข็งเงิน” ที่ทำให้ความเชื่อมั่นหายไปในวงกว้าง
2022 สิงหาคม – ธันวาคม ความเชื่อมั่นพังทลาย
- Zipmex ยื่นขอ Moratorium (พักชำระหนี้) ต่อศาลในสิงคโปร์เพื่อป้องกันการถูกเจ้าหนี้ฟ้อง
- ผู้ใช้งานในไทยรวมกลุ่มผ่าน Facebook และ Telegram เพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบ
- เกิดกระแสต้านอย่างหนักในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะกรณีการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนของผู้บริหาร
- แบรนด์สูญเสียความน่าเชื่อถือ แม้ยังเปิดบริการเทรดบางส่วน
ภาพเผยถึงผู้บริหารใหญ่ของ Zipmex และ เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานของ ผู้ก่อตั้ง Zipmex ในประเทศไทย ซึ่งรายแรก กำลังชดใช้เงินให้กับลูกค้า ส่วนอีกรายถูกจำคุก 5 ปี ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน
2023 แผนฟื้นฟูไม่ชัดเจน
- Zipmex ประกาศว่าอยู่ระหว่าง “หานักลงทุนรายใหม่” มาช่วยอัดฉีดทุน
- มีข่าวว่ามีบริษัทในต่างประเทศแสดงความสนใจ แต่ ไม่มีการปิดดีลชัดเจน
- แผนชำระคืนลูกค้ายังไม่โปร่งใส และมีหลายกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถติดตามสถานะเงินของตัวเองได้
- สำนักงาน ก.ล.ต. ออกประกาศเตือนประชาชนอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับความเสี่ยงในการใช้งาน Zipmex
- สถานะบริษัทเริ่มเข้าข่าย “ขาดความสามารถในการดำเนินการต่ออย่างปกติ”
2024 อยู่ในสภาพ “กึ่งล้มละลาย”
- แพลตฟอร์มยัง ไม่สามารถคืนเงินให้ลูกค้าส่วนใหญ่ได้ โดยเฉพาะกลุ่ม ZipUp/ZipLock
- พอร์ตบางส่วนที่ฝากเหรียญไว้ยังคงถูกแช่แข็ง
- ผู้ใช้งานทยอย “เทขาย” หรือถอนตัวออกจาก Zipmex (เฉพาะฟีเจอร์ที่ยังเปิดให้ถอน)
- นักลงทุนและผู้ใช้ส่วนใหญ่สูญเสียความไว้วางใจ
- Zipmex กลายเป็น กรณีศึกษาในแวดวง Crypto ไทย เรื่องความเสี่ยงจากการ “นำสินทรัพย์ของลูกค้าไปลงทุนโดยไม่เปิดเผย”
2025 อยู่ในสถานะ “จำกัดการดำเนินงาน รอการฟื้นฟูหรือปิดกิจการ”
- สถานะปัจจุบัน
- ยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องการชำระหนี้อย่างเป็นระบบ
- บางบัญชีสามารถเข้าระบบได้ แต่ไม่สามารถทำธุรกรรมใด ๆ ได้
- เว็บไซต์และแอปยังคงออนไลน์ แต่มีการจำกัดการใช้งานหลายส่วน
- ผู้บริหารหลายคนลาออกหรือยุติบทบาท และ Zipmex ยังไม่มีผู้แทนสื่อสารอย่างเป็นทางการ
- ความพยายามในการขายกิจการหรือควบรวมกับแพลตฟอร์มอื่น ยังไม่สำเร็จ
- Zipmex Thailand อาจอยู่ระหว่างการพิจารณาถอนใบอนุญาต โดยสำนักงาน ก.ล.ต. หากไม่มีแผนชำระหนี้ที่เป็นรูปธรรม
- ผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบบางส่วนยังคงดำเนินการฟ้องร้องอยู่ และมีการจัดตั้งกลุ่มเรียกร้องความเป็นธรรม
ภาพสรุปเหตุการณ์สำคัญของ Zipmex ตั้งแต่ก่อตั้ง ไปจนถึงเข้าไทย ผ่านจุดรุ่งเรืองแบบสุดขีด ก่อนกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ถูกปลดใบอนุญาตจาก กลต.
จุดประสงค์และภารกิจหลักของแพลตฟอร์ม
- ตั้งเป้าเป็น “ธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งอนาคต” ที่ผสมผสานความทันสมัยของคริปโตเข้ากับความมั่นคงแบบระบบการเงินดั้งเดิม
- มุ่งให้บริการแบบ ครบวงจร ได้แก่
- เทรดสินทรัพย์ดิจิทัล (ซื้อขายเหรียญต่าง ๆ)
- บริการฝากเหรียญเพื่อรับผลตอบแทน (เช่น ZipUp/ZipLock)
- การจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลแบบมืออาชีพให้กับลูกค้า - เน้นสร้างความเชื่อมั่นผ่านจุดขายด้าน “ความปลอดภัย” และ “การกำกับดูแลตามกฎหมาย (Regulated)” โดยได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละประเทศ
- ต้องการเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งานในเอเชียเชื่อถือได้ทั้งในด้านความปลอดภัย ผลตอบแทน และการดูแลลูกค้าแบบมืออาชีพ
Zipmex ให้บริการในประเทศใดบ้าง
- ไทย: เป็นหนึ่งในตลาดหลักของ Zipmex โดยมีฐานลูกค้าค่อนข้างใหญ่ และเน้นบริการครบวงจร ทั้งการเทรดเหรียญดิจิทัล การฝากเหรียญรับผลตอบแทน และการจัดการสินทรัพย์
- ประเทศไทย
- Zipmex ดำเนินการผ่านบริษัท Zipmex Company Limited ซึ่งจดทะเบียนถูกต้องในประเทศไทย
- ได้รับ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล จาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
- ให้บริการทั้งในรูปแบบ Exchange (ซื้อขายเหรียญ) และ Broker (เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่น)
- ลูกค้าสามารถ ยืนยันตัวตน (KYC) ผ่านระบบได้ และมีระบบความปลอดภัยระดับสากล เช่น การเก็บเหรียญใน cold wallet และระบบ multi-signature
- ประเทศไทย
- สิงคโปร์: ใช้เป็นศูนย์กลางดำเนินงานและจดทะเบียนบริษัทแม่ภายใต้ชื่อ Zipmex Asia Pte. Ltd. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในหลายบริษัทลูกที่ดำเนินธุรกิจในประเทศอื่น ๆ
- อินโดนีเซีย: Zipmex เข้าไปขยายตลาดคริปโตด้วยการจับกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ และใช้จุดเด่นเรื่องระบบปลอดภัยและแอปใช้งานง่ายเป็นจุดแข็ง
- ออสเตรเลีย: ให้บริการเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลและบริหารจัดการพอร์ตคริปโต โดยเน้นกลุ่มลูกค้าระดับสูงและนักลงทุนสถาบัน
- ประเทศอื่น ๆ
- ดำเนินการผ่านบริษัท Zipmex Asia Pte. Ltd. ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ ทำหน้าที่บริหารจัดการและสนับสนุนการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
- มีการยื่นขอใบอนุญาตเพิ่มเติมตามกฎระเบียบของแต่ละประเทศ เพื่อให้บริการอย่างถูกต้องและปลอดภัย เช่น การขอเป็น Digital Payment Token Service Provider ในสิงคโปร์กับ MAS (Monetary Authority of Singapore)
ประวัติความเป็นมาของ zipmex
การเติบโตในช่วงเริ่มต้น
- เปิดตัวด้วยเงินทุนจากนักลงทุน VC และ angel investor หลายราย
- Zipmex เริ่มต้นในปี 2019 โดยได้รับเงินสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ ทั้ง VC (Venture Capital) และ Angel Investor
- หนึ่งในนักลงทุนสำคัญในช่วงแรกคือ Jump Capital และ Infinity Blockchain Holdings
- การระดมทุนเหล่านี้ช่วยให้ Zipmex สามารถขยายบริการอย่างรวดเร็วทั้งในไทย สิงคโปร์ และออสเตรเลีย
- ได้รับความนิยมเร็วในไทย เพราะอินเทอร์เฟซใช้งานง่าย และให้ผลตอบแทนสูงผ่านฟีเจอร์ ZipUp
- แอป Zipmex ถูกออกแบบมาให้ ใช้งานง่าย สำหรับผู้เริ่มต้น โดยมีทั้งภาษาไทยและการใช้งานแบบ intuitive
- ฟีเจอร์ ZipUp ซึ่งเป็นการฝากเหรียญคริปโต เช่น BTC, ETH, USDT เพื่อรับดอกเบี้ยแบบรายวัน เป็นหนึ่งในจุดขายหลัก
- ในช่วงตลาดคริปโตขาขึ้น ZipUp ให้ผลตอบแทนสูงกว่าคู่แข่ง (เช่น 6–10% ต่อปีในบางเหรียญ) จึงดึงดูดนักลงทุนจำนวนมาก
- เคยเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคนี้ ด้วยภาพลักษณ์ “ถูกต้องตามกฎหมาย”
- Zipmex ได้รับความเชื่อถือเพราะเป็นหนึ่งในไม่กี่แพลตฟอร์มที่ ขอใบอนุญาตและทำตามกฎระเบียบจริง
- มีจุดขายเรื่อง “โปร่งใส, ตรวจสอบได้, มีการแยกเงินของลูกค้า”
- ถูกพูดถึงในสื่อสายการเงินและเทคโนโลยีหลายแห่ง เช่น Tech in Asia, Bangkok Post, The Business Times
จากการตรวจสอบวันที่ 28 กรกฎาคม 68 ที่ผ่านมา พบโพสต์ล่าสุดแค่ เดือน มิถุนายน 68 ซึ่งผ่านมาเกิน 1 ปีแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้ลูกค้าได้เงินครบแล้วหรือยัง
การขอใบอนุญาตในประเทศไทย
- Zipmex Thailand ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ให้ดำเนินกิจการสินทรัพย์ดิจิทัล
- ดำเนินการผ่านบริษัท Zipmex Company Limited ซึ่งจดทะเบียนในไทย
- ได้รับใบอนุญาตประเภท “Digital Asset Exchange” และ “Digital Asset Broker” จาก สำนักงาน ก.ล.ต.
- ผ่านเกณฑ์ด้านทุนจดทะเบียน ความปลอดภัยของระบบ และมาตรการ KYC
- ต้องมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำตามที่ ก.ล.ต. กำหนด (หลายสิบล้านบาท)
- มีระบบ Cybersecurity ที่ต้องผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานอิสระ
- มีระบบ KYC/AML (Know Your Customer / Anti-Money Laundering) ที่ลูกค้าต้องยืนยันตัวตนและอัปโหลดเอกสารก่อนใช้งาน
- มีการแยกบัญชีเงินลูกค้า (Client Asset Segregation) ตามมาตรฐาน
- เงินของลูกค้าจะถูกเก็บแยกจากเงินทุนบริษัท เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากบริษัทประสบปัญหาทางการเงิน
- การเก็บเหรียญคริปโตส่วนใหญ่ไว้ใน Cold Wallet เพื่อลดความเสี่ยงจากการโดนแฮ็ก
- มีระบบสำรองข้อมูลและแผนรับมือเหตุฉุกเฉินตามมาตรฐาน ISO/IEC
“ถึงแม้ว่าจะมีระบบมากแค่ไหน ก็ไม่รอดเลยที่จะทำให้เกิดเรื่องสภาพคล่องทางการเงินของ ZIPMEX”
ความร่วมมือกับบริษัทใหญ่ และภาพลักษณ์ในอดีต
- เคยจับมือกับแบรนด์ดัง เช่น Major Group, Mastercard และ SCB 10X
- SCB 10X เคยลงทุนใน Zipmex ในรอบ Series B เพื่อร่วมพัฒนา ecosystem ด้านสินทรัพย์ดิจิทัล
- ร่วมมือกับ Mastercard เพื่อเตรียมออกบัตรที่ใช้คริปโตเป็นวิธีการชำระเงิน
- จัดแคมเปญร่วมกับ Major Cineplex ให้แลกตั๋วหนังด้วยเหรียญคริปโตจากบัญชี Zipmex
- เคยจัดอีเวนต์และโปรโมชันร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์สายการเงิน
- ร่วมมือกับ YouTuber, นักลงทุนคริปโตชื่อดังในไทย เช่น BitToon, Kim DeFi Daddy, และรายการสายการเงินหลายช่อง
- มีแคมเปญแจกเหรียญ หรือโปรโมชันพิเศษสำหรับผู้เปิดบัญชีใหม่ผ่าน referral ของ influencer
- จัดกิจกรรมออนไลน์ เช่น Zipmex Trading Competition หรือ AMA (Ask Me Anything) กับผู้บริหาร
- มีบทบาทสำคัญในยุค Crypto Boom 2020–2021
- ช่วงราคาบิตคอยน์และคริปโตปรับตัวขึ้นสูง Zipmex เป็นแพลตฟอร์มที่นักลงทุนไทยพูดถึงมากที่สุด
- มียอดดาวน์โหลดและเปิดบัญชีสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ได้รับการจัดอันดับในแอปสโตร์ไทยว่าเป็นแอปคริปโตยอดนิยม และมีปริมาณการเทรดรายวันติดอันดับ Top 3 ของไทย
จากประกาศสำคัญบนหน้าเว็บไซต์ ทำให้แน่นอนแล้วว่า Zipmex ต้องปิดกิจการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับว่าเป็นบทเรียนสำคัญของนักลงทุน ขนาดมี กลต.รับรองด้วยยังไม่น่าเชื่อถือ
บริการหลักที่ zipmex ให้บริการ
ซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี
- เทรดได้หลากหลายเหรียญ เช่น BTC, ETH, XRP, USDT
- ใช้ระบบ Order Matching แบบ Internal (ไม่เชื่อมกับ Global Exchange)
- สภาพคล่องเคยมีจำกัด เพราะไม่ได้เป็น Exchange ใหญ่ระดับโลก
ZipUp / ZipLock คืออะไร
- ZipUp: ฝากเหรียญไว้ในระบบ รับดอกเบี้ยสูงถึง 10% ต่อปี (ขึ้นอยู่กับเหรียญ)
- ZipLock: ฝากเหรียญแบบล็อกระยะเวลา แลกกับผลตอบแทนที่สูงกว่า
- ดอกเบี้ยที่จ่ายให้ลูกค้า มาจากการนำเหรียญไปปล่อยกู้ให้บริษัท DeFi และผู้ให้ยืมรายอื่น
ระบบความปลอดภัยและกระเป๋าเก็บสินทรัพย์ (Wallet)
- ใช้ Cold Wallet และ Multi-Sig Wallet สำหรับเก็บเหรียญ
- มีประกันภัยความเสียหายบางส่วนจากบริษัทประกันต่างประเทศ
- อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงยังคงอยู่ในระบบการปล่อยกู้ (Lending Risk)
จุดเด่นของ zipmex ที่เคยได้รับความสนใจ
อัตราค่าธรรมเนียมต่ำ
- ค่าธรรมเนียมการเทรดเริ่มต้นเพียง 0.2% ต่ำกว่าหลาย Exchange เจ้าใหญ่
- โปรโมชั่นเทรดฟรี เทรดแบบ Zero Fee สำหรับผู้ใช้งานใหม่
อินเทอร์เฟซใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่
- ออกแบบ UI ให้ใช้งานเหมือนแอปธนาคารทั่วไป
- มีแอปบน iOS / Android และหน้าเว็บใช้งานง่าย
การตลาดและกิจกรรมร่วมกับดารา-อินฟลูเอนเซอร์
- ใช้ดาราและอินฟลูเอนเซอร์ในไทยสร้างการรับรู้แบรนด์
- โฆษณาผ่าน Facebook, YouTube และ Event Crypto หลายแห่ง
- ทำให้หลายคนรู้สึกว่า Zipmex เป็นแพลตฟอร์มที่ “เชื่อถือได้”
ก่อนหน้านี้ zipmex เคยรุ่งเรืองมาก ๆ ในช่วงตลาด คริปโตกำลังเนื้อหอม ร่วมมือกับคนดังในเมืองไทยสายเทรดคริปโตหลายคน รวมไปถึง จับมือกับ VISA ด้วยในเรื่องการใช้คริปโตฯซื้อขายสินค้า
เหตุการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้นกับ zipmex
เริ่มต้นจากปัญหาสภาพคล่อง
- ช่วงกลางปี 2022 Zipmex ประสบปัญหาสภาพคล่องจากการปล่อยกู้
- ไม่สามารถถอนเงินจากพันธมิตรที่ปล่อยกู้ไว้ เช่น Babel Finance, Celsius
- ส่งผลให้ Zipmex เริ่มหยุดการถอนเงินของลูกค้าบางส่วน
การแช่แข็งบัญชีลูกค้า
- วันที่ 20 กรกฎาคม 2022 Zipmex ประกาศ “หยุดการถอน” บางฟังก์ชันแบบไม่แจ้งล่วงหน้า
- ลูกค้าที่ฝากเหรียญใน ZipUp / ZipLock ไม่สามารถถอนออกได้
- ความเชื่อมั่นหายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้คนแห่ถอนออกจากระบบทันที
ความเกี่ยวข้องกับ Babel Finance และ Celsius
- Zipmex นำเหรียญลูกค้าไปปล่อยกู้ให้ Babel Finance และ Celsius
- ทั้งสองบริษัทล้มละลายในช่วงเดียวกัน
- เงินที่ฝากไว้จำนวนมากกลายเป็นหนี้เสียทันที (ประมาณ $48 ล้าน USD)
การสื่อสารที่ไม่ชัดเจนในช่วงวิกฤต
- มีการโพสต์ข้อความคลุมเครือผ่านโซเชียล
- ไม่มีการแจ้งรายละเอียดการเยียวยาลูกค้าอย่างโปร่งใส
- นักลงทุนจำนวนมากรู้ข่าวจากสื่อก่อนจะได้รับการชี้แจงจากบริษัท
ภาพเผยถึงการสรุปเหตุการณ์ ZIPMEX ว่าเริ่มจากเรื่องไหน และ มีปัญหาเมื่อใด
บทเรียนที่นักลงทุนควรเรียนรู้จากกรณี zipmex
ความเสี่ยงจากการฝากเหรียญแบบล็อก
- ผลตอบแทนสูงมาพร้อมกับความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่
- การฝากเหรียญใน ZipUp/ZipLock ทำให้นักลงทุนเสียสิทธิ์ในการถอน
- เมื่อเกิดปัญหา นักลงทุนไม่สามารถเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ได้ทันเวลา
ความสำคัญของการกระจายความเสี่ยง
- ไม่ควรเทเหรียญทั้งหมดไว้ใน Exchange เดียว
- แม้จะดู “น่าเชื่อถือ” แต่ระบบเบื้องหลังอาจมีความเปราะบาง
- การกระจายความเสี่ยงช่วยให้รอดพ้นจากเหตุการณ์ลักษณะนี้
อย่าพึ่งพาแค่ภาพลักษณ์ของแพลตฟอร์ม
- ภาพลักษณ์ในสื่อไม่สามารถสะท้อนฐานะทางการเงินของบริษัทได้
- ควรตรวจสอบสถานะการเงิน งบกำไรขาดทุน หรือ audit report (ถ้ามี)
- ถามตัวเองเสมอว่า “ผลตอบแทนนี้มาจากไหน?”
zipmex กับกฎหมายไทย อยู่ในขอบเขตแค่ไหน?
Zipmex ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. หรือไม่?
- ในไทย Zipmex ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต.
- แต่ในกรณี ZipUp / ZipLock นั้น ไม่อยู่ภายใต้การกำกับโดยตรง
- ส่งผลให้เมื่อมีปัญหา ลูกค้าในส่วน ZipUp ไม่ได้รับความคุ้มครองเต็มที่
ช่องโหว่ทางกฎหมายที่อาจถูกมองข้าม
- บริการฝากรับดอกเบี้ยถูกจัดว่าเป็น “บริการให้ยืม” ไม่ใช่ “บริการเทรด”
- จึงไม่อยู่ในเกณฑ์ควบคุมของสำนักงาน ก.ล.ต. โดยตรง
- นักลงทุนจึงไม่มีสิทธิ์เรียกร้องเยียวยาเท่ากับกรณีซื้อขายเหรียญปกติ
บทบาทของหน่วยงานกำกับดูแล
- สำนักงาน ก.ล.ต. ออกคำเตือนและตั้งคณะทำงานตรวจสอบ
- แต่ก็ยอมรับว่าอำนาจควบคุมบริการอย่าง ZipUp ยังไม่ชัดเจนในทางกฎหมาย
- ทำให้เกิดช่องว่างในการคุ้มครองผู้บริโภค
ภาพเผยถึงบทเรียนจากเรื่องนี้ และ ภาพด้านขวาคือกลุ่มที่ร่วมสู้ Zipmex โดยมีมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 2 พันล้านบาท
ข้อคิดสำหรับผู้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
ตั้งคำถามกับทุกผลตอบแทนที่ดู “ดีเกินจริง”
- ถ้าดอกเบี้ยสูงเกินไป ต้องถามว่าได้มาอย่างไร
- ไม่มีการลงทุนไหนที่ให้ผลตอบแทนสูงโดยไม่มีความเสี่ยง
- อย่าเชื่อแค่คำโปรยโฆษณา ต้องดูเบื้องหลังเสมอ
ตรวจสอบความโปร่งใสของแพลตฟอร์ม
- มีรายงานการตรวจสอบบัญชีไหม
- มีการเปิดเผยพาร์ทเนอร์ที่นำเหรียญไปปล่อยกู้หรือไม่
- การให้ข้อมูลแบบ “คลุมเครือ” คือสัญญาณอันตราย
ไม่ฝากเงินไว้กับใครนานเกินไปโดยไม่มีแผนสำรอง
- ตั้งเกณฑ์ “Stop Loss” สำหรับสินทรัพย์ที่ถือใน Exchange
- ควรมี Wallet ส่วนตัว เช่น Hardware Wallet เพื่อสำรองเหรียญ
- ไม่ควรฝากเงินทั้งหมดไว้ในระบบที่ไม่สามารถตรวจสอบได้แบบ On-chain
คลิปที่น่าสนใจ
- สำหรับในบทความนี้ได้รวบรวม พร้อมสรุปเรื่องราวของการเริ่มต้น และ พูดถึง Zipmex
- ถึงแม้จะมีการรับรองแบบถูกกฎหมายแล้ว ก็ยังพบปัญหาที่ทำให้เกิดกรณีศึกษาในหลายประเด็น
- วันนี้จึงขอแนะนำคลิปจาก THE STANDARD WEALTH กับ ย้อนรอย Zipmex กับเส้นทางเติบโต ก่อนกลายเป็นเหยื่อจากเหตุการณ์ Black Swan ในตลาดคริปโต มาแนะนำครับ
สรุป
ความไม่แน่นอนในโลกคริปโตยังคงมีอยู่เสมอ
- แม้บริษัทจะได้รับใบอนุญาต ก็ไม่รับประกันความมั่นคงทางการเงิน
- วงการนี้ยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน มีความเปราะบางสูง
บทเรียนจาก Zipmex ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
- นักลงทุนที่หวังผลตอบแทนสูงโดยไม่ศึกษาความเสี่ยงต้องชดใช้ด้วยเงินจริง
- ความรู้ทางการเงินยังจำเป็นในโลกดิจิทัล
เส้นแบ่งระหว่าง “ผลตอบแทน” กับ “ความเสี่ยง”
- ยิ่งผลตอบแทนสูง ยิ่งต้องพิจารณาว่าคุ้มกับความเสี่ยงหรือไม่
- คำว่า “ถูกกฎหมาย” ไม่ได้แปลว่า “ปลอดภัย 100%” เสมอไป
อ้างอิง
- Crypto exchange Zipmex probed by Thai SEC amid buyout : https://cointelegraph.com/news/crypto-exchange-zipmex-probed-by-thai-sec-amid-buyout?utm_source=chatgpt.com
- ศาลสั่งจำคุก “เอกลาภ ยิ้มวิไล” 5 ปี พร้อมปรับ Zipmex จุดความหวังผู้เสียหายกลุ่มฟ้อง Class Action : https://www.infoquest.co.th/2025/470359
- Zipmex’s Marcus Lim on access, regulation, and innovation in Southeast Asia’s FinTech and blockchain ecosystem [Q&A]: https://technode.global/2021/09/28/zipmexs-marcus-lim-on-access-regulation-and-innovation-in-southeast-asias-fintech-and-blockchain-ecosystem-qa/
- Digital asset platform Zipmex partners with Visa in Asia-Pacific: https://cointelegraph.com/news/digital-asset-platform-zipmex-partners-with-visa-in-asia-pacific?utm_source=chatgpt.com
- ประกาศสำคัญเกี่ยวกับซิปเม็กซ์ ประเทศไทย: https://updates.zipmex.co.th/?page_id=289310&lang=th
- Go back in time on the Zipmex case to the present.: https://en.moneyandbanking.co.th/2024/115762/
FAQ — Zipmex คืออะไร ? ทำความรู้จัก zipmex พร้อมกับบทเรียนที่เจ็บปวด