รูปแบบแท่งเทียน 3-Method Formations คืออะไร?

3-Method Formations คือ รูปแบบแท่งเทียนกลุ่ม (Group Pattern) ที่ประกอบด้วยแท่งเทียน 5 แท่ง ซึ่งบ่งบอกถึงการ “พักตัว” หรือ “หยุดชั่วคราว” (Pause or Consolidation) ภายในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ซึ่งหมายความว่า หลังจากเกิดรูปแบบนี้ครบถ้วนแล้ว มีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับไปเคลื่อนที่ตาม “ทิศทางของแนวโน้มเดิม” ต่อไป

รูปแบบนี้ถือเป็นสัญญาณ “การไปต่อของแนวโน้ม” (Trend Continuation) ที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ โดยจะปรากฏตัว “ภายในแนวโน้มที่ชัดเจน” เท่านั้น (ไม่ใช่การกลับตัว) และทำหน้าที่เสมือนเป็นตัว “ยืนยัน” ว่าการพักตัวนั้นเป็นเพียงชั่วคราว และความเชื่อมั่นของนักลงทุนฝั่งเดิมยังคงควบคุมตลาดอยู่

3-Method Formations สามารถเป็นได้ทั้งขาขึ้น (Bullish) และขาลง (Bearish) เพราะหัวใจสำคัญของรูปแบบนี้ไม่ได้อยู่ที่การสร้างโมเมนตัมใหม่ แต่เป็นการแสดงถึง “การพักตัวที่ล้มเหลว” ของฝั่งตรงข้าม และ “การกลับมาของโมเมนตัมเดิม” อย่างแข็งแกร่ง ดังนี้:

  • Rising 3-Methods (Bullish): เป็นสัญญาณ “การไปต่อของขาขึ้น” ที่เกิดขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น บ่งบอกว่าแรงขายที่พยายามเข้ามา (แท่งเล็กๆ 3 แท่ง) ไม่สามารถกดราคาลงได้ และสุดท้ายแรงซื้อก็กลับมาชนะเพื่อดันราคาขึ้นต่อไป
  • Falling 3-Methods (Bearish): เป็นสัญญาณ “การไปต่อของขาลง” ที่เกิดขึ้นในแนวโน้มขาลง บ่งบอกว่าแรงซื้อที่พยายามสวนขึ้นมา (แท่งเล็กๆ 3 แท่ง) เป็นเพียงการดีดตัวชั่วคราว และสุดท้ายแรงขายก็กลับมาควบคุมตลาดเพื่อกดราคาลงต่อไป

องค์ประกอบสำคัญของรูปแบบ 3-Method Formations

มีองค์ประกอบครบถ้วน ดังนี้

  • เงื่อนไข: ต้องเกิดใน เทรนด์ที่ชัดเจน (ขาขึ้นหรือขาลง)
  • แท่ง 1: แท่งใหญ่ ตามเทรนด์ (ควรมีไส้สั้น)
  • แท่ง 2, 3, 4: 3 แท่งเล็ก สวนเทรนด์ (พักตัว) ทั้งหมดต้อง อยู่ในกรอบ High-Low ของแท่ง 1
  • แท่ง 5: แท่งใหญ่ กลับไปตามเทรนด์ (ควรมีไส้สั้น) และต้อง ปิดทะลุ จุดสูงสุด/ต่ำสุดของแท่ง 1
  • Volume: ควร ลดลง ชัดเจนในช่วงพักตัว (แท่ง 2-4) และ พุ่งสูงขึ้น ในแท่งที่ 5 เพื่อยืนยัน

ลักษณะของรูปแบบ 3-Method Formations

3-Method Formations เป็นสัญญาณ “ไปต่อตามเทรนด์เดิม” (Continuation) มี 2 แบบคือ Rising (ขาขึ้น) และ Falling (ขาลง) รูปแบบนี้ยืนยันโมเมนตัมเดิม โดยแสดงการพักตัว (3 แท่งเล็ก) ที่ล้มเหลว ก่อนที่เทรนด์หลักจะกลับมาชนะ (แท่งที่ 5)

1. Bullish: (รูปแบบไปต่อในขาขึ้น)

รูปแบบ Bullish หรือ Rising 3-Methods เป็นสัญญาณว่า ราคามีโอกาสจะปรับตัว สูงขึ้นต่อไป ตามแนวโน้มเดิมที่แข็งแกร่ง

ลักษณะของรูปแบบ

  • ตัวแท่ง: ประกอบด้วย 5 แท่ง:
    • แท่ง เขียวใหญ่ (ตามเทรนด์)
    • แท่ง แดงเล็ก 3 แท่ง (พักตัวสวนเทรนด์) โดยทั้ง 3 แท่งนี้ต้องอยู่ ในกรอบ (High-Low) ของแท่งที่ 1
    • แท่ง เขียวใหญ่ อีกครั้ง ที่สามารถปิด สูงกว่า จุดสูงสุดของแท่งที่ 1
  • ไส้เทียน: แท่งที่ 1 และ 5 (แท่งโมเมนตัม) ควรมีไส้สั้นหรือไม่มีเลย ส่วนแท่งที่ 2, 3, 4 (แท่งพักตัว) ควรสั้นทั้งตัวแท่งและไส้
  • บริบท: ต้องเกิดในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ที่ชัดเจนเท่านั้น เพื่อทำหน้าที่ยืนยันการไปต่อของแนวโน้ม

จิตวิทยา

  • เป็นเทรนด์ขาขึ้นกำลัง “วิ่ง” มาแรงๆ (แท่งที่ 1)
  • จากนั้นก็ “หยุดพักหายใจ” หรือ “ย่อตัว” แป๊บหนึ่ง (แท่งที่ 2, 3, 4)
  • แรงขายพยายามเข้ามาสู้ในช่วงนี้ แต่สู้ไม่ไหว (เพราะแท่งเล็กและยังอยู่ในกรอบของแท่งที่ 1)
  • พอพักเสร็จ แรงซื้อก็กลับมา “วิ่งต่อ” อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง (แท่งที่ 5)
  • เป็น สัญญาณที่บอกว่า “การพักตัวจบแล้ว เทรนด์พร้อมไปต่อ”

จุดเข้าซื้อ (Entry)

    • รอให้แท่งที่ 5 ปิดก่อน ห้ามใจร้อน
    • เข้าซื้อ (Buy) เมื่อราคาวิ่ง ผ่านจุดที่สูงที่สุด (High) ของแท่งที่ 5 (หรือแท่งที่ 1) ขึ้นไปได้
  • เป็น สัญญาณยืนยันว่าของจริง

จุดตัดขาดทุน (Stop Loss)

  • ตั้ง Stop Loss ไว้กันพลาด ถ้ามันไม่ไปตามที่คิด
  • แบบปลอดภัย (เสี่ยงน้อย): ตั้งไว้ใต้จุดต่ำสุด (Low) ของ แท่งที่ 1
  • แบบใกล้ๆ (เสี่ยงสูงหน่อย): ตั้งไว้ใต้จุดต่ำสุด (Low) ของ แท่งที่ 5

2. Bearish (รูปแบบไปต่อในขาลง)

รูปแบบ Bearish หรือ Falling 3-Methods เป็นสัญญาณที่ราคามีโอกาสจะปรับตัว ลดลงต่อไป ตามแนวโน้มเดิมที่แข็งแกร่ง

ลักษณะของรูปแบบ

  • ตัวแท่ง: ประกอบด้วย 5 แท่ง:
    • แท่ง แดงใหญ่ (ตามเทรนด์)
    • แท่ง เขียวเล็ก 3 แท่ง (พักตัวสวนเทรนด์) โดยทั้ง 3 แท่งนี้ต้องอยู่ ในกรอบ (High-Low) ของแท่งที่ 1
    • แท่ง แดงใหญ่ อีกครั้ง ที่สามารถปิด ต่ำกว่า จุดต่ำสุดของแท่งที่ 1
  • ไส้เทียน: แท่งที่ 1 และ 5 ควรมีไส้สั้นหรือไม่มีเลย ส่วนแท่งที่ 2, 3, 4 ควรสั้นทั้งตัวแท่งและไส้
  • บริบท: ต้องเกิดในแนวโน้มขาลง (Downtrend) ที่ชัดเจนเท่านั้น เพื่อทำหน้าที่ยืนยันการไปต่อของแนวโน้ม

จิตวิทยา

  • เป็นเทรนด์ขาลงกำลัง “ทุบ” ลงมาแรงๆ (แท่งที่ 1)
  • จากนั้นก็ “เด้งขึ้น” ชั่วคราว (แท่งที่ 2, 3, 4)
  • แรงซื้อพยายามเข้ามาสู้ในช่วงนี้ แต่สู้ไม่ไหว (เพราะแท่งเล็กและยังอยู่ในกรอบของแท่งที่ 1)
  • พอแรงซื้อหมด แรงขายจริงก็กลับมา “ทุบต่อ” อย่างหนัก (แท่งที่ 5)
  • เป็นสัญญาณที่บอกว่า “การเด้งจบแล้ว เทรนด์พร้อมลงต่อ”

จุดเข้าขาย (Entry)

  • รอให้แท่งที่ 5 ปิดก่อน (ห้ามใจร้อน!)
  • เข้าขาย (Short Sell) เมื่อราคาวิ่ง หลุดจุดต่ำสุด (Low) ของแท่งที่ 5 (หรือแท่งที่ 1) ลงไป
  • นี่คือสัญญาณยืนยันว่า “เทรนด์ลงกลับมาแล้ว”

จุดตัดขาดทุน (Stop Loss)

  • ตั้ง Stop Loss ไว้กันพลาด หากราคาเด้งกลับขึ้นมา
  • แบบปลอดภัย (เสี่ยงน้อย): ตั้งไว้เหนือจุดสูงสุด (High) ของ แท่งที่ 1
  • แบบใกล้ๆ (เสี่ยงสูงหน่อย): ตั้งไว้เหนือจุดสูงสุด (High) ของ แท่งที่ 5

คลิปที่น่าสนใจ

วิดีโอนี้พูดถึงรูปแบบ “Falling Three Methods” (ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของ 3-Method Formations) ตลอดทั้งคลิป

นาทีที่สำคัญ

  • 01:02 บริบท: ต้องเกิดในแนวโน้มขาลง (Downtrend) เท่านั้น (มี 5 แท่ง)
  • 01:29 แท่งที่ 1: เป็นแท่งแดงใหญ่ แสดงถึงแรงขายที่แข็งแกร่ง
  • 01:57 แท่งที่ 2, 3, 4: เป็น 3 แท่งเล็กๆ ที่พยายามดีดตัวขึ้นแต่ไม่สำเร็จ
  • 03:42 แท่งที่ 5: เป็นแท่งแดงใหญ่อีกครั้ง ทะลุจุดต่ำสุดเดิม เป็นสัญญาณเข้า “Short”
  • 06:32 Stop Loss: (สำหรับ Conservative) ตั้งไว้เหนือจุดสูงสุดของแท่งที่ 4

สรุป

ความน่าสนใจของ 3-Method Formations คือการเป็นสัญญาณ “ยืนยันเทรนด์” ที่ชัดเจน มันไม่ใช่แค่บอกทิศทาง แต่แสดง “การต่อสู้” ที่ฝั่งสวนเทรนด์พยายามแล้ว (แท่งเล็ก 3 แท่ง) แต่ล้มเหลว รูปแบบนี้จึงช่วยกรองสัญญาณรบกวน (Noise) ในตลาดออกไป เมื่อแท่งที่ 5 ยืนยันการกลับมาของเทรนด์เดิม มันจึงเป็นสัญญาณที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ เพราะแสดงให้เห็นว่าการพักตัวจบลงแล้ว และโมเมนตัมหลักพร้อมที่จะไปต่อ

แหล่งอ้างอิง

FAQ — รูปแบบแท่งเทียน 3-Method Formations

หากแท่งที่ 5 ปิดไม่ทะลุจุดสูงสุด (ในขาขึ้น) หรือต่ำสุด (ในขาลง) ของแท่งที่ 1 รูปแบบ 3-Method Formations จะถือว่า “ล้มเหลว” (Failed)  มันไม่ได้ยืนยันว่าเทรนด์จะไปต่อ แต่กลับบ่งชี้ว่าแรงซื้อหรือแรงขายเดิมอาจไม่มีกำลังมากพอที่จะผลักดันราคาต่อไป และตลาดอาจเข้าสู่สภาวะ Sideways หรืออาจเตรียมกลับตัวได้
ตามทฤษฎีดั้งเดิม 3 แท่งตรงกลางควรมีสีตรงข้าม (เช่น สีแดงในขาขึ้น) เพื่อแสดงการพักตัวที่ชัดเจน แต่ในทางปฏิบัติ สิ่งที่สำคัญกว่าสี คือ “ขนาดที่เล็ก” และการที่มันเคลื่อนไหว “ในกรอบของแท่งที่ 1” หากมีบางแท่งสีเดียวกับเทรนด์แต่ยังคงเล็กและอยู่ในกรอบ ก็ยังพออนุโลมได้ว่าเป็นการพักตัว
ต่างกันอย่างสิ้นเชิง 3-Method Formations (5 แท่ง) เป็นสัญญาณ “ไปต่อ” (Continuation) ที่บอกว่าเทรนด์เดิมจะดำเนินต่อไปหลังพักตัว แต่ Three Line Strike (4 แท่ง) เป็นสัญญาณ “กลับตัว” (Reversal) ที่รุนแรง โดยแท่งที่ 4 จะ “Strike” หรือลบล้างการเคลื่อนไหวของ 3 แท่งก่อนหน้าทั้งหมด
ไม่ได้ เพราะหัวใจของรูปแบบนี้คือการ “ยืนยัน” ว่าการพักตัวได้จบลงแล้ว ซึ่งการยืนยันนั้นเกิดขึ้นที่ แท่งที่ 5 เท่านั้น หากเทรดก่อนหน้านั้น (เช่น ตอนเห็นแท่งเล็ก 3 แท่ง) คุณกำลังเดิมพันว่ามันจะพักตัว แต่ราคาอาจจะไหลลงต่อ (ในขาขึ้น) และไม่กลับมาเป็นเทรนด์เดิมก็ได้

ข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดคือการพยายามมองหารูปแบบนี้ในตลาดที่ “ไม่มีเทรนด์”(Sideways) รูปแบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อยืนยัน “การไปต่อของเทรนด์” เท่านั้น หากตลาดกำลังเคลื่อนที่ออกข้าง การเกิดรูปแบบ 5 แท่งที่คล้ายกันนี้จะไม่มีนัยสำคัญ และมักจะให้สัญญาณที่ผิดพลาดสูงมาก

 

เขียนโดย

Poomipat Wonganun

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chatchawal Nakcharoen