มาสำรวจความน่าเชื่อถือและบทบาทของใบอนุญาต ASIC ในตลาด Forex กันในบทความนี้ พร้อมเงื่อนไขการขอใบอนุญาตและวิธีตรวจสอบ ค้นหาโบรกเกอร์ Forex ที่มีใบอนุญาต ASIC เพื่อให้การลงทุนของคุณปลอดภัยและมั่นคงยิ่งขึ้น

ใบอนุญาต ASIC คืออะไร เป็นองค์กรรัฐหรือเอกชน

ใบอนุญาต ASIC  หรือเรียกเต็มๆว่า (Australian Securities and Investments Commission) คือใบอนุญาตที่ออกโดยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนของออสเตรเลีย นั่นเองครับ ซึ่งจะเป็นหน่วยงานอิสระของรัฐบาลออสเตรเลียโดยจะมีหน้าที่กำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับบริษัท,ตลาดการเงิน,บริการทางการเงินและสินเชื่อผู้บริโภคในออสเตรเลีย เป็นต้น [1][2]

รูปที่ 1 ใบอนุญาต ASIC คือใบอนุญาตที่ออกโดยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนของออสเตรเลียและเป็นองค์กรเป็นหน่วยงานอิสระของรัฐบาลออสเตรเลีย

ASIC นั้นถูกก่อตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติ Australian Securities and Investments Commission Act 2001 และดำเนินงานภายใต้กฎหมาย Corporations Act มีหน้าที่สำคัญในการดูแลระบบการเงินของออสเตรเลียให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรมต่อนักลงทุน ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนเป็นอย่างมากเลยทีเดียวครับ [3]

สรุปได้ว่า

  • ASIC เป็นองค์กรอิสระของรัฐบาลออสเตรเลีย
  • มีหน้าที่หลักในการกำกับดูแลตลาดการเงิน บริษัท และบริการทางการเงินต่างๆ ในประเทศออสเตรเลีย
  • เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ
  • มั่นใจได้ว่าใบอนุญาต ASIC มีความน่าเชื่อถือที่สูงเนื่องจากดำเนินการโดยรัฐบาลที่เข้มงวดโดยตรง [4]

ภาพรวมบทบาทหน้าที่ของ ASIC

ในหัวข้อนี้เราจะมาพูดถึงหน้าที่ของ ASIC (Australian Securities and Investments Commission) ที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่สำคัญของออสเตรเลียในด้านบริษัทตลาดการเงิน บริการทางการเงิน เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงเป็นคำถามต่อไปว่า ASIC นั้นเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อนักลงทุนหรือตลาดการเงินอย่างไรบ้าง โดยผมจะทำการอธิบายเป็นข้อๆดังต่อไปนี้

รูปที่ 2  ASIC กับบทบาทหน้าที่สำคัญ(ภาพรวม)ต่อนักลงทุนและตลาดการเงินต่างๆ

บทบาทหลักของ ASIC ได้แก่:

  • ดูแลตรวจสอบและปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบการเงิน: ASIC นั้นจะเน้นไปทางด้านการตรวจสอบดูแลและปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบการเงินและหน่วยงานต่างๆเป็นหลัก โดยภายในระบบนั้นจะก่อให้เกิดความมั่นคงทางการค้า ลดต้นทุนทางธุรกิจ และเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการพัฒนาของเศรษฐกิจ เป็นต้น [5]
  • ส่งเสริมความมั่นใจและให้ความรู้ของผู้บริโภคและนักลงทุน: ASIC จะทำการส่งเสริมให้ผู้บริโภคและนักลงทุนมีความมั่นใจและมีข้อมูลที่เพียงพอในด้านการลงทุนในแหล่งต่างๆทำให้มั่นใจได้ว่าการลงทุนนั้นๆมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหนนั่นเองครับ
  • บังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ: ASIC มีหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริการทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพและด้วยข้อกำหนดทางกระบวนการที่น้อยที่สุด ซึ่งหมายความว่า บริษัทที่อยู่ภายใต้ ASIC จะมีการบังคับใช้กฎหมายเน้นไปที่ความปลอดภัยของนักลงทุนเป็นหลัก
  • จัดการและเผยแพร่ข้อมูล: ASIC จะทำการรับข้อมูลจากนั้นก็จะนำไปประมวลผลตามด้วยจัดเก็บข้อมูลเอาไว้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทและหน่วยงานอื่นๆที่อยู่ภายใต้ ASIC นั้นสามารถเข้าถึงนักลงทุนได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ทำให้สามารถพิจารณาในด้านการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ
  • ดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย: ASIC มีอำนาจในการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายของเครือรัฐที่มอบหมายหน้าที่และอำนาจให้กับ ASIC โดยตรงจึงสามารถทำให้ดูแลนักลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ระเบียบการของ ASIC เบื้องต้น

ระเบียบการเบื้องต้นของ ASIC (Australian Securities and Investments Commission) มีการกำหนดแนวทางและกฎระเบียบที่ชัดเจนเป็นอย่างยิ่งครับสำหรับหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องและเป็นธรรม ระเบียบการเหล่านี้จะถูกกำหนดขึ้นภายใต้กฎหมายหลัก เช่น Corporations Act  เป็นต้น

รูปที่ 3  ภาพรวมระเบียบการเบื้องต้นของ ASIC มีวัตถุประสงค์เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง

แนวทางการกำกับดูแลของ ASIC มีดังนี้

  • อธิบายและตีความกฎหมาย: ASIC ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจกฎหมายอย่างชัดเจน ลดความสับสนและความผิดพลาดในการปฏิบัติตาม โดยเฉพาะกฎหมาย Corporations Act ซึ่งเป็นกฎหมายหลักที่กำกับดูแลบริษัทในออสเตรเลีย [6]
  • การให้คำแนะนำ: ASIC จะให้คำแนะนำเชิงปฏิบัติ เช่น การอธิบายขั้นตอนการขอใบอนุญาต
  • การบังคับใช้กฎหมาย: ASIC มีอำนาจในการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา เพื่อลงโทษผู้ที่ทำผิดกฎหมาย ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน [7][8]
  • การจัดการและเผยแพร่ข้อมูล: ASIC ASIC รวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทและธุรกิจต่างๆ เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และช่วยในการตัดสินใจลงทุน [3]

เพราะฉะนั้นแนวทางและระเบียบการเหล่านี้จะช่วยให้ ASIC สามารถดำเนินการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากเลยครับ อีกทั้งยังสามารถปกป้องผู้บริโภค นักลงทุน และเจ้าหนี้ในตลาดการเงินของออสเตรเลียได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ASIC กำกับดูแลใครบ้างและครอบคลุมกลุ่มคนประเภทใด

อย่างที่เคยได้กล่าวไปข้างต้นแล้วครับว่า ASIC เป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่สำคัญของออสเตรเลียที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัทตลาดการเงิน บริการทางการเงิน และสินเชื่อผู้บริโภค โดยมีบทบาทครอบคลุมทั้งกลุ่มคนและองค์กรต่างๆของออสเตรเลียเป็นหลัก ซึ่งสามารถอธิบายแยกย่อยได้อีก ดังต่อไปนี้:

  • บริษัทและตลาดการเงิน: ASIC กำกับดูแลบริษัทที่จดทะเบียนในออสเตรเลียและตลาดการเงิน เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานที่กำหนด[9][10]
  • ผู้ให้บริการทางการเงิน: ASIC ออกใบอนุญาตและตรวจสอบผู้ให้บริการทางการเงิน เช่น ธนาคาร สหภาพเครดิต บริษัทการเงิน นายหน้าสินเชื่อ และผู้ให้คำปรึกษาทางการเงิน เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการทางการเงินเหล่านั้นจะดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ซื่อสัตย์ และเป็นธรรม[2]
  • ผู้ให้บริการสินเชื่อผู้บริโภค: ASIC กำกับดูแลและออกใบอนุญาตให้กับหน่วยงานที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมสินเชื่อผู้บริโภค เช่น ธนาคาร สหภาพเครดิต และบริษัทสินเชื่อ
  • ผู้ประกอบการตลาดการเงิน: ASIC มีหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินงานของผู้ประกอบการตลาดการเงินที่ได้รับอนุญาต เพื่อให้มั่นใจว่าตลาดดำเนินการอย่างยุติธรรมและโปร่งใส
  • โบรกเกอร์ Forex : ASIC กำกับดูแลและออกใบอนุญาตให้กับโบรกเกอร์ Forex ต่างๆซึ่งก็จัดอยู่ในประเภทของผู้ให้สภาพคล่องเป็นตัวกลางในการทำการสัญญาการซื้อขายประเภท CFD เพื่อให้มั่นใจว่าโบรกเกอร์จะดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ซื่อสัตย์ และเป็นธรรม เช่นเดียวกัน

ดังนั้นแล้ว ASIC มีบทบาทสำคัญในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลต่างๆของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและยังรวมไปถึงมีบทบาทในการปกป้องผู้บริโภคและนักลงทุนในตลาดการเงินของออสเตรเลีย [3]

ใบอนุญาต ASIC น่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน

ใบอนุญาต ASIC (Australian Securities and Investments Commission) ถือว่าเป็นใบอนุญาตที่มีความน่าเชื่อถือสูงเป็นอย่างมากครับ ในวงการด้านการเงินและการลงทุนในออสเตรเลียและรวมไปถึงระดับโลก เนื่องจาก ASIC เป็นหน่วยงานอิสระของรัฐบาลออสเตรเลียที่มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียนและบริการทางการเงินซึ่งทำหน้าที่ต่างๆได้อย่างรัดกุมโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ง่ายอีกด้วยครับทั้งนี้ผมขอสรุปความน่าเชื่อถือของใบอนุญาต ASIC เป็นข้อๆดังต่อไปนี้

รูปที่ 4 ความน่าเชื่อถือของใบอนุญาต Australian Securities and Investments Commission

ความน่าเชื่อถือของใบอนุญาต ASIC มาจากหลายปัจจัย:

  • ความโปร่งใสและการบังคับใช้กฎหมาย: ASIC นั้นมีชื่อเสียงในด้านความโปร่งใสและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งแน่นอนว่ามันจะช่วยปกป้องผู้บริโภค นักลงทุน และเจ้าหนี้ จากการฉ้อโกงและการละเมิดกฎหมายทางการเงินได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาด้วยเหตุนี้โดยเฉพาะ
  • การตรวจสอบและการควบคุม: โบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตจาก ASIC ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวด เช่น การมีเงินทุนหมุนเวียนขั้นต่ำ การแยกเงินของลูกค้าจากเงินของบริษัท และการผ่านการตรวจสอบเป็นระยะๆ โดยจะมีการตรวจสอบอยู่อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องข้อมูลจึงมีการอัปเดทอย่างรวดเร็วและเป็นปัจจุบัน
  • การคุ้มครองผู้บริโภค: ASIC มีมาตรการในการช่วยเหลือและระงับข้อพิพาท รวมถึงการพิจารณาข้อร้องเรียน ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและนักลงทุนได้เป็นอย่างดี…คล้ายกับการที่เราเจอขโมยแล้วไปแจ้งตำรวจ แต่ในทางกลับกันเราสามารถไปร้องต่อ ASIC โดยตรงได้เลย
  • ASIC ออกรายงานประจำปี Licensing and professional registration activities แสดงข้อมูลต่างๆ เช่น จำนวนใบอนุญาตที่ออกให้, จำนวนคำขอที่ถูกปฏิเสธหรือเพิกถอน และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ASIC มีความโปร่งใสในการดำเนินงานสูงเลยทีเดียวครับ

ข้อกำกับที่น่าสนใจของ ASIC

ข้อกำกับที่น่าสนใจของ ASIC มีหลายประเด็นที่สำคัญด้วยกันครับ ซึ่งช่วยส่งเสริมความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตลาดการเงินของออสเตรเลียได้เป็นอย่างดีดังหัวข้อต่อไปนี้:

  • มีการออกคู่มือกำกับดูแลที่ชัดเจน: ASIC จัดทำคู่มือเพื่ออธิบายการบังคับใช้กฎหมายต่างๆ อย่างละเอียด ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจและปฏิบัติตามได้ง่ายขึ้น [6]
  • ต้องมีการป้องกันข้อมูลและความปลอดภัยทางไซเบอร์: ผู้ถือใบอนุญาตต้องมีมาตรการความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เพียงพอเพื่อปกป้องข้อมูลลูกค้าและป้องกันการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งรวมถึงการใช้ไฟร์วอลล์ การเข้ารหัส และการทดสอบความปลอดภัยเป็นประจำ [11]
  • การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด: ASIC มีพลังอำนาจในการตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมายต่อบริษัทที่ละเมิดกฎหมาย ซึ่งรวมไปถึงสามารถสืบสวน การดำเนินการทางปกครอง การฟ้องร้อง และการลงโทษทางแพ่งได้อีกด้วย [11]
  • ต้องมีการคุ้มครองผู้บริโภค: ASIC ให้ความสำคัญกับการปกป้องผู้บริโภค โดยกำหนดมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจนและเป็นธรรม [11]
  • ซัพพอร์ตทางด้านธุรกิจ: การปฏิบัติตามข้อกำกับของ ASIC สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้เพราะ ASIC เป็นเครื่องหมายยืนยันได้ว่าหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลมีความปลอดภัยสูงและเหมาะสมกับการลงทุนเป็นอย่างมาก [11]

เงื่อนไขในการรับใบอนุญาต Forex ของ ASIC เบื้องต้น

เงื่อนไขในการรับใบอนุญาต Forex ของ ASIC (Australian Securities and Investments Commission) มีความเข้มงวดและครอบคลุมหลายด้านด้วยกันครับ นั้นก็เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทที่ได้รับอนุญาตมีความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคและนักลงทุนจริงๆ โดยเงื่อนไขต่างๆ และรายละเอียดค่าใช้จ่ายของการขอใบอนุญาตASIC มีดังนี้

รูปที่ 5 ทำอย่างไรถึงจะได้รับใบอนุญาต Forex ของ (Australian Securities and Investments Commission)

  1. การจดทะเบียนบริษัท: บริษัทต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในออสเตรเลีย สามารถเป็นบริษัทมหาชนหรือบริษัทเอกชนได้[12]
  2. ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ: ASIC กำหนดให้มีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำที่ขึ้นอยู่กับประเภทของบริการทางการเงินที่ให้บริการและปริมาณการทำธุรกรรม โดยทั่วไปต้องมีทุนหมุนเวียนอย่างน้อย 1 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (สำหรับ Full Market Maker License) [13][14]
  3. คุณสมบัติและประสบการณ์ของผู้บริหาร: ผู้จัดการและพนักงานหลักต้องมีประสบการณ์และคุณสมบัติที่เหมาะสม ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการจัดการกิจกรรมทางการเงินตามข้อกำหนดทางกฎหมาย[12]
  4. ระบบการจัดการความเสี่ยงและการควบคุมภายใน: บริษัทต้องพัฒนาระบบการจัดการความเสี่ยงและต้องมีควบคุมภายในให้มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงนโยบายการจัดการทางด้านผลประโยชน์ การป้องกันเงินทุนของลูกค้า [12]
  5. แผนธุรกิจ: ต้องมีการยื่นแผนธุรกิจที่ละเอียดซึ่งอธิบายถึงบริการทางการเงินที่เสนอ เช่นโครงสร้างการบริหาร กลยุทธ์การพัฒนา และการประเมินความเสี่ยง เป็นต้น [12]
  6. การจัดการกับข้อร้องเรียนต่างๆ: บริษัทต้องมีขั้นตอนการจัดการข้อร้องเรียนที่ชัดเจนและเข้าถึงได้สำหรับลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่ามีการเคารพสิทธิของผู้บริโภคและสร้างความเชื่อมั่นในสถาบันการเงินของตนเอง [1]
  7. ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมรายปี: ผู้สมัครต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเมื่อสมัครและค่าธรรมเนียมรายปีเพื่อรักษาใบอนุญาต [12]

การปฏิบัติตามเงื่อนไขเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจในตลาดได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ยังช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าอีกด้วยครับ

แนวทางการตรวจสอบใบอนุญาต ASIC

รูปที่ 6  ตัวอย่างขั้นตอนการตรวจสอบหาใบอนุญาต ASIC ของโบรกเกอร์ Eight Cap

การตรวจสอบใบอนุญาต ASIC ของโบรกเกอร์ Forex สามารถทำได้ผ่านขั้นตอนดังนี้:

  1. เข้าเว็บไซต์ ASIC: ไปที่เว็บไซต์ของ ASIC ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลหลักในการตรวจสอบใบอนุญาตและการจดทะเบียนของบริษัทต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ASIC
  2. ใช้ฟังก์ชันค้นหา: ใช้ฟังก์ชันค้นหาบนเว็บไซต์ ASIC [connectonline.asic.gov.au] เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโบรกเกอร์ที่ต้องการตรวจสอบ โดยป้อนชื่อบริษัทหรือหมายเลขใบอนุญาต (AFSL) ลงในช่องค้นหา
  3. ตรวจสอบรายละเอียดใบอนุญาต: เมื่อพบข้อมูลของโบรกเกอร์ที่ต้องการ ตรวจสอบรายละเอียดใบอนุญาต ซึ่งจะรวมถึงสถานะของใบอนุญาต ประเภทของบริการทางการเงินที่ได้รับอนุญาต และข้อมูลสำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
  4. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลที่แสดงบนเว็บไซต์ ASIC ตรงกับข้อมูลที่โบรกเกอร์ให้ไว้ เช่น ชื่อบริษัท หมายเลขใบอนุญาต และที่อยู่สำนักงาน
  5. ตรวจสอบประวัติการร้องเรียน: หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ สามารถตรวจสอบประวัติการร้องเรียนหรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโบรกเกอร์นั้นๆ ผ่านช่องทางการติดต่อของ ASIC หรือผ่านแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆได้ครับ

การตรวจสอบใบอนุญาต ASIC เป็นขั้นตอนสำคัญในการยืนยันความน่าเชื่อถือและความถูกต้องของโบรกเกอร์ Forex ก่อนการตัดสินใจลงทุนครั้งนะครับ…^^

ข้อมูลอื่นๆของ AISC ที่ควรรู้

รูปที่ 7  ประวัติและการก่อตั้ง Australian Securities and Investments Commission และ ช่องทางการติดต่อ

ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้เกี่ยวกับ ASIC (Australian Securities and Investments Commission) มีดังนี้:

  1. ประวัติและการก่อตั้ง: ASIC ก่อตั้งขึ้นในปี 1991 โดยมีวัตถุประสงค์ในการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนและบริการทางการเงินในออสเตรเลีย เพื่อส่งเสริมความมั่นใจในตลาดการเงินและปกป้องผู้บริโภคและนักลงทุนเป็นหลัก
  2. บทบาทในการกำกับดูแล: ASIC มีบทบาทในการตรวจสอบและกำกับดูแลบริษัทที่ให้บริการทางการเงิน ซึ่งรวมถึงการออกใบอนุญาตและการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายและมาตรฐานที่กำหนด
  3. การป้องกันการฉ้อโกง: ASIC มุ่งมั่นที่จะป้องกันกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายและการฉ้อโกง โดยการแจ้งให้สาธารณชนทราบเกี่ยวกับความเสี่ยงและการดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้ที่ละเมิดกฎหมาย
  4. การให้บริการข้อมูลและการศึกษา: ASIC มีบทบาทในการให้ข้อมูลและการศึกษาแก่ผู้บริโภคและนักลงทุนเกี่ยวกับสิทธิและความรับผิดชอบในตลาดการเงิน เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจในการตัดสินใจทางการเงินที่ดีขึ้น
  5. ช่องทางการติดต่อ: สามารถติดต่อได้ทั้งโทรศัพท์และช่องทางการส่งจดหมายดังต่อไปนี้
    • โทรศัพท์:
      • ภายในออสเตรเลีย: 1300 300 630
      • จากต่างประเทศ: +61 3 5177 5407
    • ส่งจดหมาย:
  • ที่อยู่สำหรับส่งจดหมาย: GPO Box 9827, Melbourne VIC 3001, Australia

ประวัติหรือข่าวที่เกี่ยวข้องระหว่าง ASIC และ โบรกเกอร์

ประวัติและข่าวระหว่าง ASIC (Australian Securities and Investments Commission) กับโบรกเกอร์ Forex นั้นมีหลายเหตุการณ์ที่สำคัญ ตัวอย่างเช่น:

  • การเพิกถอนใบอนุญาตของโบรกเกอร์: ASIC ได้เพิกถอนใบอนุญาตของ XTrade เนื่องจากพบว่ามีการกระทำที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะการส่งเสริมให้ลูกค้าที่ไม่มีประสบการณ์เพียงพอทำการซื้อขายใน CFDs ซึ่งส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างมาก
  • การบังคับใช้กฎหมายกับโบรกเกอร์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม: ASIC ได้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับโบรกเกอร์หลายรายที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด เช่น การปรับเงินโบรกเกอร์ AGM Markets และ Forex Capital Trading Pty Limit รวมถึงการดำเนินคดีทางแพ่งกับ Union Standard International Group (USGFX) เป็นต้น
  • สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Newsroom ทาง ASIC จะอัปเดตข่าวสำคัญๆอยู่ตลอดเลยครับ แต่ถ้าเน้นเฉพาะเรื่องฉาวๆ ก็สามารถเลือกส่องดูเฉพาะ Bannings and Alerts ได้ด้วยครับ 😀

วิธีการฟ้องร้อง ASIC

วิธีการยื่นคำร้องต่อ ASIC (Australian Securities and Investments Commission) สามารถทำได้ผ่านขั้นตอนดังต่อไปนี้:

  1. การยื่นคำร้องออนไลน์: ผู้ร้องเรียนสามารถยื่นคำร้องผ่านแบบฟอร์มออนไลน์ที่เว็บไซต์ของ ASIC โดยกดไปที่ลิ้งก์และเลือก “Report misconduct now” ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีในการกรอกข้อมูล โดยต้องเตรียมข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้พร้อมก่อนเริ่มกระบวนการทั้งหมดนะครับ
  2. การเตรียมข้อมูล: ควรเตรียมข้อมูลที่ถูกต้องและละเอียดเกี่ยวกับข้อร้องเรียน เช่น รายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เอกสารหรือหลักฐานที่สนับสนุนข้อร้องเรียน เพื่อช่วยให้ ASIC สามารถสนับสนุนได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง
  3. การประเมินและตอบกลับ: หลังจากยื่นคำร้องแล้ว ASIC จะทำการประเมินและพิจารณาข้อร้องเรียน โดยปกติจะตอบกลับภายใน 28 วันเพื่อแจ้งผลการประเมินเบื้องต้น

เรื่องควรรู้!!!
แต่เดี๋ยวก่อนครับทุกคน ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ASIC รับเรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมของผู้ให้บริการทางการเงิน รวมถึงโบรกเกอร์ Forex ที่อาจหลอกลวงหรือเอาเปรียบลูกค้า

แต่.. ASIC ไม่ใช่หน่วยงานแก้ไขปัญหาโดยตรง! พวกเขาจะไม่เข้าไปไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย หรือช่วยเหลือในการเรียกเงินคืน

ดังนั้น หากคุณโดนโกง คุณสามารถร้องเรียนต่อ ASIC ได้ แต่ ASIC จะเน้นไปที่การบังคับใช้กฎหมายและปกป้องผู้บริโภคในภาพรวมมากกว่าการช่วยเหลือเรื่องเงินคืนเป็นรายบุคคล สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ Reporting misconduct to ASIC อ่านเข้าใจง่ายและชัดเจนมากๆครับ

โบรกเกอร์ Forex ที่มีใบอนุญาต License ASIC

รูปที่ 8 ตัวอย่างโบรกเกอร์ Forex ชื่อดังที่อยู่ในการกับกำดูแลของ License ASIC

เนื่องจากใบอนุญาต License ASIC เป็นหนึ่งในใบอนุญาตที่มีชื่อเสียงด้านความปลอดภัยเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงจะพบได้ว่ามีโบรกเกอร์มากกว่า 30 โบรกเกอร์เป็นอย่างต่ำที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ASIC โดยจะมีตัวอย่างโบรกเกอร์ชื่อดัง ดังต่อไปนี้ OANDA, Forex.com, Eight Cap, Vantage FX,  Ava Trade, e-Toro, X trade, DGB Markets, FXCM และสุดท้ายคือ XM เป็นต้นสรุป

ในปี 2024 ใบอนุญาต ASIC (Australian Securities and Investments Commission) ยังคงเป็นหนึ่งในใบอนุญาตที่น่าเชื่อถือที่สุดในวงการการเงินและการลงทุนเป็นอย่างมากเลยทีเดียวครับ โดยมีความสำคัญอย่างมากต่อโบรกเกอร์ Forex โดยความน่าเชื่อถือของใบอนุญาตนี้มาจากความเข้มงวดในการกำกับดูแลของ ASIC ซึ่งกำหนดให้โบรกเกอร์ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางการเงินและการดำเนินงานที่เข้มงวด เพื่อให้มั่นใจในความโปร่งใสและความปลอดภัย

นอกจากนี้ ASIC ยังมีบทบาทสำคัญในการคุ้มครองผู้บริโภคและนักลงทุน โดยกำหนดให้มีการแยกเงินทุนของลูกค้าเป็นสัดเป็นส่วนและมีมาตรการจัดการข้อร้องเรียนอย่างให้มีประสิทธิภาพ ดังนั้นการมีใบอนุญาต ASIC จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับโบรกเกอร์ในสายตานักลงทุนทั่วโลกได้เป็นอย่างมากเลยครับ

อ้างอิง

  • [1] https://asic.gov.au/about-asic/what-we-do/our-role/
  • [2] https://www.financemagnates.com/terms/a/asic/
  • [3] https://asic.gov.au/about-asic/what-we-do/
  • [4] https://en.wikipedia.org/wiki/Australian_Securities_and_Investments_Commission
  • [5] https://treasury.gov.au/publication/portfolio-budget-statements-2011-12/portfolio-budget-statements-2011-12/australian-securities-and-investments-commission
  • [6] https://asic.gov.au/regulatory-resources/find-a-document/regulatory-guides/
  • [7] https://www.aph.gov.au/Parliamentary_Business/Committees/Senate/Economics/ASICinvestigation/Report/Chapter_3_-_The_current_regulatory_system
  • [8] https://www.wolterskluwer.com/en-au/expert-insights/the-role-of-asic-as-regulator-and-litigator
  • [9] https://www.gtlaw.com.au/knowledge/financial-services-compliance-australia-2021
  • [10] https://www.aph.gov.au/parliamentary_business/committees/senate/economics/asic/final_report/c03
  • [11] https://fastercapital.com/content/Financial-Services-Licensing–Understanding-ASIC-s-Regulatory-Requirements.html
  • [12] https://rue.ee/forex-license/australia/
  • [13] https://tkdeal.com/en/licenses/polucit-foreks-licenziu-v-avstralii
  • [14] https://atomiqconsulting.com/asic-forex-license/