ความรู้ทั่วไปในโลก forex

อะไรคือ COT Report Gold: ข่าวที่มีประโยชน์สำหรับนักเทรดทอง

Report Gold คืออะไร?

COT Report Gold หรือ Commitments of Traders Report สำหรับ ทองคำ คือ รายงานที่เผยแพร่โดย Commodity Futures Trading Commission (CFTC) ในสหรัฐฯ ซึ่งแสดงข้อมูลตำแหน่งการซื้อขาย (Positions) ของผู้เข้าร่วมใน ตลาดฟิวเจอร์สทองคำ (Gold Futures) รายงานนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักลงทุนในตลาดทองคำ แบ่งออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ เช่น นักเก็งกำไร (Non-Commercial), ผู้ผลิต/ผู้ค้า (Commercial), และนักลงทุนรายย่อย (non-reportable)

COT Report ได้รับความสนใจจากนักเทรดทองคำทั่วโลก เพราะช่วยให้เข้าใจความเชื่อมั่นของตลาด (Market Sentiment) และคาดการณ์ทิศทาง ราคาทองคำ (XAU/USD) ได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาทองคำผันผวนจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์, นโยบายการเงินของ Federal Reserve, และความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อไหร่ที่ COT Report Gold กลายเป็นข่าวใหญ่?

  • เมื่อ Non-Commercial Long Positions สูงเกินปกติ: บ่งชี้ว่านักเก็งกำไร (เช่น กองทุนเฮดจ์ฟันด์) มองว่าราคาทองคำจะพุ่งขึ้น (Bullish) ส่งผลให้ราคาทองคำมีแนวโน้มขาขึ้น
  • เมื่อ Non-Commercial Short Positions สูง: สะท้อนว่านักเก็งกำไรคาดว่าราคาจะลดลง (Bearish) อาจกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัว

ตัวอย่าง ข้อมูลนี้คือ COT Report Gold ฉบับล่าสุด

  • วันที่: 24 มิถุนายน 2025 (ข้อมูล ณ วันอังคาร)
  • สินค้า: ทองคำ (COMEX) – Code 088691
  • Open Interest: 434,958 สัญญา (ลดลง -6,256)

นี่คือรายงาน COT ล่าสุดที่แสดงภาพรวมตลาดทองคำและทัศนคติของนักลงทุนแต่ละกลุ่ม

สัญญาณสำคัญจากกราฟ

  • Non-Commercial ยัง Net Long สูง (195,004) แสดงความมั่นใจ
  • Commercial ยัง Net Short สูง (-230,560) ป้องกันความเสี่ยง
  • ราคาทองคำอยู่ในระดับสูง ($3,300+)

สิ่งที่ควรสังเกต:

  • Non-Commercial ลด Long positions เล็กน้อย (-4,509)
  • Commercial เพิ่ม Short positions (-5,528)
  • อาจบ่งชี้ความระมัดระวังในระดับราคาปัจจุบัน

ข้อมูลพื้นฐานที่ต้องรู้เกี่ยวกับ COT Report Gold

COT Report Gold เป็นเครื่องมือที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการถือครองตำแหน่ง (Open Interest) ในสัญญาฟิวเจอร์สทองคำที่ซื้อขายในตลาด COMEX (Commodity Exchange) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ CME Group

การเผยแพร่รายงาน

  • ออกทุกวันศุกร์ โดยแสดงข้อมูล ณ วันอังคารของสัปดาห์นั้น
  • เผยแพร่โดย CFTC ทางเว็บไซต์ https://www.cftc.gov

กลุ่มผู้เข้าร่วมในรายงาน

  • Non-Commercial (นักเก็งกำไร): เช่น กองทุนเฮดจ์ฟันด์, เทรดเดอร์รายใหญ่ มักเก็งกำไรตามแนวโน้มราคา
  • Commercial (ผู้ผลิต/ผู้ค้า): เช่น บริษัทเหมืองทองคำ, ผู้ค้าทองคำ ใช้ฟิวเจอร์สเพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging)
  • Non-Reportable (นักลงทุนรายย่อย): เทรดเดอร์รายเล็กที่มีตำแหน่งไม่ถึงเกณฑ์รายงาน

ข้อมูลสำคัญในรายงาน

  • Net Long/Short Positions: ตำแหน่งซื้อ (Long) ลบด้วยตำแหน่งขาย (Short) ของแต่ละกลุ่ม
  • Open Interest: จำนวนสัญญาฟิวเจอร์สที่ยังเปิดอยู่
  • Changes in Positions: การเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งจากสัปดาห์ก่อน

ผลกระทบต่อราคาทองคำ

  • Non-Commercial Long สูง: สัญญาณ Bullish ราคาทองคำมักขึ้น
  • Non-Commercial Short สูง: สัญญาณ Bearish ราคาทองคำมักลง

 

ข้อดีและข้อเสียของ COT Report Gold

ข้อดี

  • ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ Market Sentiment: แสดงพฤติกรรมของนักเก็งกำไรและผู้ผลิต ช่วยคาดการณ์ทิศทางราคาทองคำ
  • ช่วยระบุจุดกลับตัวของราคา: เมื่อ Non-Commercial Long หรือ Short สูงเกินไป มักบ่งชี้ว่าแนวโน้มอาจถึงจุดสิ้นสุด (Overbought/Oversold)
  • ข้อมูลโปร่งใสและน่าเชื่อถือ: เผยแพร่โดย CFTC ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐที่มีความน่าเชื่อถือ
  • ใช้ได้กับกลยุทธ์ระยะยาว: ช่วยนักเทรดวางแผนตามแนวโน้มใหญ่ของตลาดทองคำ
  • ครอบคลุมข้อมูลหลากหลาย: แสดงทั้งตำแหน่ง Long, Short และ Open Interest ช่วยวิเคราะห์ได้รอบด้าน
  • ฟรีและเข้าถึงง่าย: รายงานเผยแพร่สู่สาธารณะ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

ข้อเสีย

  • ความล่าช้าในการรายงาน: ข้อมูลสะท้อนสถานการณ์ ณ วันอังคาร แต่เผยแพร่วันศุกร์ อาจล้าสมัยในตลาดที่เคลื่อนไหวเร็ว
  • ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่สมบูรณ์แบบ: COT Report ต้องใช้ควบคู่กับเครื่องมืออื่น เช่น การวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือข่าวเศรษฐกิจ
  • ความซับซ้อนในการตีความ: การวิเคราะห์ตำแหน่งของกลุ่มต่าง ๆ อาจยากสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
  • อาจถูกตีความผิด: การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งอาจเกิดจากปัจจัยชั่วคราว เช่น การปิดตำแหน่งเพื่อทำกำไร
  • ขึ้นอยู่กับบริบทตลาด: COT Report อาจไม่แม่นยำในช่วงที่ตลาดผันผวนจากข่าวใหญ่ เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบาย Fed
  • จำกัดเฉพาะตลาดฟิวเจอร์ส: ไม่ครอบคลุมการซื้อขายทองคำในรูปแบบอื่น เช่น Spot Market หรือ ETF

รู้จัก COT Report Gold: รายงานตำแหน่งการซื้อขายทองคำ

ประวัติและการพัฒนา

  • เริ่มใช้เมื่อใด: COT Report เริ่มเผยแพร่โดย CFTC ตั้งแต่ปี 1962 เดิมครอบคลุมสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วไป และพัฒนาให้ครอบคลุมทองคำในตลาดฟิวเจอร์สตั้งแต่ช่วงปี 1980
  • หน่วยงานที่รับผิดชอบ: Commodity Futures Trading Commission (CFTC)
  • วัตถุประสงค์: ให้ความโปร่งใสเกี่ยวกับตำแหน่งการซื้อขายในตลาดฟิวเจอร์ส

โครงสร้างของรายงาน

  • Disaggregated Report: แบ่งผู้เข้าร่วมเป็น Non-Commercial, Commercial, และ non-reportable
  • Legacy Report: รูปแบบดั้งเดิมที่รวมข้อมูลทั้งหมดในภาพรวม

ข้อมูลสำคัญ

  • จำนวนสัญญา Long และ Short
  • การเปลี่ยนแปลงรายสัปดาห์
  • Open Interest และเปอร์เซ็นต์ของตำแหน่ง
  • การเข้าถึง: รายงานเผยแพร่ฟรีที่ https://www.cftc.gov/MarketReports/CommitmentsofTraders

COT Report Gold สำคัญกับการเทรดทองคำเพราะอะไร?

COT Report Gold เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดทองคำ ทั้งในตลาด Forex (XAU/USD) และฟิวเจอร์ส เนื่องจากให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและตำแหน่งของผู้เล่นสำคัญในตลาด โดยมีเหตุผลดังนี้:

แสดงความเชื่อมั่นของนักเก็งกำไรมืออาชีพ

ตำแหน่ง Non-Commercial Long ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องบ่งชี้ว่านักลงทุนสถาบันและ hedge funds มีความมั่นใจในการขาขึ้นของราคาทองคำ ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของตำแหน่ง Short แสดงถึงความคาดหวังในการปรับลงของราคา ซึ่งกลุ่มนี้มักมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่ดีกว่านักลงทุนรายย่อย

ช่วยระบุจุดกลับตัวของตลาด

เมื่อตำแหน่ง Long หรือ Short ของกลุ่ม Non-Commercial อยู่ในระดับสูงสุด (Extreme Levels) เป็นระยะเวลานาน มักเป็นสัญญาณเตือนว่าตลาดอาจเข้าสู่ภาวะ “oversold” หรือ “overbought” และอาจเกิดการกลับตัวได้ เช่น ในช่วงกลางปี 2022 เมื่อตำแหน่ง Non-Commercial Short อยู่ในระดับสูงสุดในรอบหลายปี ส่งผลให้ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวอย่างแรงในช่วงครึ่งหลังของปี

สร้างโอกาสเทรดจากความผันผวนระยะสั้น

การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งอย่างรวดเร็วของกลุ่ม Large Speculators มักนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น 1-2 สัปดาห์ นักเทรดสามารถใช้ประโยชน์จากความผันผวนนี้โดยการ scalping หรือ day trading ในทิศทางที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตำแหน่ง

ให้สัญญาณแนวโน้มระยะยาว

แนวโน้มของ Net Long/Short ในระยะ 8-12 สัปดาห์ช่วยให้นักเทรดคาดการณ์ทิศทางใหญ่ของราคาทองคำได้ หากแนวโน้ม Net Long เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มักบ่งชี้ถึงการขาขึ้นระยะยาว และในทางกลับกัน การเพิ่มขึ้นของ Net Short อาจส่งสัญญาณการปรับลงในระยะยาว

ส่งผลกระทบต่อสินทรัพยร์ที่เกี่ยวข้อง

การเปลี่ยนแปลงความต้องการทองคำจาก COT Report มักส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) เนื่องจากความสัมพันธ์แบบผกผัน เมื่อความต้องการทองคำเพิ่มขึ้น USD มักอ่อนค่าลง นอกจากนี้ยังส่งผลต่อโลหะมีค่าอื่นๆ เช่น เงิน (Silver) และแพลตินัม รวมถึงหุ้นบริษัทเหมืองแร่

ช่วยในการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ

นักเทรดสามารถใช้ COT Report เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าตลาดในช่วงที่ตำแหน่งมีความเสี่ยงสูง เช่น เมื่อ Non-Commercial Long อยู่ในระดับสูงมาก อาจเป็นสัญญาณให้รอจังหวะที่ดีกว่า หรือใช้ stop loss ที่เข้มงวดมากขึ้น

มีปฏิทินการเผยแพร่ที่แน่นอนและสม่ำเสมอ

รายงาน COT ออกทุกวันศุกร์ประมาณ 15:30 EST (ข้อมูล ณ วันอังคารของสัปดาห์นั้น) ทำให้นักเทรดสามารถวางแผนการเทรดล่วงหน้าและเตรียมกลยุทธ์สำหรับสัปดาห์ถัดไปได้อย่างเป็นระบบ

ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโครงสร้างตลาด

COT Report แบ่งผู้เล่นออกเป็นกลุ่มต่างๆ ได้แก่ Commercial (ผู้ใช้จริง/ผู้ผลิต), Non-Commercial (นักเก็งกำไร), และ Non-Reportable (นักลงทุนรายย่อย) ทำให้เข้าใจพลวัตของตลาดได้ดีขึ้น เช่น เมื่อ Commercial เพิ่ม Short positions มาก อาจบ่งชี้ว่าผู้ผลิตทองคำกำลัง hedge ตำแหน่งเพราะคาดว่าราคาจะลง

ปัจจัยที่ส่งผลต่อ COT Report Gold

COT Report Gold หรือ Commitments of Traders Report เป็นรายงานที่สะท้อนตำแหน่งการซื้อขายในตลาดฟิวเจอร์สทองคำ โดยได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลากหลายที่กำหนดพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมตลาด เช่น นักเก็งกำไร (Non-Commercial) และผู้ผลิต (Commercial) 

ปัจจัยเหล่านี้ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ เช่น นโยบายการเงินของ Federal Reserve อัตราเงินเฟ้อ และความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความตึงเครียดระหว่างประเทศหรือความไม่แน่นอนทางการค้า 

ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อหรือขายในตลาดฟิวเจอร์ส ทำให้ COT Report เป็นเครื่องมือที่ช่วยนักเทรดวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำ (XAU/USD) และคาดการณ์แนวโน้มตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีรายละเอียดปัจจัยดังนี้:

ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ

  • นโยบายการเงินของ Fed: การขึ้นดอกเบี้ยมักทำให้ Non-Commercial ลด Long Positions เพราะทองคำให้ผลตอบแทนน้อยกว่าพันธบัตร
  • ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ: USD ที่แข็งค่ามักกดดันราคาทองคำ ทำให้ Commercial เพิ่ม Short Positions เพื่อป้องกันความเสี่ยง
  • อัตราเงินเฟ้อ: เงินเฟ้อสูงกระตุ้น Non-Commercial Long เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
  • ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์
  • ความตึงเครียดระหว่างประเทศ: เช่น ความขัดแย้งอิสราเอล-อิหร่าน หรือรัสเซีย-ยูเครน กระตุ้น Non-Commercial Long เพราะทองคำเป็น Safe-Haven Asset
  • ความไม่แน่นอนทางการค้า: สงครามการค้าหรือการขึ้นภาษี เช่น ภาษี 50% ของสหรัฐฯ ต่อสหภาพยุโรป อาจทำให้ Non-Commercial ปรับขนาดการเทรดขึ้นหรือลง

ปัจจัยด้านเทคนิคและพฤติกรรม

  • การเก็งกำไร: กองทุนเฮดจ์ฟันด์อาจเพิ่ม Long Positions ในช่วงที่ราคาทองคำทะลุแนวต้านสำคัญ
  • การปิดตำแหน่งเพื่อทำกำไร: เมื่อราคาทองคำถึงระดับสูงสุด นักเก็งกำไรมักลด Long Positions ส่งผลต่อ COT Report
  • ความผันผวนของสินทรัพย์อื่น: เช่น การพุ่งขึ้นของราคาเงิน (Silver) อาจกระตุ้น Non-Commercial Long ในทองคำ
  • ปัจจัยด้านอุปสงค์และอุปทาน
  • การซื้อทองคำของธนาคารกลาง: การซื้อทองคำจำนวนมาก เช่น 1,000 ตันในปี 2025 โดยธนาคารกลางทั่วโลก ส่งผลให้ Commercial ลด Short Positions
  • ความต้องการในอุตสาหกรรม: ความต้องการทองคำในเครื่องประดับหรือเทคโนโลยีอาจกระตุ้น Commercial Long

ตัวอย่างข่าว COT Report Gold

ข่าวอะไร COT Report Gold Analysis: สัญญาณสำคัญจากข้อมูล 17 มิถุนายน 2025

  • วันที่เผยแพร่: 13 มิถุนายน 2025 เวลา 15:30 น. (ET)
  • ข้อมูล ณ วันที่: 10 มิถุนายน 2025
  • Non-Commercial Traders (นักเก็งกำไร)
    • Long Positions: 260,586 สัญญา (เพิ่มขึ้น +14,591 สัญญา)
    • Short Positions: 59,938 สัญญา (เพิ่มขึ้น +1,424 สัญญา)
    • สัดส่วน: Long 59.1% | Short 13.6%
  • Commercial Traders (ผู้ผลิต/ผู้ค้า):
    • Long Positions: 71,684 สัญญา (16.2%)
    • Short Positions: 309,411 สัญญา (เพิ่มขึ้น +18,261 สัญญา)
    • สัดส่วน: Long 16.2% | Short 70.1%
    • Total Open Interest: 441,214 สัญญา
  • จุดสำคัญที่ต้องจับตา
  1. สัญญาณผสม (Mixed Signals)
  • Non-Commercial เพิ่ม Long มากกว่า Short (อัตราส่วน 10:1) = ยังมองบวกต่อทองคำ
  • Commercial เพิ่ม Short แรงมาก (+18,261 สัญญา) = ป้องกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
  1. การแปลความหมาย

สัญญาณ Bullish:

  • Non-Commercial (Smart Money) ยังคงสั่งสม Long positions
  • อัตราส่วน Long vs Short ของ Non-Commercial อยู่ที่ 4.3:1 ถือว่าสูง

สัญญาณ Bearish:

  • Commercial เพิ่ม Short อย่างมากมาย บ่งชี้ความกังวลต่อราคาระดับปัจจุบัน
  • อัตราส่วน Commercial Short vs Long อยู่ที่ 4.3:1 ซึ่งสูงผิดปกติ

การวิเคราะห์กราฟ XAU/USD ความเคลื่อนไหวหลัง COT Report

การเคลื่อนไหว: Sideways/Consolidation

สิ่งที่เห็นจากกราฟ:

  • ไม่มีโมเมนตัมชัดเจน ทั้งขาขึ้นและขาลง
  • ราคาเคลื่อนไหวรอบ SMA 20 บ่งชี้ความลังเล
  • Bollinger Bands แคบลง = ความผันผวนลดลง
  • Volume ไม่โดดเด่น = รอความชัดเจนจากปัจจัยใหม่

สถานการณ์ปัจจุบัน

  • ตลาดทองคำอยู่ในสภาวะลังเล หลังจาก COT Report แสดงสัญญาณที่ขัดแย้งกัน
  • Non-Commercial ยังมองดี แต่ Commercial กังวลและเพิ่มการป้องกันความเสี่ยง

กลยุทธ์แนะนำ

สำหรับ Short-term Traders:

  • รอ Breakout จากช่วง $3,289-$3,318
  • เทรด Range ซื้อใกล้ Support ขายใกล้ Resistance
  • ระวัง False Breakout เนื่องจากสัญญาณขัดแย้ง

สำหรับ Long-term Investors:

  • ติดตาม COT สัปดาห์หน้า ว่า Non-Commercial จะเพิ่ม Long ต่อหรือไม่
  • รอจังหวะ Dip เพื่อสะสมถ้ายังมองบวกระยะยาว

คำถามสำคัญที่ต้องถาม

ทำไม Commercial ถึงเพิ่ม Short มากขนาดนี้?
อาจเป็นเพราะ:

  • ราคาทองคำขณะนี้สูงเกินไปสำหรับผู้ผลิต
  • คาดการณ์ว่าจะมีแรงกดดันขาลงในระยะสั้น
  • ป้องกันความเสี่ยงจากการผลิตในอนาคต

 

คลิปที่น่าสนใจ

วีดีโอนี้เป็นคู่มือพื้นฐานที่อธิบายเรื่อง COT Report (Commitments of Traders) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่นักเทรดมืออาชีพใช้กันมากที่สุดในการดูแนวโน้มราคาทองคำและเงิน

 

จุดสำคัญจาก COT Report Gold Video

  • 0:00-0:12 – เปิดตัวหัวข้อหลัก COT เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ราคาที่มีประโยชน์มากสำหรับ Commodities อย่างเงินและทองคำ
  • 0:12-0:30 – คำจำกัดความ COT Report COT = Commitments of Traders รายงานรายสัปดาห์จาก CFTC ที่แสดงข้อมูลการถือครองของนักเทรดประเภทต่างๆ
  • 0:30-0:41 – ประโยชน์หลักของ COT ใช้วัด sentiment ของตลาดและระบุจุดเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น นี่สำคัญมาก
  • 0:41-0:50 – กลุ่มนักเทรดในทองคำ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม: Commercial Traders, Non-commercial Traders (hedge funds/speculators), และ Small Traders
  • 0:50-1:02 – COT Index คืออะไร? เครื่องมือวัดการกระทำรายสัปดาห์ของแต่ละกลุ่มเทรดเดอร์เพื่อเข้าใจการเคลื่อนไหวตลาด
  • 1:02-1:23 – การตีความ COT Index (ตรงนี้สำคัญมาก!)
    • COT Index สูง = ตลาด Bullish → ราคาทองอาจขึ้น
    • COT Index ต่ำ = ตลาด Bearish → ราคาทองอาจลง
  • 1:25-1:35 – ข้อแนะนำสำคัญ COT เป็นแค่เครื่องมือหนึ่ง ต้องใช้ร่วมกับ indicators และเทคนิควิเคราะห์อื่นๆ
  • 1:35-2:00 – COT สำหรับเงิน (Silver) มีหลักการเดียวกับทองคำ แต่เป็นข้อมูลเฉพาะตลาด Silver Futures
  • 2:14-2:25 – ข้อจำกัดสำคัญ ไม่สามารถดูข้อมูลของเทรดเดอร์รายบุคคลได้ – ข้อมูลเป็นความลับและผิดกฎหมายหากเปิดเผย
  • 2:28-2:50 – การแก้ไขข้อจำกัด มี Disaggregated COT Report ที่แยกข้อมูลละเอียดกว่า เช่น แยก Commercial เป็น Producers, Merchants, Processors

สรุป

COT Report Gold หรือ Commitments of Traders Report เป็นเครื่องมือสำคัญที่เผยแพร่โดย Commodity Futures Trading Commission (CFTC) เพื่อแสดงตำแหน่งการซื้อขายในตลาดฟิวเจอร์สทองคำ รายงานนี้ช่วยให้นักเทรดเข้าใจพฤติกรรมและความเชื่อมั่นของผู้เข้าร่วมตลาด เช่น นักเก็งกำไร (Non-Commercial) และผู้ผลิต (Commercial) ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้คาดการณ์ทิศทางราคาทองคำ (XAU/USD) และบริหารความเสี่ยงในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

เพื่อให้การเทรดมีประสิทธิภาพ นักเทรดควรติดตาม COT Report อย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ เนื่องจากรายงานนี้ให้ข้อมูลที่โปร่งใสและน่าเชื่อถือจากหน่วยงานรัฐ อย่างไรก็ตาม การใช้ COT Report เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากข้อมูลอาจมีความล่าช้าและต้องตีความอย่างรอบคอบ ควรมีการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น แนวรับแนวต้าน หรือตัวชี้วัดต่าง ๆ และติดตามข่าวเศรษฐกิจ เช่น นโยบายการเงินของ Federal Reserve หรือเหตุการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ เพื่อให้ได้มุมมองที่ครบถ้วน 

การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ตำแหน่ง Non-Commercial ถึงระดับสูงสุดหรือต่ำสุด ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของจุดกลับตัวของราคา การใช้ COT Report อย่างชาญฉลาดจะช่วยให้นักเทรดสามารถคว้าโอกาสทำกำไรและลดความเสี่ยงในตลาดทองคำที่ผันผวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อ้างอิง

FAQ — COT Report Gold: ข่าวที่มีประโยชน์สำหรับนักเทรดทอง

ทั้งคู่เล่นกันคนละเกม พวก Non-Commercials (กองทุนเฮดจ์ฟันด์) จะเน้นไปด้านขี่ trend คือมีทั้งข้อมูลและเงินทุนมหาศาลในการสร้างทิศทางราคา แต่กลุ่ม Commercials (บริษัทเหมืองทอง) จะคอยกำหนด demand & supply ที่แท้จริง ที่การเคลื่อนไหวสำคัญๆ ย่อมทำให้เกิดจุดกลับตัวของตลาดได้เสมอ แต่โดยทั่วไป Smart Money = ผู้เล่นที่รู้ก่อน + มีข้อมูลเหนือกว่า ทำให้ Commercials รู้ต้นทุนที่แท้จริงของตลาด และน่าจะใกล้กับคำว่า Smart Money มากกว่า
เพราะข้อมูลมีจำนวนมาก ทำให้ CFTC ต้องใช้เวลาในการรวบรวม + ตรวจสอบ + เตรียมรายงานก่อนเผยแพร่ เช่น ข้อมูลการถือสถานะ long/short ของแต่ละกลุ่ม รวม ๆ จะถูกเก็บในสิ้นวันอังคาร แต่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบความถูกต้องและแบ่งกลุ่มผู้เล่นต่าง ๆ  ทำให้กว่าจะเผย่แพร่ออกมาได้จริง เลยถูกกำหนดเป็นวันศุกร์ และกลายเป็นข้อมูลล่าช้าประมาณ 3 วัน
ให้เน้นดู Net Position ของกลุ่ม Non-Commercial (ตัวเลขซื้อสุทธิของนักเก็งกำไร) เพราะสะท้อนความเชื่อมั่นของรายใหญ่ ได้ชัดเจนที่สุด แล้วเอาไปเปรียบเทียบกับข้อมูลย้อนหลัง 6-12 เดือน เพื่อดูว่าตอนนี้อยู่ใกล้จุดสูงสุด หรือต่ำสุด ยังไงบ้าง ถ้าเทียบกับในอดีต
เพราะตลาด Futures มีผลต่อ Sentiment และ Trend ของราคาทองทั่วโลก เป็นแหล่งที่ระดับสถาบันรายใหญ่ที่สุดในโลกใช้กำหนดราคาทองคำ พวกตลาด Spot/CFDs ที่เราเทรดกัน แม้จะมีสภาพคล่องสูง แต่จะเป็นแค่ผู้ตาม (Price Taker) ที่เคลื่อนไหวตาม Sentiment จากในตลาด Futures
เพราะเป็นธรรมชาติของรายย่อยที่ชอบไล่ตามราคา คือจะเข้าซื้อหลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นไปมากแล้ว (เพราะกลัวตกรถ เลย FOMO) และจะยอมทนถือขาดทุน จนถึงวันที่หมดสิ้นแล้วความหวัง จนยอมขายหลังจากที่ราคาร่วงลงมาหนักมาก ๆ ด้วยพฤติกรรมนี้ทำให้รายย่อยที่ไล่ราคา ซื้อแพง–ขายถูก กลายเป็นเหยื่อของรายใหญ่ ทำให้มีเทรดเดอร์สาย contrarian (รวมถึงบาง hedge fund) ใช้ข้อมูล Non-Reportable ไว้เล่นสวนรายย่อย เป็นสัญญาณตรงข้ามที่น่าเชื่อถือไปซะงั้น

 

เขียนโดย

Pakornkiat Poonsuk

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chonthicha Poomidon