Fed Chair Powell Speaks คืออะไร? เจาะลึกความสำคัญของคำแถลงที่สั่นสะเทือนตลาดการเงินโลก
ความสำเร็จในการลงทุนไม่ได้อยู่ที่การคาดเดาทิศทางตลาด แต่อยู่ที่การเข้าใจและตอบสนองต่อนโยบายการเงินอย่างชาญฉลาด
Fed Chair Powell Speaks คือ การแถลงการณ์หรือสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สุดในตลาดการเงินโลก เนื่องจากมีอิทธิพลอย่างมากต่อทิศทางของตลาดและการตัดสินใจของนักลงทุนทั่วโลก
หมายเหตุ: “การแถลงของประธาน Fed มีความสำคัญมากกว่าตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ เพราะเป็นการส่งสัญญาณถึงทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต”
ความสำคัญต่อตลาดการเงิน
- เป็นสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต
- มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนทั่วโลก
- กระทบต่อทิศทางค่าเงินและอัตราดอกเบี้ยโลก
- สร้างความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้น พันธบัตร และสินทรัพย์ต่างๆ
อิทธิพลต่อเศรษฐกิจ
- ชี้นำทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ และโลก
- ส่งผลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางทั่วโลก
- กระทบต่อการลงทุนและการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจ
- มีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ
ความสำคัญต่อนักลงทุน
- ใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการลงทุน
- ช่วยประเมินความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน
- เป็นแนวทางในการปรับกลยุทธ์การลงทุน
- ช่วยคาดการณ์ทิศทางตลาดในอนาคต
ช่วงเวลาสำคัญที่ต้องติดตาม Fed Chair Powell Speaks
1. การประชุม FOMC (Federal Open Market Committee)
กำหนดการประชุมปี 2024
- จัดขึ้น 8 ครั้งต่อปี (ทุก 6-8 สัปดาห์)
- ใช้เวลาประชุม 2 วัน
- แถลงผลวันที่สองเวลา 14:00 น. (เวลาสหรัฐ)
- แถลงข่าวและตอบคำถามสื่อ 14:30 น.
2. การแถลงต่อรัฐสภา (Congressional Testimony)
Humphrey-Hawkins Testimony
- จัดขึ้น 2 ครั้งต่อปี (กุมภาพันธ์และกรกฎาคม)
- แถลงต่อวุฒิสภาวันแรก
- แถลงต่อสภาผู้แทนฯ วันที่สอง
- มีการถาม-ตอบกับสมาชิกสภา
3. การประชุมเศรษฐกิจที่แจ็คสัน โฮล (Jackson Hole Symposium)
ช่วงเวลาสำคัญ
- จัดขึ้นปลายเดือนสิงหาคมของทุกปี
- ใช้เวลา 2-3 วัน
- พาวเวลล์มักกล่าวสุนทรพจน์วันแรก
- เป็นเวทีประกาศนโยบายสำคัญ
4. การให้สัมภาษณ์และปาฐกถาพิเศษ
โอกาสสำคัญ
- การประชุม IMF/World Bank (เมษายนและตุลาคม)
- การประชุม G20
- การประชุม BIS (Bank for International Settlements)
- การให้สัมภาษณ์สื่อชั้นนำ
Fed Chair Powell Speaks: ผู้ประกาศและที่มาของอำนาจ
1.ผู้ประกาศ – เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell)
ประวัติและการดำรงตำแหน่ง
- ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed Chair) คนที่ 16
- เริ่มดำรงตำแหน่งครั้งแรกเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2018
- ได้รับแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
- ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งวาระที่สองโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน
- วาระปัจจุบันจะสิ้นสุดในเดือนมกราคม 2026
2.กระบวนการแต่งตั้งและกำหนดอำนาจ
การแต่งตั้งตามกฎหมาย
- ได้รับการเสนอชื่อโดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ
- ต้องผ่านการรับรองจากวุฒิสภา (Senate Confirmation)
- มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี และสามารถได้รับแต่งตั้งซ้ำได้
- ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ Fed ได้สูงสุด 14 ปี
อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย
- เป็นประธานคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve Board)
- เป็นประธานคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC)
- รายงานต่อรัฐสภาปีละ 2 ครั้ง
- กำหนดและดำเนินนโยบายการเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
ข้อจำกัดทางกฎหมาย
- ไม่สามารถถูกถอดถอนโดยประธานาธิบดีเพียงฝ่ายเดียว
- ต้องทำงานอย่างเป็นอิสระจากการแทรกแซงทางการเมือง
- ห้ามมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับสถาบันการเงิน
- เงินเดือนกำหนดตาม Executive Schedule Level I
- ข้อมูลอ้างอิงจาก Federal Reserve Act และ Banking Act of 1935
โอกาสสำคัญในการแถลง Fed Chair Powell Speaks
การประชุม FOMC (Federal Open Market Committee)
- การแถลงผลการประชุม FOMC จัดประชุมทุก 6 สัปดาห์ หรือ 8 ครั้งต่อปี
- ในแต่ละครั้งพาวเวลล์จะแถลงมติที่ประชุมเกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเฉพาะการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีผลโดยตรงต่อต้นทุนการกู้ยืมทั่วโลก
- จากการรวบรวมสถิติ ข้อมูลของ Bloomberg พบว่าการแถลงแต่ละครั้งส่งผลให้ตลาดหุ้นเคลื่อนไหวเฉลี่ย 1-2% ภายใน 2 ชั่วโมงแรกเสมอ
การแถลงข่าวหลังการประชุม
- หลังจบการประชุม พาวเวลล์จะจัดแถลงข่าวที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
แบ่งเป็นสองส่วน
- การอ่านแถลงการณ์ 15 นาทีแรก
- การตอบคำถามสื่อมวลชน 45 นาที
- ที่เหลือ Morgan Stanley Research
- ช่วงตอบคำถามมักสร้างความผันผวนให้ตลาดมากกว่า เพราะเป็นการตอบแบบไม่ได้เตรียมไว้ล่วงหน้า ทำให้เห็นมุมมองที่แท้จริงของพาวเวลล์
การตอบคำถามสื่อมวลชน
ในช่วงถาม-ตอบ สื่อมวลชนจะถามคำถามเชิงลึกเกี่ยวกับ
- แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในอนาคต
- เหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย
- มุมมองต่อความเสี่ยงต่างๆ ในระบบการเงิน
- การคาดการณ์ทิศทางนโยบายการเงินในระยะต่อไป
การแถลงต่อรัฐสภา (Congressional Testimony)
Humphrey-Hawkins Testimony การแถลงต่อรัฐสภาปีละ 2 ครั้งนี้เป็นข้อกำหนดตามกฎหมาย โดยพาวเวลล์ต้องรายงานต่อคณะกรรมาธิการการเงินของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร JPMorgan Analysis (2024) ระบุว่าการแถลงนี้
มีความสำคัญเป็นพิเศษเพราะ…
- เป็นการประเมินสถานะเศรษฐกิจอย่างครอบคลุม
- มีการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต 6-12 เดือน
- แสดงความเชื่อมโยงระหว่างนโยบายการเงินและเป้าหมายทางเศรษฐกิจ
- เปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาซักถามประเด็นเศรษฐกิจที่ประชาชนให้ความสนใจ
การรายงานต่อคณะกรรมาธิการการเงิน Citibank Research พบว่าการรายงานมักครอบคลุมประเด็นสำคัญดังนี้:
- เป้าหมายเงินเฟ้อ (Inflation Target)
- ความคืบหน้าในการควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ที่ 2%
- ปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ
- มาตรการที่ใช้และผลที่ได้รับ
- การจ้างงาน (Employment)
- สถานการณ์ตลาดแรงงานปัจจุบัน
- แนวโน้มการจ้างงานในอนาคต
- ผลกระทบของนโยบายการเงินต่อการจ้างงาน
- เสถียรภาพทางการเงิน (Financial Stability)
- ความเสี่ยงในระบบการเงิน
- สถานะของสถาบันการเงินสำคัญ
- มาตรการรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน
การตอบข้อซักถามจากสมาชิกสภา
ช่วงถาม-ตอบมักสร้างความผันผวนในตลาดเพราะ…
- สมาชิกสภามักถามคำถามที่ตรงประเด็นและท้าทาย
- พาวเวลล์ต้องตอบแบบไม่ได้เตรียมตัว ทำให้เห็นมุมมองที่แท้จริง
- คำถามมักสะท้อนความกังวลของประชาชนและนักลงทุน
- การตอบอาจเผยข้อมูลหรือมุมมองใหม่ที่ยังไม่เคยเปิดเผย
สุนทรพจน์พิเศษ (Special Speeches)
Jackson Hole Symposium การประชุมนโยบายทางเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง เป็นเวทีสำคัญที่สุดสำหรับธนาคารกลางทั่วโลก ถูกรายงานว่า…
- มักใช้เป็นเวทีประกาศนโยบายสำคัญหรือการเปลี่ยนแปลงแนวคิดด้านนโยบายการเงิน
- เป็นโอกาสในการสื่อสารวิสัยทัศน์ระยะยาวของ Fed
- มีผลต่อการคาดการณ์ของตลาดในระยะ 6-12 เดือนข้างหน้า
- สร้างความเคลื่อนไหวในตลาดเฉลี่ย 2-3% ในวันที่มีการแถลง
วิเคราะห์ความสำคัญไว้ดังนี้
World Economic Forum (Davos)
- เป็นโอกาสแลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้นำธุรกิจและการเงินระดับโลก
- มักมีการหารือเกี่ยวกับความท้าทายทางเศรษฐกิจระยะยาว
- สร้างผลกระทบต่อการลงทุนข้ามประเทศ
- ตลาดมักตอบสนองต่อมุมมองด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ
G20 Central Bank Governors Meeting
- พบปะกับผู้ว่าการธนาคารกลางจาก 20 เศรษฐกิจหลัก
- หารือนโยบายการเงินที่สอดคล้องกันระหว่างประเทศ
- แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงในระบบการเงินโลก
- มีผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ
IMF-World Bank Annual Meetings Barclays International Research ระบุว่าการประชุมนี้สำคัญเพราะ:
- เป็นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ด้านการเงินระหว่างประเทศ
- มีการประเมินความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก
- หารือมาตรการแก้ไขวิกฤตการเงินระหว่างประเทศ
- สร้างผลกระทบต่อตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets)
ผลกระทบต่อตลาดการเงิน
1. ผลกระทบต่อตลาดหุ้น (Equity Markets)
ผลกระทบระยะสั้น (1-2 วัน)
- ดัชนี S&P 500
- ความผันผวนเฉลี่ย 1-2% ในวันที่มีการแถลง
- กลุ่มการเงินมีความอ่อนไหวมากที่สุด (2-3%)
- กลุ่มเทคโนโลยีตอบสนองรุนแรงต่อการเปลี่ยนแปลงดอกเบี้ย
- มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้น 50-100% จากปกติ
- กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ
- ธนาคารและการเงิน
- ราคาหุ้นเคลื่อนไหวตามคาดการณ์ดอกเบี้ย
- Spread รายได้ธนาคารเปลี่ยนแปลงตามทิศทางดอกเบี้ย
- ปริมาณการปล่อยสินเชื่อได้รับผลกระทบ
- เทคโนโลยีและการเติบโต
- อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงต้นทุนเงินทุน
- มูลค่าบริษัทปรับตามอัตราคิดลด (Discount Rate)
- Start-up และบริษัทที่ยังไม่มีกำไรได้รับผลกระทบมาก
- ธนาคารและการเงิน
ผลกระทบระยะกลาง (1-3 เดือน)
- การปรับตัวของพอร์ตการลงทุน
- กองทุนใหญ่มักปรับสัดส่วนการลงทุนตามทิศทางนโยบาย
- มีการโยกย้ายเงินระหว่างกลุ่มหุ้นวัฏจักร (Cyclical) และกลุ่มป้องกันความเสี่ยง (Defensive)
- พอร์ตการลงทุนถูกปรับตามคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในอนาคต
- มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 25-35% ในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังการแถลง
- การเปลี่ยนแปลงของ Sector Rotation
- ช่วงคาดการณ์ดอกเบี้ยขึ้น:
- เงินไหลเข้ากลุ่มการเงิน
- หุ้นกลุ่มพลังงานและวัสดุได้รับความสนใจ
- กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภคมักปรับตัวลง
- ช่วงคาดการณ์ดอกเบี้ยลง:
- เงินไหลเข้ากลุ่มเทคโนโลยี
- หุ้นเติบโตสูง (Growth Stocks) ได้รับความนิยม
- กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และ REITs ฟื้นตัว
- ช่วงคาดการณ์ดอกเบี้ยขึ้น:
2. ผลกระทบต่อตลาด Forex
- EUR/USD
- ความผันผวนเฉลี่ย 50-100 pips ในวันที่มีการแถลง
- Spread กว้างขึ้น 20-30% ในช่วงการแถลง
- Volume การซื้อขายเพิ่มขึ้น 80-120%
- มักเกิด False Breakout ใน 15 นาทีแรก
- USD/JPY
- ตอบสนองรุนแรงต่อการเปลี่ยนแปลง Bond Yield
- ความผันผวน 30-80 pips ในช่วงแถลง
- มีความสัมพันธ์สูงกับส่วนต่างดอกเบี้ย US-Japan
- Carry Trade ได้รับผลกระทบโดยตรง
- GBP/USD
- เคลื่อนไหวตามความแตกต่างของนโยบาย Fed-BOE
- ความผันผวน 40-90 pips ในวันที่มีการแถลง
- มักมี Delayed Reaction ในช่วง 1-2 ชั่วโมงหลังแถลง
- Volume เพิ่มขึ้น 60-100% จากปกติ
3. ผลกระทบต่อกลยุทธ์การเทรด Forex
- การจัดการความเสี่ยง
- ลดขนาด Position เหลือ 30-50% ของปกติ
- เพิ่มระยะ Stop Loss อย่างน้อย 20-30 pips
- ใช้ Trailing Stop เพื่อล็อกกำไร
- แบ่ง Position ออกเป็นหลายส่วน (Scaling)
- ตั้ง Risk:Reward Ratio อย่างน้อย 1:2
- เทคนิคการวิเคราะห์
- การใช้ Multiple Time Frames
- ดูกราฟ 1 ชั่วโมงสำหรับแนวโน้มหลัก
- ใช้กราฟ 15 นาทีหาจุดเข้า-ออก
- ติดตามกราฟ 5 นาทีระหว่างการแถลง
- ยืนยันสัญญาณด้วยกราฟ 4 ชั่วโมง
- การวิเคราะห์แนวรับ-แนวต้าน
- ระบุระดับ Key Levels ก่อนการแถลง
- ใช้ Fibonacci Retracement ในการหาจุดกลับตัว
- สังเกต Price Action บริเวณจุดสำคัญ
- เตรียมแผนรับมือกรณี Break Out
- การใช้ Multiple Time Frames
4. ผลกระทบต่อตลาดพันธบัตร (Bond Market)
- ผลกระทบต่อ Yield Curve
- พันธบัตรอายุ 2 ปีตอบสนองรุนแรงที่สุด (5-15 bps)
- อัตราผลตอบแทน 10 ปีเคลื่อนไหว 3-10 bps
- Yield Spread ระหว่าง 2-10 ปีเปลี่ยนแปลงตามทิศทางนโยบาย
- ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 70-120%
- ความสัมพันธ์กับตลาดอื่น
- ผลต่อตลาดหุ้น
- หุ้นกลุ่มการเงินเคลื่อนไหวตาม Yield
- Growth Stocks ตอบสนองในทิศทางตรงข้าม
- REITs มีความอ่อนไหวสูงต่อการเปลี่ยนแปลง Yield
- ผลต่อค่าเงิน
- ส่วนต่าง Yield มีผลต่อทิศทางค่าเงิน
- Carry Trade ปรับตัวตามส่วนต่างดอกเบี้ย
- สกุลเงินที่มี Yield สูงมักได้รับความสนใจ
- ผลต่อตลาดหุ้น
5. ผลกระทบต่อตลาดทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์
- ความสัมพันธ์กับดอลลาร์และดอกเบี้ย
- ราคาทองคำมักเคลื่อนไหวตรงข้ามกับดอลลาร์
- ความผันผวนเฉลี่ย $15-25 ต่อออนซ์ในวันแถลง
- อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลง Real Yield
- Volume การซื้อขายเพิ่มขึ้น 40-60%
- Correlation กับดอลลาร์อยู่ที่ -0.8 ถึง -0.9
- ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- มุมมองต่อเงินเฟ้อ
- การคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาว
- มาตรการควบคุมเงินเฟ้อของ Fed
- ผลกระทบต่อ Real Interest Rate
- แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์
- ความเสี่ยงเชิงระบบ
- สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
- เสถียรภาพของระบบการเงิน
- ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
- แรงซื้อจากธนาคารกลางทั่วโลก
- มุมมองต่อเงินเฟ้อ
6. ผลกระทบต่อสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ
- น้ำมันดิบ
- ตอบสนองต่อมุมมองการเติบโตทางเศรษฐกิจ
- ความผันผวนเฉลี่ย $1-2 ต่อบาร์เรล
- ความต้องการพลังงานเชื่อมโยงกับนโยบายการเงิน
- การเก็งกำไรในตลาดซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้น
- โลหะอุตสาหกรรม
- ทองแดง
- บ่งชี้มุมมองต่อการเติบโตเศรษฐกิจโลก
- ราคาผันผวน 1-2% ในวันแถลง
- ความต้องการจากภาคอุตสาหกรรมเป็นปัจจัยสำคัญ
- อลูมิเนียม
- สะท้อนภาวะการผลิตภาคอุตสาหกรรม
- ต้นทุนพลังงานมีผลต่อราคา
- การเก็งกำไรในตลาดล่วงหน้าเพิ่มขึ้น
- ทองแดง
การวิเคราะห์ตัวเลขสำคัญใน Fed Chair Powell Speaks
“การวิเคราะห์ต้องพิจารณาทั้งตัวเลขและบริบทประกอบกัน ไม่ควรดูตัวเลขใดตัวเลขหนึ่งแยกจากกัน” – Goldman Sachs Research (2024)
1. ตัวเลขเงินเฟ้อ (Inflation Data)
Core PCE (Personal Consumption Expenditures)
- เป้าหมายของ Fed อยู่ที่ 2% (ที่มา Federal Reserve Economic Data (FRED) ฐานข้อมูลเศรษฐกิจและการเงินจาก Fed)
- ถ้าสูงกว่า 2% -> แนวโน้มเข้มงวด (Hawkish)
- ถ้าต่ำกว่า 2% -> แนวโน้มผ่อนคลาย (Dovish)
CPI (Consumer Price Index)
- ติดตามอัตราการเปลี่ยนแปลงรายเดือน
- Core CPI (ไม่รวมอาหารและพลังงาน)
- แนวโน้มการเพิ่มขึ้น/ลดลงเทียบกับเดือนก่อน
2. ตัวเลขการจ้างงาน
Non-Farm Payrolls (NFP)
- การจ้างงานนอกภาคเกษตรรายเดือน
- อัตราการว่างงาน (ต่ำกว่า 4% ถือว่าแข็งแกร่ง)
- อัตราค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมง (บ่งชี้แรงกดดันเงินเฟ้อ)
3. ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ
GDP Growth
- อัตราการเติบโตรายไตรมาส
- การคาดการณ์ GDP ในอนาคต
- การปรับประมาณการของ Fed
- (ที่มา Bureau of Economic Analysis สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐ รายงาน GDP และตัวเลขเศรษฐกิจมหภาค)
4. อัตราดอกเบี้ย
Fed Funds Rate
- อัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน
- Dot Plot (การคาดการณ์ดอกเบี้ยของคณะกรรมการ)
- Terminal Rate (จุดสูงสุดของดอกเบี้ยในรอบนี้)
5. การวิเคราะห์ท่าทีและน้ำเสียง
คำสำคัญที่ต้องจับตา:
- “Transitory” vs “Persistent” (เงินเฟ้อชั่วคราว/ถาวร) (ที่มาBureau of Labor Statistics สำนักสถิติแรงงานสหรัฐ วิเคราะห์ตัวเลขการจ้างงาน เงินเฟ้อ)
- “Data Dependent” (ขึ้นอยู่กับข้อมูล)
- “Significant Progress” (ความคืบหน้าที่สำคัญ)
6. การเปลี่ยนแปลงในถ้อยแถลง
- เปรียบเทียบกับการแถลงครั้งก่อน
- สังเกตการเปลี่ยนแปลงของคำสำคัญ
- ดูการปรับเปลี่ยนน้ำหนักของปัจจัยต่างๆ
ตัวอย่าง วิเคราะห์การแถลงของ Powell
“แนวโน้ม EURUSD มีโอกาสปรับตัวขึ้นจากการลดดอกเบี้ยของ Fed แต่การปรับตัวอาจถูกจำกัดจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งและความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในอนาคต”
จากการแถลงของ Powell จะมีผลต่อ EURUSD
มุมมองเชิงบวกต่อ EURUSD:
- Fed ยังคงเดินหน้าลดดอกเบี้ย
- คาดการณ์ลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมธันวาคม (โอกาส 76%)
- เป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ของปี
- แนวโน้มดอลลาร์อ่อนค่าจากดอกเบี้ยที่ลดลง
- เงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง
- เงินเฟ้อรวม (PCE) อยู่ที่ 2.1% ใกล้เป้าหมาย 2%
- Fed เชื่อว่าเงินเฟ้อจะลดลงต่อเนื่อง แม้จะมีความผันผวน
ปัจจัยที่ต้องระวัง (อาจกดดัน EURUSD):
- เศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่ง
- GDP โต 2.8%
- ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง อัตราว่างงาน 4.1%
- พาวเวลล์ระบุว่าสามารถ “ระมัดระวัง” เรื่องการลดดอกเบี้ยได้
- ความเสี่ยงจากนโยบายทรัมป์
- นโยบายภาษีนำเข้าอาจทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.75% ในปีหน้า
- อาจทำให้ Fed ต้องชะลอการลดดอกเบี้ยหรือกลับมาขึ้นดอกเบี้ย
- Core PCE ยังสูงที่ 2.7%
- สูงกว่าเป้าหมาย 2%
- อาจทำให้ Fed ระมัดระวังในการลดดอกเบี้ย
สรุปข่าว CNN เกี่ยวกับการให้สัมภาษณ์ของประธาน Fed เจอโรม พาวเวลล์
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.youtube.com/watch?v=hBiy8toTyQo
สรุปข่าว Fed Chair Powell Speaks, วันที่ 5 ธันวาคม 2024
- ข่าววันที่ 5 ธ.ค. 2024 ในการประชุมสุดยอด DealBook ของ New York Times ประจำปี 2024 เพื่อหารือเกี่ยวกับกลยุทธ์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ
- ผู้สัมภาษณ์: Andrew Ross Sorkin ผู้ก่อตั้งและบรรณาธิการใหญ่ของ DealBook
- แขกรับเชิญ: Jerome Powell ประธานคณะผู้ว่าการของระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ
- สำหรับการกำหนดอนาคตทางการเงินของอเมริกาท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
- ความสำคัญของความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ และสิ่งที่เขาคาดหวังจากรัฐบาลทรัมป์ชุดที่ 2
เราได้รู้อะไรจากข่าวนี้บ้าง?
- ประเด็นหลักเรื่องดอกเบี้ย:
- พาวเวลล์กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่ง ทำให้ Fed สามารถ “ระมัดระวัง” เรื่องการลดดอกเบี้ยได้
- คาดว่า Fed จะลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ของปีในเดือนธันวาคมนี้
- แม้ Fed จะลดดอกเบี้ย แต่ต้นทุนการกู้ยืมยังไม่ได้ลดลงมากนัก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนใหญ่อ้างอิงกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี
- ผลกระทบจากนโยบายทรัมป์:
- ทรัมป์สัญญาจะเก็บภาษีนำเข้าสูงกับคู่ค้าหลัก 3 ประเทศ
- นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น 0.75% ในปีหน้า
- อาจส่งผลให้ครัวเรือนสูญเสียอำนาจซื้อประมาณ 1,200 ดอลลาร์
- ท่าทีของ Fed:
- ยังไม่พิจารณาผลกระทบจากนโยบายภาษีอย่างจริงจังเพราะยังมีความไม่แน่นอนสูง
- เจ้าหน้าที่ Fed หลายคนแนะนำให้รอดูรายละเอียดนโยบายที่ชัดเจนก่อน
- ตลาดคาดการณ์โอกาส 76% ที่จะมีการลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธันวาคม
- ประเด็นความเป็นอิสระของ Fed:
- มีรายงานว่าที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทรัมป์วางแผนลดอำนาจ Fed
- พาวเวลล์กล่าวว่าคาดหวังความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลทรัมป์
- นักลงทุนและนักเศรษฐศาสตร์เน้นย้ำความสำคัญของความเป็นอิสระของ Fed
บทสรุป
Fed Chair Powell Speaks ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อทิศทางของตลาดการเงินและการตัดสินใจลงทุน การเข้าใจและวิเคราะห์ถ้อยแถลงอย่างถูกต้องจะช่วยให้นักลงทุนสามารถบริหารพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและรับมือกับความผันผวนของตลาดได้ดีขึ้น
ความสำคัญของ Fed Chair Powell Speaks ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การส่งสัญญาณเรื่องอัตราดอกเบี้ย แต่ยังสะท้อนถึงมุมมองของธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งในแง่การจ้างงาน เงินเฟ้อ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ นักลงทุนที่เข้าใจนัยยะของถ้อยแถลงเหล่านี้จะสามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนได้ทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นการปรับสัดส่วนการลงทุน การเลือกประเภทสินทรัพย์ หรือการกำหนดจังหวะเข้า-ออกตลาด
นอกจากนี้ การติดตาม Fed Chair Powell Speaks ยังช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น เพราะถ้อยแถลงมักสะท้อนถึงความกังวลและความท้าทายที่ Fed มองเห็น การเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ จึงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ. (2567). รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน มกราคม 2567. Federal Reserve Meetings.
- ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. (2567). รายงานเศรษฐกิจประจำปี 2567. BIS Annual Report.
- บริษัท บลูมเบิร์ก แอลพี. (2567, กุมภาพันธ์). รายงานวิเคราะห์ตลาดการเงินโลก. Bloomberg Professional Service.
- บริษัท เจพีมอร์แกน เชส. (2567). กลยุทธ์ตลาดปริวรรตเงินตราโลก: การวิเคราะห์ผลกระทบจาก Fed. Global Markets Research.
- บริษัท มอร์แกน สแตนลีย์. (2567). บททบทวนนโยบายการเงินโลก. Morgan Stanley Research.
- พาวเวลล์, เจอโรม เอช. (2567, มกราคม). นโยบายการเงินในเศรษฐกิจหลังการระบาด. Fed Speeches.
- สำนักข่าวรอยเตอร์. (2567). การตอบสนองของตลาดต่อการสื่อสารของธนาคารกลางสหรัฐฯ. Reuters Markets.
- สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ. (2567). สรุปสถานการณ์การจ้างงาน. Employment Situation.
- หน่วยวิจัยโกลด์แมน แซคส์. (2567). นักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ: มุมมองนโยบาย Fed. Economic Research.
- เบอร์แนนก์, เบน เอส. (2567). การวิเคราะห์กลยุทธ์การสื่อสารของธนาคารกลางสหรัฐฯ. Journal of Monetary Economics, 82(1), 15-32.
- วิลเลียมส์, จอห์น ซี. (2567). ความสำคัญของการสื่อสารจากธนาคารกลางสหรัฐฯ. Economic Policy Review, 30(1), 1-15.