โบนัสเงิน Forex คืออะไร?

  • โบนัสเงินฝาก Forex คือ “เงินเสริม” ที่โบรกเกอร์ให้เพิ่มจากยอดฝากจริง เพื่อใช้เป็นเครดิตในการเปิดออร์เดอร์
  • ตัวโบนัสจะถูกเพิ่มเข้าพอร์ตทันทีหลังฝากเงิน (ถ้าร่วมโปรโมชั่น) เช่น ฝาก $100 แล้วได้โบนัส 50% จะมีเครดิตในบัญชีรวม $150
  • โบนัสใช้เทรดได้เหมือนเงินจริง แต่มีเงื่อนไขว่า จะถอนได้ก็ต่อเมื่อเทรดครบจำนวน Lot ที่โบรกกำหนด
  • ถ้าเทรดไม่ครบ โบรกเกอร์ อาจดึงโบนัสคืนตอนถอน หรือแม้แต่ไม่ให้ถอนกำไรเลย

โบนัสไม่ได้แจกเพราะใจดี แต่เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของโบรกเพื่อดึงดูดคนให้ “ฝากและเทรดมากขึ้น” ถ้าเข้าใจตรงนี้ จะไม่หลงกลโบนัสใหญ่ที่แลกกับความเสี่ยงสูง

ตัวอย่างที่ 1

  • ฝาก $200 ได้โบนัส 100% รวมเป็น $400
  • โบรกตั้งเงื่อนไขต้องเทรดให้ครบ 40 Lot ภายใน 30 วัน
  • เทรดเดอร์ที่เทรดแค่วันละ 0.1 Lot จะไม่มีทางทำเทิร์นทัน
  • สุดท้ายแม้กำไร $50 ก็ ถูกปฏิเสธการถอน เพราะไม่ครบเทิร์น

ตัวอย่างที่ 2

  • เทรดเดอร์อีกคน ฝาก $300 ได้โบนัส 30% รวมเป็น $390
  • เทรดวันละ 1 Lot ตามระบบอยู่แล้ว ไม่ต้องเร่ง
  • เดือนเดียวเทิร์นครบ ถอนกำไรได้ และโบนัสกลายเป็นกันชนเวลาผิดทาง

ภาพอธิบายถึง โบนัสเงินฝากแบบเข้าใจง่าย แน่นอนว่ามันสามารถที่จะเพิ่มอำนาจในการซื้อขาย ออก Lot ใหญ่ ๆ ได้ แต่ก็จะต้อง มีการ Money Management พอร์ตด้วย ไม่อย่างงั้นพังแน่ ๆ

ประเภทของโบนัสเงินฝากในตลาด Forex

โบนัสต้อนรับ (Welcome Bonus)

  • เป็นโบนัสที่ให้ “ไม่ต้องฝากเงิน” ก็รับเครดิตมาเทรดได้ เช่น ให้ $30 หรือ $50 แค่สมัครบัญชีและ ยืนยันตัวตน KYC
  • เหมาะกับมือใหม่ที่อยากลองระบบจริง โดยไม่ต้องเสี่ยงเงินตัวเอง
  • มักมีเงื่อนไขค่อนข้างเข้ม เช่น เทรดครบเทิร์นแล้วจึงถอนได้เฉพาะ “กำไร” ไม่สามารถถอนโบนัส
  • บางโบรกอาจให้ทดลองระบบเฉย ๆ แล้วถอนอะไรไม่ได้เลย

ตัวอย่าง

  • โบรก A แจก Welcome Bonus $50
  • ต้องเทรดให้ครบ 10 Lot ภายใน 30 วัน ถึงจะถอนกำไรได้
  • ถ้าเทรดได้ $20 แต่ไม่ครบ Lot โบรกจะล้างพอร์ตตอนหมดเวลา

โบนัสฝากครั้งแรก (First Deposit Bonus)

  • ให้เมื่อฝากครั้งแรก เช่น โบนัส 100% หมายถึงฝากเท่าไหร่ ได้เครดิตเพิ่มเท่านั้น
  • เป็นประเภทที่ “ล่อแรง” มากที่สุด เพราะตัวเลขเยอะ แต่เทิร์นมักสูงตาม
  • หากเทรดเกินตัวเพื่อรีบทำเทิร์น อาจทำให้พอร์ตพังเร็ว

ตัวอย่าง

  • ฝาก $500 ได้โบนัสอีก $500 รวมเป็น $1,000
  • เงื่อนไขคือเทรด 50 Lot ใน 60 วัน
  • ถ้าเทรดแผนเล็ก ๆ วันละ 0.2 Lot จะไม่ทัน ต้องเร่ง และเสี่ยง overtrade

โบนัสเติมเงิน 

  • มอบให้เวลาฝากครั้งที่ 2 ขึ้นไป เช่น โบนัส 30% ของยอดเติม
  • มักจัดเป็นช่วง ๆ เช่น “โปรโบนัสวันพุธ” หรือช่วงสิ้นเดือน
  • เทิร์นโอเวอร์มักเบากว่า โบนัสฝาก แรก และไม่ล็อคพอร์ตเท่ากัน

ตัวอย่าง

  • เติม $200 ได้เพิ่มอีก $60
  • ต้องเทรดเพียง 10 Lot ถึงจะถอนโบนัสและกำไรได้
  • เหมาะกับคนที่มีแผนเทรดชัดเจนอยู่แล้ว เติมเงินแค่ตอนจำเป็น

ภาพอธิบายถึงโบนัสไม่ต้องฝากเงิน กับ โบนัส Welcome ซึ่งบางโบรกเกอร์ก็จะใช้คำใกล้ ๆ กัน โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ ต้องเป็นเทรดเดอร์หน้าใหม่ ไม่เคยสมัครกับโบรกเกอร์นี้มาก่อน ที่สำคัญ มีเงื่อนไขในการเทรดด้วยต้องอ่านข้อกำหนดให้ชัดเจนก่อนถอน หรือ ก่อนรับโบนัส

โบนัสเทรดตาม Lot 

  • ไม่ได้แจกก่อน แต่คืนเงินให้ภายหลังแบบ “เงินคืนจากการเทรด”
  • เช่น เทรดครบ 1 Lot ได้คืน $2 เข้าพอร์ตเป็นเงินจริง
  • เหมาะกับคนเทรดบ่อย เทรดใหญ่ เพราะช่วยลดต้นทุนสะสม

ตัวอย่าง

  • เทรดเดอร์ A เปิด 20 Lot ต่อเดือน ได้คืน $40
  • เหมือนลดค่า Spread หรือ Commission ลง
  • ไม่มีเงื่อนไขเรื่องเทิร์น ไม่ล็อคพอร์ต ถอนกำไรได้ตลอด

“โบนัสประเภท Rebate ถือว่าโปร่งใสและคุ้มค่ากับเทรดเดอร์ที่มีวินัย และไม่ต้องเปลี่ยนแผนการเทรดเพื่อเอาโบนัสเลย”

โบนัสเงินฝากแบบไหน “มีประโยชน์” กับเทรดเดอร์จริง

    • เป็นโบนัสที่ “ไม่บังคับให้เสี่ยงเกินแผน” เทรดเดอร์ยังคงใช้ระบบเดิมได้เต็มที่
    • โบนัสที่ถอนได้แม้ไม่เทิร์นครบ เช่น กำไรถอนได้ แต่โบรกดึงโบนัสคืนเฉย ๆ ไม่กระทบเงินจริง
    • ใช้เป็น กันชนพอร์ต ได้ เช่น เจอกราฟผิดทาง ก็ยังมีทุนจากโบนัสช่วยประคอง
      • เจอในโบรกที่ใส่ใจคุณภาพลูกค้า ไม่เน้นล่อด้วยโบนัสเวอร์ แต่ให้เงื่อนไขจริงใจ
  • โบนัสประเภท Rebate หรือ Cashback ยิ่งเทรดยิ่งได้เงินคืน ไม่มีความกดดันเรื่องเทิร์นเลย

ตัวอย่างเคสจริง

      • ฝาก 1,000 USD ได้โบนัส 30% เพิ่มมาอีก $300 รวมทุนเทรด $1,300
      • วางแผนเทรดวันละ 3 ไม้ ไม้ละ 0.3 Lot ไม่ต้องเร่งเทิร์น
      • พอครบเดือน เทิร์นเกินโดยอัตโนมัติ ถอนกำไรได้ปกติ แม้โบรกจะดึงโบนัสออก
      • แผนเทรดยังปลอดภัย และไม่หลุดจากระบบที่ใช้ประจำ
  • เทรดเดอร์สายระยะยาว (Swing)
      • ฝาก $2,000 ได้โบนัส 20% รวม $2,400
      • เปิดไม้ใหญ่ถือข้ามสัปดาห์ โดยไม่ต้องเพิ่มความเสี่ยง
      • พอ Drawdown เกิดระหว่างข่าวแรง มีเครดิตช่วยพอร์ตไม่ล้าง
      • สุดท้ายไม่ต้องเทรดเพิ่ม ก็ยังถอนกำไรได้บางส่วนตามเงื่อนไข
  • เทรดเดอร์ที่ใช้ ระบบ EA ประจำ
    • โบรกให้ Rebate 1.5 USD ต่อ 1 Lot
    • เทรดด้วย EA เดือนละ 100 Lot ได้คืน $150 โดยไม่มีเงื่อนไขเพิ่มเติม
    • ไม่มีความเครียดเรื่องเทิร์น เทรดแบบเดิมได้เต็มที่ กำไรเพิ่มแบบเงียบ ๆ

ภาพอธิบายถึงการมีโบนัสเงินฝากแบบมีประโยชน์ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไรได้ในเชิงบวก ที่สำคัญยังช่วยค้ำจุนเวลาคุณเทรดผิดทางด้วย และที่จะขาดไม่ได้เลยคือความไม่กดดันกับ โบนัส Rebate

โบนัสเงินฝากแบบไหน “ไม่มีประโยชน์” หรือหลอกให้เทรด

  • เป็นโบนัสที่ตั้งใจ “ล็อคพอร์ต” ตั้งแต่แรก ถอนเงินต้นก็ไม่ได้ ถอนกำไรก็ไม่ได้ถ้าไม่เทิร์นให้ครบ
  • เงื่อนไขทำเทิร์นแบบ “เวอร์เกินจริง” เช่น เทรด 60 Lot ภายใน 30 วัน ทั้งที่มือใหม่บางคนยังไม่เคยเทรด 1 Lot ด้วยซ้ำ
  • โบรกมักใช้ข้ออ้างอย่าง “ผิดเงื่อนไขเล็กน้อย” เพื่อปฏิเสธการถอน เช่น เทรดเร็วเกินไป ถือออเดอร์ไม่ถึงจำนวนนาทีที่กำหนด หรือ EA ไม่ได้รับอนุญาต
  • บางเคสมี “ล่อให้ฝากเพิ่ม” พอเทรดใกล้ครบเทิร์น ก็บอกให้ฝากอีกเพื่อรับโบนัสเพิ่ม เทิร์นก็ขยับตาม วนไปแบบนี้ไม่รู้จบ

ตัวอย่างเคสจริง

  • เทรดเดอร์มือใหม่ฝาก $500 ได้โบนัส 100%
    • รวมพอร์ต $1,000 แต่เทรดด้วยขนาดไม้ 0.1 Lot
    • เงื่อนไขคือเทรดให้ครบ 50 Lot ภายใน 14 วัน
    • พอเทรดไม่ทัน โบรกดึงโบนัสคืน และไม่ให้ถอนกำไร $80 ที่ทำได้ เพราะ “ไม่ครบเทิร์น”
  • เทรดเดอร์โดนล็อคพอร์ต
    • ฝาก $300 ได้โบนัส 100% แต่ตอนถอน โบรกแจ้งว่าต้อง “ห้ามถอนเงินต้นก่อนเทิร์นครบ”
    • เทรดได้กำไรแล้วจะถอนแค่ $150 ก็ไม่ได้ เพราะโดนระบบบล็อก
    • โบรกบอกให้เทรนให้ครบก่อน แต่เทิร์น 30 Lot เทรดยังไงก็ไม่ทัน
  • โบรกเกอร์ใช้เงื่อนไขละเอียดเกินรับได้
    • โบนัสบังคับให้ “ถือออร์เดอร์ไม่น้อยกว่า 5 นาที”
    • เทรดเดอร์ที่เน้นเทรดเร็ว สเกลป 1-2 นาทีต่อไม้ พอโดนตรวจเจอว่า “ทำผิดเงื่อนไข” ก็ถูกยกเลิกโบนัสและยึดกำไร
    • ทั้งที่เทรดมาหลายวัน กำไรก็เกิดจากฝีมือจริงทั้งหมด
  • โบนัสที่ดีจะ “ช่วยเสริม” แผนการเทรด ไม่ใช่ “บังคับให้เปลี่ยนแผน”
  • ถ้าโบนัสทำให้ต้อง Overtrade, เสี่ยงมากขึ้น, เครียดกับเทิร์น  แบบนั้นควรเลี่ยง
  • ให้คิดเสมอว่า โบนัสคือ “ของแถม” ไม่ใช่ “ตัวหลัก” ของกลยุทธ์
  • เงินที่ถอนได้จริง ควบคุมได้จริง มีค่ากว่าโบนัสที่ล่อด้วยจำนวนเยอะ แต่ไม่มีทางถอนออก

ภาพอธิบายถึงการมีโบนัสเงินฝากแบบไม่มีประโยชน์ แน่นอนเลยว่ามันทำทุกทางให้ถอนเงินยาก เงื่อนไขทำยากเกินไปกว่าคนธรรมดาจะเทรดได้

วิธีสังเกตว่าโบนัสไหนคุ้ม หรือควรเลี่ยง

  • อ่านเงื่อนไขเทิร์นโอเวอร์ ให้ครบทุกบรรทัด เช่น ต้องเทรดกี่ Lot ภายในกี่วัน
  • ตรวจสอบว่า “ถอนได้ไหม” ถ้ายังไม่ครบเทิร์น เช่น ถอนกำไรได้ไหม หรือจะโดนตัดหมด
  • ลองสอบถามทีม Support ว่า “ถ้ารับโบนัสแล้วเทรดผิด 1 จุด จะเป็นอะไรไหม?” ดูความโปร่งใสของโบรก
  • เปรียบเทียบว่าโบนัส “ส่งเสริมแผนเทรด” หรือบังคับให้ “เพิ่มความเสี่ยง”
  • โบนัสที่ดี ควรใช้เสริมทุน ไม่ใช่ดึงให้เสี่ยงหรือเทรดแบบผิดวิธี

ตัวอย่าง

  1. เทรดเดอร์คนหนึ่งใช้โบนัส 20% จากยอดฝาก $1,000 รวมเป็น $1,200 เทรดตามระบบเดิมโดยไม่ต้องเร่ง กำไร $150 ถอนออกได้ปกติ แม้โบนัสถูกหักออก
  2. อีกคนรับโบนัส 100% จากโบรก B ฝาก $500 รวม $1,000 แต่ถูกล็อคพอร์ต ถอนอะไรไม่ได้ จนหมดใจกับโบรก
  3. เทรดเดอร์มือใหม่เจอโบรกที่ไม่โปร่งใส พอโทรถามเรื่องถอนโบนัส Support ตอบไม่ตรง เลยตัดสินใจไม่รับ เพราะรู้สึกไม่มั่นใจตั้งแต่แรก

ข้อดี/ข้อเสียของการใช้โบนัสในการเทรด

ข้อดี

  • ช่วยเพิ่มทุนให้เทรดได้มากขึ้น โดยไม่ต้องเติมเงินจริง
  • ใช้เป็น กันชน Margin เวลาพลาดหรือเทรดผิดทาง
  • ถ้าเทรดตามแผนเดิมและมีวินัย เทิร์นมักครบเองโดยไม่รู้ตัว
  • เหมาะกับเทรดเดอร์สายวินัยสูง หรือระบบที่เทรดได้จำนวน Lot เยอะต่อเดือน

ตัวอย่าง

  • เทรดเดอร์ระบบ EA รันเดือนละ 50 Lot ได้โบนัสจากยอดฝากเพิ่มขึ้น 30% ใช้เทรดต่อโดยไม่มีความเสี่ยงเพิ่ม
  • คนที่เทรดแบบ Swing เปิดไม้ขนาดใหญ่แต่ไม่ Overtrade ได้โบนัสช่วยรับ Margin เพิ่ม ทำให้รอดจากจุดเสี่ยง

ข้อเสีย

  • โบรกบางแห่งใช้โบนัสเป็น “กับดัก” เช่น ทำให้ดูน่าสนใจ แต่มีเงื่อนไขถอนที่แทบเป็นไปไม่ได้
  • เงื่อนไขมักซับซ้อน และหากเทรดผิดแม้เพียงนิดเดียว (ปิดไม้เร็วเกิน ใช้ EA ไม่ได้แจ้ง) ก็โดนตัดสิทธิ์
  • เทรดเดอร์บางคนหลงกลจำนวนโบนัสใหญ่ แล้วเผลอ Overtrade โดยไม่รู้ตัว จนพอร์ตเสียหาย

ตัวอย่าง

  • เทรดเดอร์รายหนึ่งฝาก $1,000 ได้โบนัส $1,000 รวมเป็น $2,000 เทรดแบบไม่เคยวางแผนมาก่อน พอโดนลากพอร์ตเสียหายจนหมด
  • อีกคนติดเทิร์นโอเวอร์สูงมาก ต้องเทรดวันละ 2 Lot ทั้งที่แผนเดิมเคยเทรดแค่ 0.3 Lot ต่อวัน สุดท้ายหมดแรง-หมดทุนก่อนครบเทิร์น

เงื่อนไขที่มักซ่อนอยู่ในโบนัสเงินฝาก

  • เทรด Lot ตามที่กำหนด เช่น ฝาก $100 ได้โบนัส 100% ต้องเทรด 20 Lot ภายใน 30 วัน ถึงจะถอนได้
  • บังคับ “ห้ามปิดออร์เดอร์เร็วเกินไป” เช่น ต้องเปิดออร์เดอร์อย่างน้อย 2-5 นาที ไม่งั้นถือว่าผิดเงื่อนไข
  • ถอนเงินก่อน = สละโบนัสทันที บางกรณีถอน $1 ก็โดนลบโบนัส + ยึดกำไร
  • โบนัสบางแบบห้ามใช้ EA หรือระบบ Copy Trade ถ้าระบบตรวจเจอ จะตัดสิทธิ์ทันที

ตัวอย่าง

  1. เทรดเดอร์ใช้ EA แล้วระบบตัดโบนัสทันที แม้ทำกำไรจริง โบรกอ้างว่าผิดเงื่อนไขข้อ 8.3
  2. ฝาก $500 แต่เผลอถอน $50 ตอนยังไม่ครบเทิร์น โดนหักโบนัสทิ้ง + ยึดกำไรที่ทำไว้
  3. เทรดแบบ Scalping ปิดไม้ใน 20 วินาทีตลอด โบรกไม่เตือนล่วงหน้า แต่ตอนถอนบอกว่า “ผิดเงื่อนไขห้ามปิดเร็วกว่า 2 นาที”

เคล็ดลับเลือกโบนัสให้เหมาะกับสไตล์การเทรด

  • สาย Scalping: หลีกเลี่ยงโบนัสที่ห้ามปิดไม้เร็ว หรือมีข้อห้ามเรื่อง EA
  • สาย Swing Trade: เลือกโบนัสที่ให้ Margin เพิ่ม ช่วยให้ถือไม้ใหญ่ได้นานขึ้น
  • สายระบบหรือ EA: เลือกโบรกที่มี Rebate/Cashback กลับมาแบบไม่ผูกกับเทิร์น
  • มือใหม่: เริ่มด้วย โบนัสทดลองแบบไม่ต้องฝากเงิน ก่อน เพื่อฝึกความเข้าใจ ไม่ต้องเสี่ยงทุน
  • เน้นถอนกำไรบ่อย: หลีกเลี่ยงโบนัสที่ “ล็อคพอร์ต” หรือห้ามถอนจนกว่าเทิร์นจะครบ

ตัวอย่าง

  1. เทรดเดอร์สาย Scalping เจอโบรกที่ให้โบนัสแต่ห้ามปิดต่ำกว่า 3 นาที ตัดสินใจไม่รับ เพราะจะทำให้แผนเสีย
  2. เทรดเดอร์ระยะยาวใช้โบนัสเพื่อรับ Drawdown เพิ่ม ถือไม้ข้ามคืนแบบมั่นใจมากขึ้น
  3. มือใหม่รับโบนัสทดลอง $30 จากโบรกแห่งหนึ่ง ลองเทรดจนเข้าใจเรื่อง Volume, Margin และ Stop Out ก่อนฝากเงินจริง

ภาพอธิบายถึงการมีโบนัส ก็เหมือนกับการเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไร แน่นอนเลยว่านักเทรดแต่ละสาย ก็ต้องการโบนัสที่ไม่เหมือนกัน

คลิปที่น่าสนใจ

ขอแนะนำคลิปที่น่าสนใจเกี่ยวกับ การแนะนำ โบนัสต้อนรับ30$ สำหรับลูกค้าใหม่ที่[สมัครที่ลิ้งค์ใต้คลิปเท่านั้น] ถอนกำไรได้สูงสุด100$  จากช่อง COUNTRYMANFX

สรุป

  • คำถามที่ควรถามตัวเองก่อนกดรับโบนัส Forex ทั้งแบบไม่ต้องเติมเงิน และ เติมเงิน 
    • โบนัสนี้ช่วยให้เทรดดีขึ้นไหม?
    • ถ้าเทิร์นไม่ครบ จะยังถอนกำไรได้ไหม?
    • โบนัสนี้บังคับให้เปลี่ยนวิธีเทรดไหม?
  • โบนัสที่ดี  ทำให้มีอิสระในการเทรดมากขึ้น
  • โบนัสที่หลอกลวง  ทำให้ต้องเทรดเสี่ยงขึ้น ลุ้นจนเกินแผน
  • ถ้าโบนัสทำให้กลยุทธ์พัง ไม่ควรรับแม้ได้เพิ่มเป็นเท่าตัว

อ้างอิง

FAQ — โบนัสเงิน Forex ฝากแบบไหนมีประโยชน์ แบบไหนไม่มีประโยชน์ สังเกตยังไง

โบนัสไม่ต้องฝาก ดีเพราะอันตรายน้อยกว่าในแง่ของเงินทุน ไม่ต้องฝากก็ได้เงินมาเทรดเลย แถมถ้าทำได้ตามเงื่อนไขก็สามารถถอนกำไรทั้งหมดได้ด้วย ความเสี่ยงเลยเท่ากับศูนย์ เหมาะมากที่จะใช้ลองระบบของโบรกเกอร์ แต่เงื่อนไขการถอนกำไรจากโบนัสประเภทนี้จะเข้มงวดมากๆ และจะรับได้แค่ครั้งเดียวสำหรับลูกค้าใหม่ ส่วนโบนัสเงินฝากจะอันตรายกว่าถ้าคุณโลภ เพราะมันผูกกับเงินจริงตรงๆ ถ้าเทรดผิดแผนเพราะแค่อยากทำเทิร์น ความเสี่ยงก็มากกว่าแน่นอน
ถ้า worst case เลย คือไม่ใช่แค่การโดนดึงโบนัสคืน แต่มันคือการถอนอะไรไม่ได้เลยแม้แต่บาทเดียว โบรกเกอร์บางเจ้าจะใช้เงื่อนไขนี้เพื่อล็อคพอร์ต ทั้งเงินต้นที่คุณฝากเข้าไปและกำไรที่คุณทำได้ จะถูกแช่แข็งไว้จนกว่าคุณจะทำเทิร์นครบ ซึ่งในอดีตยังมีโบรกแบบนี้ให้เห็น แต่ตอนนี้ในยุคที่คนระวังตัวมากขึ้นก็ลดน้อยลงไปแล้ว แต่ก็อย่าลืมว่าตลาดโบรกเกอร์ในบ้านเราเป็นแบบ No Barriers to Entry โบรกไหนอยากมาทำการตลาดก็มาได้เลย ต้องระวังตัวไว้มากๆ
เพราะโบรกต้องการคุมความเสี่ยงและป้องกันพวกล่าโบนัส เช่น EA บางตัวถูกออกแบบมาให้เทรดถี่ๆ ให้ครบเทิร์นอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนกำไรขาดทุนจริง หรือบางตัวก็โยกซ้ายขวา เทรดสองฝั่งเพื่อปั่น lot โบรกเลยเลือกที่จะตัดปัญหาที่อาจลุกลาม ด้วยการระบุในเงื่อนไขเลยว่า “ห้ามใช้ EA หรือ Copy Trade กับบัญชีโบนัส” หากระบบตรวจเจอ บัญชีจะถูกตัดสิทธิ์ทันที 
  1. โบนัสนี้ใช้เทรดได้อย่างเดียว หรือถอนออกได้ด้วย?
  2. ถ้าถอนเงินก่อนเทรดครบตามเงื่อนไข จะเกิดอะไรขึ้น?
  3. ต้องเทรดกี่ lots ถึงจะถอนโบนัสได้? มีสูตรคำนวณไหม?
  4. มีเงื่อนไขห้ามอะไรบ้าง?
  5. โบนัสมีวันหมดอายุไหม? ถ้ามี.. ต้องเทรดให้ครบภายในกี่วัน?
  6. ถอนเงินบางส่วนได้ไหม หรือถอนทีเดียวโบนัสหายหมด?
  7. โบนัสนี้มีผลกับการใช้ Leverage หรือ Margin ยังไงบ้าง?
 เนื่องจากเงื่อนไขโบนัสของแต่ละโบรกเกอร์มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยมาก ๆ ก่อนเทรดควรสอบถาม live chat ขอข้อมูลโปรโมชั่นล่าสุดของโบรกนั้นๆก่อนเสมอ ในภาพรวมสามารถดูละเอียดโปรโมชั่นโบนัสของแต่ละโบรกเกอร์ ได้ที่ โบรกเกอร์ Forex โบนัส และโปรโมชั่น ดีที่สุด 2025 

 

เขียนโดย

Pakornkiat Poonsuk

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chatchawal Nakcharoen