เคยไหม? เทรด Forex แล้วขาดทุนจนรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบถล่มลงมาตรงหน้า แล้วคุณเริ่มถามตัวเองว่า ” เทรด forex ขาดทุนแล้วแปลว่าพลาดจริงเหรอ?” หยุดก่อน! ไม่ต้องตัดสินตัวเองแรงขนาดนั้น เพราะในโลกของการเทรด “ขาดทุน” ไม่ได้หมายถึงความล้มเหลวเสมอไป แต่มันคือส่วนหนึ่งของเกมที่ทุกคนต้องเจอ

ทำไมการกำหนดขีดจำกัดการขาดทุนถึงสำคัญ?

รูปที่ 1 สรุปประเด็นสำคัญว่าทำไมการกำหนดขีดจำกัดการขาดทุนถึงสำคัญ

1. การมี “ลิมิตขาดทุน หรือ Stop loss” ที่ชัดเจนคือหัวใจสำคัญ

  • ในโลกของการเทรด Forex ไม่มีใครที่ไม่เคยขาดทุน แต่สิ่งที่แยกเทรดเดอร์ที่ “รอด” กับเทรดเดอร์ที่ “ล้ม” ออกจากกันคือ การกำหนดขีดจำกัดการขาดทุน หรือ SL ที่ชัดเจน 
  • การตั้งลิมิตช่วยป้องกันไม่ให้คุณสูญเสียมากเกินกว่าที่พอร์ตจะรับไหว อีกทั้งยังช่วยควบคุมการเทรดให้อยู่ในกรอบที่ปลอดภัย
  • การตั้งลิมิตขาดทุนไม่ใช่การยอมแพ้ แต่มันคือ “การปกป้องตัวเองจากการเสี่ยงที่ไม่จำเป็น” คล้ายกับการรู้จักหยุดเล่นก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้าย

2. ขับรถโดยไม่มีเบรก สูตรสำเร็จของหายนะ

  • ลองจินตนาการว่าคุณกำลังขับรถลงทางลาดชัน แต่รถคุณไม่มีเบรก! จะเกิดอะไรขึ้น? 
  • แน่นอนว่าคุณจะปล่อยให้รถพุ่งไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดอาจชนเข้ากับอะไรบางอย่างจนเกิดอุบัติเหตุ

3. การเทรดโดยไม่มีลิมิตขาดทุนก็เหมือนกัน

  • ถ้าคุณไม่หยุดตัวเองเมื่อถึงจุดที่ควรหยุด คุณจะเสี่ยง “พอร์ตแตก” ได้อย่างง่ายดาย
  • การขาดทุนที่ควบคุมไม่ได้ไม่เพียงแต่ทำลายเงินในพอร์ต แต่ยังอาจทำลายโอกาสในอนาคตของคุณด้วย

4. ผลกระทบทางจิตวิทยา มากกว่าตัวเลขในพอร์ต

  • การขาดทุนเกินลิมิตไม่ได้กระทบแค่ตัวเลขในบัญชีเท่านั้น แต่ยังส่งผลอย่างรุนแรงต่อสภาพจิตใจ
  • ความรู้สึกผิดหวังและเสียใจ เมื่อขาดทุนมากเกินไป คุณอาจเริ่มโทษตัวเองว่า “ฉันไม่น่าทำแบบนั้นเลย”
  • ความเครียดสะสม ความพยายามเอาทุนคืนอาจนำไปสู่ Overtrade ซึ่งเสี่ยงต่อการขาดทุนมากกว่าเดิม
  • สูญเสียความมั่นใจ: เมื่อขาดทุนจนเกินลิมิตบ่อยครั้ง คุณอาจเริ่มคิดว่าการเทรดไม่เหมาะกับตัวเอง

ดังนั้น การกำหนดลิมิตขาดทุนไม่ใช่แค่เพื่อปกป้องพอร์ต แต่ยังเป็นการปกป้อง จิตใจ และ ความมั่นใจ ของคุณในฐานะเทรดเดอร์อีกด้วย

การคำนวณ % การขาดทุนที่เหมาะสม (Loss Limit หรือ Stop loss)

รูปที่ 2 ขั้นตอนการคำนวนการคำนวณ % การขาดทุนที่เหมาะสม โดยเริ่มจากแนวคิด สูตร และ ตัวอย่างการใช้งาน

1.แนวคิด “ไม่ใช่ทุกวันที่เราต้องกำไร แค่ไม่เสียมากก็พอ!”

  • ในโลกของการเทรด Forex ความจริงข้อหนึ่งที่ทุกคนต้องยอมรับคือ ไม่มีใครกำไรได้ทุกวัน 
  • การขาดทุนเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่สิ่งสำคัญคือเราจะขาดทุน “อย่างฉลาด” อย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบกับพอร์ตในระยะยาว
  • การตั้ง Loss Limit คือการกำหนดเพดานขาดทุนต่อวัน เพื่อให้คุณรู้ว่าเมื่อไหร่ควรหยุดและพัก ก่อนที่ความเสียหายจะลุกลามใหญ่โต 
  • จำไว้ว่า “เทรดน้อยแต่ยั่งยืน ดีกว่าพยายามเอาคืนจนล้มละลาย!”

2. สูตรง่าย ๆ: ขาดทุนไม่เกิน 1-2% ของพอร์ตต่อวัน

  • นักเทรดมืออาชีพหลายคนแนะนำว่า ขีดจำกัดการขาดทุนที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 1-2% ของพอร์ตต่อวัน เพราะเป็นระดับที่ช่วยลดความเสี่ยงในระยะยาว และยังช่วยให้คุณมีโอกาสแก้ตัวในวันถัดไปโดยไม่กระทบต่อเงินทุนมากเกินไป
  • 1% เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยสูง
  • 2% เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้บ้าง แต่ยังควบคุมได้

3. ตัวอย่างสถานการณ์ เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง

  • พอร์ตเริ่มต้น 100,000 บาท
    • หากคุณกำหนด Stop loss ไว้ที่ 1% นั่นหมายความว่า คุณยอมขาดทุนได้ไม่เกิน 1,000 บาทต่อวัน วันไหนที่ขาดทุนถึงลิมิตนี้แล้ว คุณต้องหยุดทันทีและรอวันถัดไป
  • ข้อดีของการตั้งลิมิต ลองจินตนาการว่าคุณเสียวันละ 1% ติดต่อกัน 5 วัน
    • คุณจะเสียไปทั้งหมดเพียง 5,000 บาท หรือแค่ 5% ของพอร์ต
    • แต่ถ้าคุณไม่ตั้งลิมิตและปล่อยให้ขาดทุนวันละ 10% แค่ 5 วันพอร์ตคุณจะหายไปถึงครึ่งหนึ่ง
  • “ล้มละลาย” หรือไม่ อยู่ที่การคุมลิมิต
    • การจำกัดการขาดทุนช่วยให้คุณมีเวลาและโอกาสฟื้นตัว
    • ถ้าคุณตั้งลิมิต 1-2% และปฏิบัติตาม คุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องพอร์ตหมดตัว

ทำไมการขาดทุนเกิน 2% ต่อวันถึงอันตราย?

รูปที่ 3 รูปภาพที่ใช้ประกอบการอธิบายว่าทำไมการขาดทุนเกิน 2% ต่อวันถึงอันตราย

1. ความเสี่ยงของการ Overtrade เมื่อพยายามเอาคืน

  • เมื่อคุณขาดทุนเกินลิมิตที่ตั้งไว้ เช่น 2% ต่อวัน สมองของคุณอาจเริ่มส่งสัญญาณที่เรียกว่า “เอาคืนตอนนี้เดี๋ยวนี้!” นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของ Overtrade
  • คุณจะเริ่มเปิดออเดอร์มากเกินไป โดยไม่ได้คิดถึงความเสี่ยง
  • การวิเคราะห์ที่เคยแม่นยำอาจกลายเป็นการเดาแบบไร้หลักการ
  • ผลลัพธ์คือขาดทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดพอร์ตคุณอาจ “แตก”
  • Overtrade ไม่ได้ทำลายแค่เงินในพอร์ต แต่มันทำลายทั้งความมั่นใจและสภาพจิตใจ ทำให้การเทรดครั้งถัดไปยิ่งแย่ลง

2. ขาดทุนเกินลิมิตเหมือนการเล่นเกมที่ “เติมตังค์ไม่หยุด”

  • ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเล่นเกมมือถือ และแพ้ในด่านยาก ๆ คุณอาจคิดว่า “แค่เติมอีกนิดเดี๋ยวก็ผ่านแล้ว!” แต่พอเติมไปเรื่อย ๆ คุณก็เริ่มเสียเงินเยอะขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว
  • การขาดทุนเกินลิมิตก็เหมือนกัน
  • เมื่อคุณไม่หยุดเมื่อถึงลิมิต คุณจะเริ่ม “เติมเงินในพอร์ต” หรือเสี่ยงมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อหวังเอาคืน
  • ผลลัพธ์ที่ได้มักไม่คุ้มค่า เพราะในระยะยาว คุณอาจหมดทั้งเงินทุนและโอกาสในการฟื้นตัว

3. ลองตั้งคำถาม “เรากำลังเทรดแบบนักลงทุนหรือเล่นพนันกันแน่?”

  • สิ่งสำคัญที่ต้องถามตัวเองคือ “เราเทรดเพราะมีแผนหรือเพราะอารมณ์?”
  • นักลงทุนที่แท้จริงจะมีกลยุทธ์และขีดจำกัดที่ชัดเจน พวกเขายอมรับการขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
  • แต่ถ้าคุณเทรดแบบพยายามเสี่ยงเพื่อเอาคืนโดยไม่มีแผน นั่นคือสัญญาณของการเล่นพนัน

เทคนิคจัดการขาดทุนให้ไม่เกินลิมิตแบบโปร ๆ

1. ใช้ Stop Loss ทุกครั้ง อาวุธลับป้องกันพอร์ต

  • Stop Loss คือหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยป้องกันการขาดทุนเกินลิมิต โดยการตั้งค่าจุดตัดขาดทุนที่เหมาะสม เทรดเดอร์สามารถคุมความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • วิธีตั้ง Stop Loss
    • ตั้งไว้ที่จุดที่คุณยอมรับการขาดทุนได้ เช่น 1-2% ของพอร์ต
    • อย่าตั้ง Stop Loss ใกล้เกินไปจนตลาดสวิงมาชน เพราะจะทำให้คุณเสียโดยไม่จำเป็น
  • ข้อดีของ Stop Loss ทำให้คุณไม่ต้องเฝ้ากราฟตลอดเวลา ลดความเครียดและเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจที่ดีขึ้น

2. อย่า Overtrade: เลี่ยงกับดักมือใหม่

  • การ Overtrade หรือเปิดออเดอร์มากเกินไปในหนึ่งวัน มักเกิดจากอารมณ์อยาก “เอาคืน” หรือความโลภ
  • ตัวอย่างข้อผิดพลาดของมือใหม่:
    • เห็นตลาดผันผวนแล้วรีบเข้าเทรดหลายออเดอร์โดยไม่วางแผน
    • เพิ่มขนาด Lot Size เพื่อหวังกำไรเร็ว แต่สุดท้ายขาดทุนหนักกว่าเดิม
  • วิธีเลี่ยง Overtrade
    • จำกัดจำนวนการเทรดต่อวัน เช่น ไม่เกิน 3-5 ออเดอร์
    • ใช้ Lot Size ที่เหมาะสมกับเงินในพอร์ต

3. วางแผนการเทรดล่วงหน้า: อย่าลุยแบบไร้แผน

  • นักเทรดมืออาชีพทุกคนมี Trading Plan หรือแผนการเทรดที่ชัดเจนก่อนเริ่มต้น
  • สิ่งที่ควรมีในแผนการเทรด
    • เป้าหมายกำไรและขาดทุนที่ตั้งไว้ล่วงหน้า
    • จุดเข้าและจุดออกตามการวิเคราะห์ทางเทคนิค
    • กรอบเวลาที่ชัดเจนว่าจะเข้าเทรดในช่วงใด
  • ข้อดีของการมีกลยุทธ์
    • ลดการตัดสินใจจากอารมณ์
    • เพิ่มโอกาสความสำเร็จในระยะยาว

4. พักใจถ้าขาดทุนถึงลิมิต “หยุดก่อน! วันพรุ่งนี้ค่อยลุยใหม่”

  • เมื่อคุณขาดทุนจนถึงลิมิตที่ตั้งไว้ เช่น 1-2% ต่อวัน สิ่งสำคัญที่สุดคือ หยุดเทรดทันที
  • เหตุผลที่ควรหยุด
    • ลดความเสี่ยงจากการ Overtrade
    • ให้เวลากับตัวเองในการทบทวนกลยุทธ์และข้อผิดพลาด
  • คำแนะนำ
    • ปิดจอ หยุดพัก และทำกิจกรรมอื่นที่ช่วยให้จิตใจสงบ
    • จำไว้ว่า “พรุ่งนี้ยังมีโอกาสใหม่ แต่ถ้าพอร์ตพังวันนี้ คุณอาจหมดโอกาสเทรดในอนาคต”

สรุป 

ในโลกของการเทรด Forex ความสำเร็จไม่ได้หมายถึงการทำกำไรทุกวันหรือการสะสมเงินก้อนโตเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือ การรู้จักคุมขาดทุนให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสม การตั้งลิมิตการขาดทุนและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดไม่เพียงช่วยปกป้องพอร์ต แต่ยังช่วยรักษาสภาพจิตใจและสร้างนิสัยการเทรดที่ยั่งยืนได้อีกด้วย

“ความสำเร็จไม่ได้มาจากกำไรอย่างเดียว แต่มาจากการคุมขาดทุนได้ด้วย”

แหล่งอ้างอิง

 

เขียนโดย

Pakornkiat Poonsuk

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chonthicha Poomidon