เทรดทองคำ (XAU/USD) ต้องเข้าใจพื้นฐาน เลือกโบรกเกอร์ ศึกษากลยุทธ์ ที่สำคัญคือวินัย การควบคุมอารมณ์ และบริหารความเสี่ยง เพื่อการเทรดที่ยั่งยืน

ในบทความนี้มาเรียนรู้การเทรดทอง Forex ในแบบฉบับผู้เริ่มต้น พร้อมเทคนิคตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนเริ่มเทรด, ระหว่างเทรด รวมไปถึงเทคนิคการเอาตัวรอดกับการเทรดทอง Forex เหมาะมากกับเทรดเดอร์มือใหม่ที่ยังขาดประสบการณ์และความรู้ สามารถติดตามได้ในบทความนี้ครับ

เตรียมตัวก่อนเริ่มเทรดทอง Forex

  • ศึกษาเรียนรู้ เข้าใจตลาด Forex ขั้นพื้นฐาน พร้อมทั้งทำความเข้าใจตลาด
    • ปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้ราคาทองคำ ขึ้น หรือ ลง
    • เวลาในการเปิด-ปิด ตลาดทองคำ
    • รู้จัก Price Action / Pirce Pattern ที่ช่วยบอกพฤติกรรมของราคา
  • ทดสอบการเทรดด้วยบัญชีเดโม เพื่อทำความเข้าใจ ศึกษาพฤติกรรมของราคาทองคำ
    • เรียนรู้การใช้คำสั่งต่าง ๆ ก่อนลงสู่สนามจริง
    • ทดสอบกลยุทธ์ เก็บสถิติ วิเคราะห์ปรับปรุง
  • ต้องมีเงินทุน ที่เป็นเงินเย็น แนะนำให้เป็นเงินที่แยกส่วนเอาไว้ลงทุน ไม่กระทบค่าใช้จ่ายประจำเดือน
  • เลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม ทั้งความน่าเชื่อถือ และ การไม่ถูกเอาเปรียบจากโบรกเกอร์
  • ไม่จำเป็นต้องเสียเงินแพง ๆ เพื่อซื้อคอร์สเรียนเทรดทอง หรือ เรียนจากโค้ช (ที่ไม่น่าไว้วางใจ) เพราะปัจจุบัน มีสื่อสอนฟรี พร้อมทั้งเทคนิคให้ใช้งานมากมายครับ
  • การเทรดทอง Forex นอกจากความรู้เกี่ยวกับตลาดแล้ว สิ่งสำคัญมากที่สุดคือ จะต้องมี “จิตวิทยา” ในการเทรด ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก ๆ ครับ

การเริ่มต้นอย่างช้า ๆ แต่มั่นคง มักจะนำไปสู่ความสำเร็จเสมอ เพราะการเทรดจะมีเรื่องของจิตวิทยาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ถ้าเกิดใช้อารมณ์จนเกิดความวู่วามในการเทรด บอกเลยว่าจะทำให้กลายเป็นนักพนันมากกว่า นักลงทุนครับ

รูปที่ 1 แสดงถึงการแบ่งเงินลงทุน ที่ต้องเป็นเงินไม่ได้ใช้จ่ายประจำวัน ห้ามนำเงินรายจ่ายอื่น ๆ มาเทรดเด็ดขาด

เข้าใจการ เทรดทอง กับตลาด Forex

  • Forex คือ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ประกอบไปด้วยการแลกเปลี่ยนคู่สกุลเงินต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น
    • EUR/USD (สกุลเงินยูโร / สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ)
      • เมื่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจของเงินยูโรมีผลกระทบ ค่าเงินดังกล่าวจะมีการเปลี่ยนแปลงด้วย
    • USD/JPY (สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ/สกุลเงินเยนของญี่ปุ่น)
      • ค่าเงินของประเทศญี่ปุ่น เทียบกับ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
      • เมื่อเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นไม่ดี ทำให้ค่าเงิน เยน ลดลงด้วยเช่นกัน

ในบทความนี้จะขอเน้น ทองคำ ที่กำลังเป็นที่นิยม เรียกว่า XAU/USD โดยจะมีชื่อเรียกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ผู้ให้บริการครับ บางโบรกเกอร์ เช่น XM จะเรียกว่า GOLD ซึ่งก็คือตัวเดียวกันครับ

ทองคำจัดอยู่ในหมวดของสินค้าโลหะมีค่า (เทรดเดอร์ไทยจะนิยมเทรดทอง มากกว่าค่าเงิน อยู่เยอะพอควรเลยครับ)

  • สามารถเทรดทองได้ในรูปของสินค้าโลหะมีค่า ที่คู่กับสกุลเงินคือ XAU/USD
    • XAU = สัญลักษณ์ของทองคำ
    • USD = สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
    • ซึ่งหมายถึงการเทรดทองคำในหน่วยดอลลาร์สหรัฐ
  • ราคาซื้อและขาย Bid and Ask
    • จะปรากฏอยู่บนแพลตฟอร์มในการเทรด จะแบ่งออกเป็น
  1. Bid คือราคาที่ผู้ค้าพร้อมที่จะขาย
  2. Ask คือราคาที่ผู้ค้าพร้อมที่จะซื้อสกุลเงิน
  • ความแตกต่างระหว่าง Bid และ Ask เรียกว่า Spread ซึ่งจะเป็นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม

ตัวอย่างคู่เงินที่บอกถึงราคาที่จะซื้อ หรือ ขาย

รูปที่ 2 แสดงถึงสัญลักษณ์ของ XAU USD หมายถึงการเทรดทองคำในหน่วยเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งใช้กันเป็น Symbol สากล

  • เลเวอเรจ (Leverage)
    • Leverage เป็นการยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อทำการเทรดที่มีมูลค่ามากขึ้น
      • สร้างโอกาสในการทำกำไรต่อ 1 ออเดอร์ ถึงแม้เงินทุนน้อยก็สามารถเทรดได้กำไรจำนวนมาก
      • มีโอกาสในการขาดทุนเร็ว และ สูง เนื่องจากราคาของทองคำนั้นมีการผัวผวนตลอดทั้งวัน
      • ตัวอย่างเลเวอเรจ 1:100, ถ้าต้องการซื้อทองคำ 1 Lot (100 oz) ที่ราคา 2,800 USD
        • โดยปกติ คุณจะต้องใช้เงินทุน 280,000 USD (2,800*100)
        • แต่ถ้าใช้ Leverage 1:100 คุณจะต้องใช้ Margin เพียง 2,800 USD (280,000/100)
      • เวลาในการเปิด-ปิด ตลาด Forex
        • ตลาด Forex เปิด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์
        • หยุด วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
        • ยกเว้นส่วนของ คริปโตเคอเรนซี ที่ไม่มีวันหยุด

ตารางเวลาเปิด-ปิดของตลาด Forex (ตามเวลาไทย – GMT+7)

ตลาด เวลาเปิด เวลาปิด หมายเหตุ
Sydney 05:00 น. 13:00 น. โซนเอเชีย แปซิฟิก
Tokyo 07:00 น. 15:00 น. โซนเอเชีย
London 14:00 น. 22:00 น. โซนยุโรป
New York 19:00 น. 03:00 น. (ของเช้าอีกวัน) โซนอเมริกา

 

ช่วงเวลาที่ตลาดเปิดพร้อมกัน ช่วงที่กราฟวิ่งดีคือ

  1. ตลาดลอนดอน & นิวยอร์ก
    • เวลา: 19:00 – 22:00 น.
    • ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด
  2. ตลาดซิดนีย์ & โตเกียว
    • เวลา: 07:00 – 13:00 น.
    • เหมาะสำหรับคู่เงินในโซนเอเชีย เช่น AUD/JPY หรือ USD/JPY

รูปที่ 3 แสดงถึงตารางการเปิด-ปิดของตลาด Forex ตามเวลาประเทศไทย และ แนะนำในช่วงตลาดคึกคักมากที่สุด

ในตลาด Forex มีใครเทรดบ้าง?  

1. ธนาคารกลาง (สำคัญมาก)

  • มีหน้าที่กำหนดนโยบายการเงิน เช่น การปรับอัตราดอกเบี้ย
  • แทรกแซงตลาดเพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน
  • ตัวอย่างธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ

2. ธนาคารพาณิชย์

  • ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราสำหรับลูกค้า
  • เทรดเพื่อทำกำไรในนามของธนาคารเอง
  • โดยธนาคารจะช่วยสร้างสภาพคล่องในตลาด Forex

3. บริษัทข้ามชาติ

  • ซื้อขายเงินตราเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ
  • ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging)
  • ตัวอย่างบริษัท
    • Apple
    • Toyota
    • ExxonMobil

4. กองทุนเพื่อการลงทุน

  • ใช้ตลาด Forex เพื่อการเก็งกำไร
  • ป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดอื่น ๆ
  • ตัวอย่างกองทุน คือ
    • กองทุนเฮดจ์ฟันด์ (Hedge Funds) เช่น Bridgewater Associates
    • กองทุนรวม (Mutual Funds)

5. โบรกเกอร์ Forex

  • อำนวยความสะดวกในการซื้อขาย
  • ได้รับรายได้จาก Spread หรือ Commission
  • เป็นตัวกลางสำหรับนักเทรดรายย่อยในการเข้าถึงตลาด
  • ให้บริการแพลตฟอร์มเทรด เช่น MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5)

6. นักลงทุนรายย่อย

  • ซื้อขายเพื่อทำกำไรจากความผันผวนของค่าเงิน
  • นักเทรดมืออาชีพ

การเทรด Forex ในประเทศไทย

  • ในทางกฎหมายยังไม่ได้รับการควบคุมในไทย
  • ไม่มีหน่วยงานในประเทศคุ้มครองนักลงทุน Forex
  • นิยมใช้โบรกเกอร์ต่างประเทศ เช่น IC Markets, Exness, XM โดยมีการค้นหา อ่านรีวิวจากเว็บไซต์ และ ศึกษาข้อมูลจากนักรีวิว
  • รายได้จากการเทรด Forex ต้องยื่นภาษี
  • ระวังการหลอกลวง เช่น แชร์ลูกโซ่, หลอกลงทุน, หลอก Copy trade (อ้างอิงมาจาก Forex 3D ข่างดังในประเทศไทย)
  • เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและหลีกเลี่ยงการลงทุนผ่านบุคคล
  • ความนิยมในการเทรด Forex เพิ่มขึ้น ต่อเนื่องในประเทศไทย
  • ในอนาคตอาจจะมีการพัฒนากฎหมายรองรับ Forex
  • ทุกโบรกเกอร์ที่ทำการคลาดในไทย ล้วนต้องจ่ายใต้โต๊ะให้ตำรวจ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ยังไม่มีการรับรอง Forex ในไทยสักที

รูปที่ 4 แสดงถึงการเปรียบเทียบ Forex ทองคำ กับข่าวแชร์ลูกโซ่ Forex 3D ข่าวฉ้อโกงดังในประเทศไทย

ทำความเข้าใจกับการเทรดทองคำ (XAU/USD)

ข้อดีของการเทรดทองคำ

  • มีสภาพคล่องสูง ได้รับความนิยมทั่วโลก
  • โอกาสในการทำกำไรจากความผันผวนได้อย่างรวดเร็ว
  • เป็นคู่เทรด ที่ได้รับความนิยมสูง
  • บางโบรกเกอร์ให้ต้นทุนในการเทรดทองที่ต่ำมาก ซึ่งมีมากสำหรับ เทรดเดอร์ที่ชอบเทรดทองคำ

ข้อเสียของการเทรดทองคำ

  • การเคลื่อนไหวของราคามีความเร็วและแรง หากผิดทางมีโอกาสขาดทุนสูง และ พอร์ตแตกได้
  • Price Action หรือ Price Pattern บางครั้งอาจมีการหลอก ต้องระมัดระวังค่อนข้างสูง

โบรกเกอร์ Forex คืออะไร และ เลือกใช้อย่างไร ?

  • โบรกเกอร์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเทรดเดอร์และตลาด Forex
  • ในการช่วยให้เราเข้าถึงการเทรดทอง Forex ได้ง่ายขึ้น
  • เป็นนายหน้าที่ให้เรายืม Leverage ในการเทรด ด้วยจำนวนเงินทุนที่น้อยในการเทรด
  • ก่อนที่จะเลือกใช้โบรกเกอร์เทรด ควรมีการทบทวนสิ่งต่าง ๆ ดังหัวข้อต่อไปนี้

ตรวจสอบใบอนุญาตและความน่าเชื่อถือ

  • ใบอนุญาตที่อยู่ในระดับ Rank A
  • คะแนนความน่าเชื่อถือคือ อายุในการเปิดให้บริการ นานกว่า 5-10 ปี
  • ใบอนุญาตสามารถตรวจสอบได้ มีข้อมูลการกำกับดูแลจริง
  • โบรกเกอร์ต้องมีการแสดงถึงใบอนุญาตเพื่อตวามน่าเชื่อถือทุกครั้ง

รูปที่ 5 แสดงถึงบนเว็บไซต์ Thaibrokerforex.com มีการรีวิว จัดอันดับ โบรกเกอร์ที่เทรดทองได้ดีที่สุด เจาะลึกถึงค่าบริการ บอกได้ว่าแบบไหนคุ้มสุด

แพลตฟอร์ม และ เครื่องมือเทรด

  • โบรกเกอร์ควรจะมีเครื่องมือเทรดพื้นฐาน กับ แพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์การใช้งานนักเทรดทั่วไป
    • Meta Trader 4
    • Meta Trader 5
  • บางโบรกเกอร์มีแพลตฟอร์มของตนเอง เช่น
    • Exness
    • XM
    • IUX
  • โดยแพลตฟอร์มจะตอบโจทย์เรื่องการฝากเงิน, ถอนเงิน และ เทรดได้ในแพลตฟอร์มเดียวครับ

ความลื่นไหลในการเทรด

  • ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่ติดขัดเรื่องการเทรด ซึ่งจะต้องเป็นโบรกเกอร์ที่คนไทยนิยมใช้งานครับ
  • ไม่เกิดการค้างระหว่างเทรด หรือ การปิดออเดอร์ไม่ตรง Slippage

การฝาก-ถอน รวดเร็ว ยุติธรรม

  • ฝากเงินได้อย่างรวดเร็ว และ สะดวก (ปัจจุบันฝากผ่าน QR Code ได้ทุกธนาคารยิ่งตอบโจทย์)
  • ถอนเงินได้อย่างรวดเร็ว บางโบรกเกอร์ต้องรอ 1-3 วันในการอนุมัติ (ปัจจุบันโบรกเกอร์ถอนได้เร็วมาก 3 นาทีเงินเข้าบัญชีแล้ว)
  • ค่าธรรมเนียมที่ยุติธรรม หมายถึง เรทการฝากถอน ที่ยุติธรรม
    • ฝาก $100 เท่ากับ 3,500 บาทไทย
    • ถอน $100 เท่ากับ 3,480 บาทไทย
    • ส่วนต่าง 20 บาท – เรียกว่า “เรทฝาก-ถอน”

การบริการที่ดี

  • โบรกเกอร์จะต้องมีทีมซัพพอร์ทคอยดูแลคุณ กรณีเกิดปัญหาต่าง ๆ
  • มีการตอบคำถามอย่างเข้าใจ และ มีความรู้ในการเทรด (บางโบรกเกอร์พนักงานไม่มีความรู้เรื่องเทรด แต่เอามาตอบคำถามเรื่องการสมัครสมาชิก)

คำแนะนำสำหรับมือใหม่

  • เริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง
    • ฝึกเทรดโดยไม่เสียเงินจริง
    • ศึกษากลยุทธ์ ลองเทรดตามแผนนั้น
    • ฝึกฝนให้ชำนาญการใช้ แพลตฟอร์ม MT4, MT5
    • ได้เรียนรู้ถึงพฤติกรรมของกราฟ, ราคาตลาดในช่วงต่าง ๆ
  • เลือกโบรกเกอร์ที่มีประวัติที่ดี
    • เลือกโบรกเกอร์ที่มีรีวิวดี มีการรับรองที่ปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือ
    • เริ่มต้นด้วยเงินทุน ในจำนวนที่ไม่มากนัก
      • หากว่าคุณเข้าสู่ตลาดการเทรด Forex หรือ ทองคำ จะต้องเลือกกำหนดเงินทุนด้วยจำนวนไม่มาก เพื่อทำการทดสอบ
      • เลือกเงิน $50 หรือ ประมาณ 1,500 บาทไทย เป็นต้นทุน
      • มีการคำนวณการใช้ Lot หรือ ความเสี่ยงในการขาดทุนที่เหมาะสม
      • ในช่วงเริ่มต้นนักเทรดก็ยังต้องเรียนรู้เพิ่มเติมในอีกหลาย ๆ เรื่อง

เรียนรู้การใช้คำสั่งต่าง ๆ ในการเทรด

คำสั่งต่าง ๆบนหน้าต่างของ MT4 และ MT5 บนโปรแกรมในคอมพิวเตอร์

รูปที่ 6 แสดงถึงตัวอย่างการใช้งาน MT5 บนคอมพิวเตอร์ ฟังก์ชั่น, Market Watch, จุดแจ้งกำไร-ขาดทุน และ แผนผังเครื่องมือ

คำสั่งต่าง ๆบนหน้าต่างของ MT4 และ MT5 บนสมาร์ทโฟน 

รูปที่ 7 แสดงถึงตัวอย่างการใช้งาน MT5 บนสมาร์ทโฟน ฟังก์ชั่น, Market Watch, จุดแจ้งกำไร-ขาดทุน และ แผนผังเครื่องมือ

  • คำสั่ง Buy/Sell Limit : ใช้ในการกำหนดออเดอร์ที่ต้องการจะซื้อ หรือ ขาย เมื่อราคาวิ่งมาถึง ณ จุด ๆ นั้น
  • คำสั่ง Stop Loss: ใช้เพื่อจำกัดการขาดทุนโดยอัตโนมัติเมื่อราคาทองลดลงถึงจุดที่ตั้งไว้
  • คำสั่ง Take Profit: ใช้เพื่อล็อกกำไรเมื่อราคาทองเพิ่มขึ้นถึงจุดที่ตั้งไว้
  • คำสั่ง Buy/Sell: ใช้ในการซื้อหรือขายทองตามทิศทางราคาที่คาดการณ์ไว้

เทรดทองโดยใช้กลยุทธ์ง่าย ๆ

ตัวอย่างกลยุทธ์สำหรับมือใหม่

  • เข้าออเดอร์ Sell ที่แนวต้านสำคัญ
  • เข้าออเดอร์ Buy ที่แนวรับสำคัญ
  • กำหนด TP 500 จุด / กำหนด SL 500 จุด
  • การกำหนดขนาดลงทุน หรือ Lot เลือก 0.01 เป็นขนาด Lot เริ่มต้น
  • สิ่งที่นักเทรดมือใหม่จะต้องรู้คือ กราฟราคา เราไม่สามารถบังคับให้ไปตามที่ต้องการได้ ต้องรอเวลา และ โอกาสมาถึง

ถึงแม้ว่าจะมีความมั่นใจในการศึกษาเรียนรู้ตลาดมาแล้วก็ตาม การกำหนด Lot Size ที่มากเกินไป หรือ การออกออเดอร์ในหลาย ๆ ครั้ง นั่นทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า Overtrade การเทรดเกินเงินทุนที่มี

  • ไม่ออกออเดอร์เพิ่ม หรือ กำหนด Lot Size ขนาดมากกว่า 0.01
  • เลเวอเรจที่ให้ใช้งานในตัวเลขที่สูงไม่เหมาะกับนักเทรดมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากพอในการเทรดทองคำ
  • ควรตั้งเป้าหมายในการเทรด 1 ครั้ง ว่าสามารถขาดทุนได้เท่าไหร่ เช่น 2% ของบัญชี หรือ 5% ของบัญชี
  • ต้องมี STOP LOSS ทุกออเดอร์ ยอมเสียในแผนเพื่อรักษาเงินทุนไว้ เพราะตลาดเราไม่สามารถควบคุมได้ตามใจ สำคัญมาก ๆ
  • ต้องมีจิตวิทยาในการเทรด ควบคุมอารมณ์ให้ได้ ไม่ใช้อารมณ์ในการเทรดมากเกินไป

รูปที่ 8 แสดงถึงคำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่จะเข้ามาเทรดทองคำ ต้องเรียนรู้ให้มาก มี SL ทุกออเดอร์ เราไม่สามารถควบคุมตลาดได้ แต่ต้องรู้ทันในตลาดนั่นเอง

คลิป

สรุป

อย่าหยุดเรียนรู้และพัฒนาตัวเองครับ โลกมีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน ทั้งเทคโนโลยี, สิ่งแวดล้อม, การเมือง รวมไปถึงสภาพคล่องของเศรษฐกิจ ถ้าคุณสนใจเทรดทองคำแล้วหล่ะก็ ก็ต้องให้ความสำคัญอย่างมากกับเรื่องเศรษฐกิจด้วย เพราะมีผลต่อราคาทองคำโดยตรง เรียนรู้กันต่อในบทความนักเทรดทองคำแบบมืออาชีพ ที่จะช่วยให้คุณสร้างรายได้อย่างยั่งยืน กับผลิตภัณฑ์ที่คนทั้งโลกนิยมเทรดอย่าง XAUUSD หรือ ทองคำ นั่นเองครับ

อ้างอิง