Heiken Ashi Trading  

 

บทความนี้เป็นอีกบทความเทรดเกี่ยวกับระบบเทรด ซึ่งระบบเทรดวันนี้ยังอยู่กันที่ Indicator พื้นฐานที่มีอยู่ใน MT4 อยู่ครับ เป็นระบบ Heiken Ashi โดยหลักการของ Heiken Ashi มีหลักการที่คล้ายคลึงกับ Moving Average นั่นจึงเป็นเครื่องมือบอกเทรนด์ที่ดีอย่างหนึ่ง การบอกเทรนด์ของ Heiken Ashi สามารถเข้าใจได้ทันที เพียงแค่มองภาพเท่านั้น ในบทความนี้เราจะมาว่าด้วยระบบเทรดที่ใช้ Indicator Heiken Ashi วิธีการเข้าเทรด และวิธีการทำกำไร การตั้งค่าตัดขาดทุน หรือการ Cutloss ของระบบดังเนื้อหาต่อไปนี้

Indicator และการตั้งค่า

แน่นอนว่า ระบบนี้ต้องมี Indicator Heiken Ashi แน่นอน และข้อดีของมันคือ มันไม่ต้องตั้งค่าใด ๆ ก่อนการเทรด และสามารถใช้ได้ทันทีเลย โดย Time Frame ที่เราจะใช้ในการเทรด คือ Time Frame Daily เนื่องจากการเทรดแต่ละครั้งควรจะต้องเห็นเทรนด์ชัดเจน และไม่ควรจะเทรดใน Time Frame ต่ำ

ระบบ Heiken Ashi ต้องออกเร็วเพื่อไม่ให้มันเกิดการเปลี่ยนเทรนด์แล้วถึงค่อยออก อย่างนั้นเราอาจจะไม่เหลือกำไรเลยก็ได้เพราะว่า การให้สัญญาณของ Heiken Ashi นั้นเป็น Indicator ที่ให้สัญญาณช้า

ในระบบนี้ไม่ได้มีเพียง Indicator Heiken Ashi เพียงตัวเดียว แต่ยังมี Stochastic Oscillator พ่วงมาด้วย เพื่อใช้ตัดสินใจในการออกจากการเทรด ดังนั้นการตั้งค่า Stochastic จึงเท่ากับ 7,3,5 โดยแสดงดังภาพต่อไปนี้

ภาพที่ 1 แสดงระบบ Heiken Ashi พร้อมกับจุดเข้าและจุดออก

ในรูปแสดงระบบ Heiken Ashi ในแท่งสีแดงและสีขาว โดยมีวงกลมสีเขียว คือจุดเข้าเทรด จะเห็นว่าจุดเข้าเทรดของเราค่อนข้างล่าช้า เพราะว่าเกิดการปรับตัวแล้วเท่านั้นเราถึงจะเข้าเทรดได้ ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้ เราต้องเทรดให้สัญญาณช้ากว่ากำหนดเพราะว่า เป็นการลดความเสี่ยงของสัญญาณหลอกของเทรนด อย่างไรก็ตาม ก็จะมีบางครั้งที่เกิดสัยญญาณหลอกได้เช่นกัน แต่ก็มีวิธีสังเกตุซึ่งเราจะกล่าวในหัวข้อต่อไป

ต่อมาเป็นจุดออก หรือ จุดทำกำไรของระบบ ในกราฟจะมี Indicator Stochastic ซึ่งมีวงกลมสีเหลือง นั่นคือ จุดออกของระบบ จะเห็นว่าเราจะออกจากการเทรดก็ต่อเมื่อ สัญญาณเกิด Overbought หรือ Oversold เท่านั้น ในกรณีของในภาพมันคือ สัญญาณ Buy และเราจะออกเมื่อเกิด Oversold แล้วเท่านั้น การเกิด Oversold จะเป็นช่วงที่กราฟลง และเราไม่ต้องรอให้มันกลับตัวก่อน เนื่องจากถ้าเรารอให้มันกลับตัว โดยสังเกตุจาก Heiken  Ashi เปลี่ยนสี ก็เท่ากับเราอาจจะขาดทุนใน Position นั้นไปก็ได้

เพื่อที่จะเลี่ยงจุดบอดนี้ เราจึงต้องทำการออกก่อนเวลา โดยเน้นที่ Stochastic แทน และประกอบกับเราเทรดใน Time Frame ใหญ่เช่น Time Frame Daily ทำให้จำนวนกำไรที่ได้รับเป็นจำนวนที่คุ้มค่า

จุดอ่อนของระบบ

ในรูปมีช่วงหนึ่งที่เป็นจุดอ่อนของระบบ ถ้าผู้อ่านได้สังเกตุก็จะเห็นได้ว่า ช่วงต้นของกราฟ Heiken Ashi เปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดสัญญาณสลับกัน นั่นทำให้เราขาดทุนติดต่อกันหลาย ออเดอร์ กราฟลักษณะนั้นจริง ๆ แล้วเป็นกราฟ Sideway ใน Time Frame เล็ก ๆ เช่น 1 ชั่วโมง

สิ่งที่เราควรทำคือ เราไม่ควรจะต้องเทรดกราฟในรูปแบบนั้น แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่า กราฟรูปแบบนั้นจะเกิดเมื่อไหร่ ถ้าหากท่านได้สังเกตุอีก Stochastic จะเห็นว่ามันแกว่งตัวและไม่สมูทกันของเส้นสองเส้น

ในกราฟ Stohcastic จะมีเส้น 2 เส้น คือ เส้น main Line และเส้น Signal Line โดยเส้น main Line คือเส้นสีฟ้า ขณะที่เส้น signal Line คือเส้นสีแดง เมื่อสัญญาณตัดกันให้สัญญาณ Buy สีฟ้าจะอยู่สูงกว่าเส้นสีแดง ขณะที่ฝั่ง Sell ก็ให้สัญญาณตรงข้ามกัน กราฟ Stochastic จะระบุความสมูทของเทรนด์และแรงส่งของเทรนด์ ดังนั้นในช่วงต้นกราฟ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ตลาดไม่เหมาะสมกันการเทรด กราฟ Stochastic จะไม่ราบเรียบเมื่อเราเห็นกราฟมีรูปแบบไม่ราบเรียบจึงไม่ควรเทรด และหยุดเทรดไปจนกว่าเริ่มรู้จักกราฟที่เราคุ้นเคย ซึ่งแน่นอนว่าใน Time Frame D1 การหยุดเทรดอาจจะกินเวลากว่า 1 เดือนเลยก็เป็นได้

สถานการณ์การตัดขาดทุน

ในการเทรดจะมีบางจังหวะที่เราคาดการณ์ผิด การแก้สถานการณ์มีเพียง 2 รูปแบบคือการ Cutloss และการตั้ง Stop loss เท่านั้น การเปิด Position ทิ้งไว้แล้วคาดว่ามันจะกลับมาเป็นความคิดที่ผิดและส่งผลต่อพอร์ทลงทุนอย่างใหญ่หลวง ดังนั้น เราควรตั้ง Stop loss กรณีที่ห้ามใจไม่ได้ สำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ การ Cutloss ดูจะสมเหตุสมผลมากกว่า การตั้งจุด Cutloss สามารถทำได้โดยการใช้ Heiken Ashi เปลี่ยนสีก็สามารถทำได้และได้ผลพอสมควร

 

ทีมงาน : www.thaibrokerforex.com

เส้น

เขียนโดย

Pakornkiat Poonsuk

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chonthicha Poomidon