Exness-reviews

เปิดบัญชี Exness

เปิดบัญชี XM

เปิดบัญชี GMI

เปิดบัญชี IC Markets

เปิดบัญชี Land-FX 

เปิดบัญชี Tickmill

เปิดบัญชี Pepperstone 

เปิดบัญชี FxPro 

เปิดบัญชี Weltrade

เปิดบัญชี FBS

โบรกเกอร์ forex Spread ถูกที่สุด – วิธีการดู Spread

Spread คืออะไร สำคัญในการเทรด Forex อย่างไร

  • Spread คือความแตกต่างของราคาซื้อกับราคาขาย เป็นช่องว่างของราคา เอาไว้ให้โบรกเกอร์ Forex เก็บเป็นค่าบริการจากผู้เทรด (Trader) ทุกครั้งที่มีการออกออเดอร์
  • ยิ่ง spread กว้าง Trader ก็เทรดยากและทำกำไรยาก ได้กำไรจากการเทรดน้อย ในขณะที่โบรกเกอร์จะได้ค่าบริการมาก
  • Spread จึงสำคัญในแง่ การจัดการทางการเงิน/การบริหารความเสี่ยง (money management) และระบบเทรด

Spread คือ ส่วนต่างของราคาซื้อกับราคาขาย สามารถเช็คแบบ Real time ได้จากข้อมูลใน MT4 หรือ MT5 ดังภาพ

Top 5 โบรกเกอร์ forex Spread ถูกที่สุด

  • จากการทดลองเปิดบัญชีจริง ทุกโบรกเกอร์ Forex เกรดดีที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกของทีมงาน com จำนวน 21 โบรก โดยทดสอบทุกบัญชีที่นิยมใช้/เหมาะสมกับคนทั่วไปในการเทรด
  • ทดสอบโดยการแค๊ปหน้าจอจริง ในช่วงเวลาต่างๆกัน (ไม่เอาข้อมูลที่แสดงในโบรก) ได้ผลค่า spread เฉลี่ยตามลำดับดังนี้

ตารางสรุป Top 5 โบรกเกอร์และประเภทบัญชีที่มีค่า spread ถูกที่สุด

อันดับ โบรกเกอร์ ประเภทบัญชี spread เฉลี่ย
1 Tickmill Pro 6.14
2 Gmi markets ECN 6.43
3 Roboforex ECN 7.14
4 Weltrade Pro 7.43
5 Exness Raw Spread 9.43

ประเภทของ spread

  • Fix spread คือ สเปรดคงที่ โบรกเกอร์คิดราคาเดียวตลอด
  • Variable Spread คือ สเปรดผันแปร มันเปลี่ยนแปลงตลอดตามภาวะตลาด โดยปัจจัยที่มีผลต่อ Variable Spread ได้แก่
    • จำนวนการเทรด (Volume): อย่างในช่วงตลาดที่มี Volume จำนวนมากปิดทำการ (ราวๆ00-6.00 น.ตามเวลาในไทย) หรือวันที่ธนาคารในประเทศใหญ่ๆ ที่มี Volume เทรดสูงๆปิดทำการ spread ก็จะกว้างมากๆ
    • ช่วงที่มีข่าวแรง: มีคำสั่งซื้อ-ขายจำนวนมาก จะทำให้ spread แกว่งตัว สูง-ต่ำอย่างรวดเร็ว (ปกติมักได้ราคา spread ที่สูง)

Fix spread กับ Variable Spread อันไหนดีกว่ากัน

ตารางเปรียบเทียบ Fix spread กับ Variable Spread

ประเภท  spread ข้อดี ข้อเสีย เหมาะสำหรับ
Fix spread สามารถคำนวณ ต้นทุนการเทรดที่ต้องจ่ายได้ง่าย มักถัวเฉลี่ยราคา spread ในระดับที่สูง * จุดสำคัญที่ทำให้คนนิยมแบบ Variable Spread มากกว่า เทรดเดอร์ที่เทรดทั้งวัน ต้องการออกไม้ช่วงไหนก็ได้ที่ไม่ต้องคำนึงถึง spread ที่สูงเกินไป
ง่ายต่อการเทรด เพราะสามารถออกไม้ได้ตลอดโดยไม่ต้องคำนึงถึง spread มักจะเกิด Requotes (ส่งคำสั่งไม่ได้) บ่อย เทรดเดอร์ แบบ Scalper (เทรดสั้น ใช้ Time farm 1-5 นาที) ถ้าเลือกโบรกหรือบัญชีที่ spread แคบๆจะทำให้ ทำตามระบบเทรดได้ง่ายเนื่องจากไม่ต้องคำนึงเรื่อง spread
Variable Spread เทรดในช่วงตลาดที่มี Volume สูง จะได้ราคาที่ต่ำ เทรดในช่วงตลาดที่มี Volume ต่ำ จะได้ราคาที่สูงมาก เช่น ช่วงเช้ามืดในไทย เทรดเดอร์ทั่วไป ที่ไม่ใช่ Scalper แบบเต็มวัน
ราคาจะแกว่งตัวสูงในช่วงที่มีข่าวแรง ทำให้เทรดยาก
มักเจอปัญหา slippage คือซื้อหรือขายราคาหนึ่งแต่ไปได้อีกราคาหนึ่ง ซึ่งทำให้พอร์ตเสียหาย (บางทีก็กำไร แต่ส่วนมากมักเสีย)

วิธีการดู spread

ดู spread ใน PC

  • ใน MT4: คลิ๊กขวาที่ Symbol > เลือก Spread > หลังช่อง Ask จะปรากฏ ช่อง I ! I ซึ่งคือ ช่องแสดง Spread
  • ใน MT5: คลิ๊กขวาที่ Symbol > เลือก Columns > เลือก Spread > หลังช่อง Ask จะปรากฏ ช่อง I ! I ซึ่งคือ ช่องแสดง Spread

ดูใน มือถือ

  • ซ้าย MT4 ขวา MT5: เปิด MT4 หรือ MT5 คลิกปุ่ม Quotes (ล่างซ้ายสุด) > ดูที่ด้านล่างของคู่เงิน จะมีระบุค่า spread ไว้โดยไม่ต้องตั้งค่า

สรุป

Spread คือความแตกต่างของราคาซื้อกับราคาขาย Trader จำเป็นต้องพิจารณา เนื่องจากเป็นสิ่งที่ต้องจ่ายให้โบรกเกอร์ทุกครั้งที่มีการออกออร์เดอร์ โดยแต่ละโบรก แต่ละบัญชีเทรดแม้แต่คู่เงินแต่ละค่าก็มีค่า spread แตกต่างกันไป

Spread มี 2 แบบ ตามการคิดราคาของโบรกเกอร์คือ แบบตายตัว (Fix spread) ซึ่งเหมาะกับการเทรดแบบสั้น (Scalping) และแบบผันแปรตามราคาตลาด (Variable Spread), การดูค่า spread ใน PC ต้องตั้งค่าเล็กน้อย ส่วนในมือถือสามมารถเลือกดูได้เลย

เขียนโดย

Rattapoom Jitjaroen

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chatchawal Nakcharoen