Median CPI y/y คืออะไร?

Median CPI y/y ย่อมาจาก Median Consumer Price Index Year-over-year ซึ่งเป็นดัชนีวัดอัตราเงินเฟ้อที่พัฒนาโดย Federal Reserve Bank of Cleveland (ธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาคลีฟแลนด์) และ Ohio State University

Median CPI y/y คือ อัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภคโดยใช้ ค่ามัธยฐาน (median) ของการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (Year-over-year)

นิยามเบื้องต้น

  • CPI (Consumer Price Index): ดัชนีราคาผู้บริโภค วัดการเปลี่ยนแปลงราคาเฉลี่ยสินค้าและบริการ (อาหาร, ค่าเช่า, น้ำมัน) โดยใช้ค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก
  • Median CPI: ดัชนีเงินเฟ้อที่คำนวณจาก ค่ามัธยฐาน ของการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าทั้งหมด ช่วยลดผลกระทบจากราคาที่ผันผวนสูง (เช่น อาหาร/พลังงาน) ทำให้สะท้อนแนวโน้มเงินเฟ้อพื้นฐานได้แม่นยำและเสถียรยิ่งขึ้น
  • y/y (Year-over-year): “ปีต่อปี” คือการเปรียบเทียบข้อมูลปัจจุบันกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงในรอบ 12 เดือนและลดผลกระทบตามฤดูกาล

Median CPI y/y สำคัญอย่างไร?

Median CPI y/y ถือเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่สำคัญและได้รับความสนใจจากนักเศรษฐศาสตร์และธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve หรือ Fed) ด้วยเหตุผลดังนี้:

  • สะท้อนเงินเฟ้อที่แท้จริง: เนื่องจาก Median CPI กรองผลกระทบจากราคาที่ผันผวนสูง (เช่น ราคาพลังงานหรืออาหารที่อาจขึ้นลงเร็วมาก) ทำให้มันสะท้อนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยั่งยืนและแท้จริงในเศรษฐกิจได้ดีกว่า CPI ทั่วไปหรือแม้กระทั่ง Core CPI (CPI ที่ไม่รวมอาหารและพลังงาน)
  • ใช้ในการกำหนดนโยบายการเงิน: Federal Reserve ใช้ Median CPI เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญในการประเมินภาวะเงินเฟ้อ เพื่อประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเฉพาะการปรับอัตราดอกเบี้ย หาก Median CPI y/y มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณที่ Fed พิจารณาขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
  • ลดสัญญาณรบกวน: ค่าเฉลี่ยอาจถูกบิดเบือนได้ง่ายจากค่าผิดปกติ (outliers) แต่ค่ามัธยฐานมีความแข็งแกร่งกว่าในการรับมือกับข้อมูลที่มีความผันผวนสูง ทำให้ได้ภาพที่มั่นคงกว่า

ทำไม Median CPI y/y จึงมีความสำคำญต่อการเทรด Forex

Median CPI y/y มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเทรด Forex ด้วยเหตุผลหลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve หรือ Fed) และผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ “เหตุผลสำคัญมีดังนี้”

ตัวชี้วัดเงินเฟ้อพื้นฐานที่เชื่อถือได้ของ Fed:

  • Fed ให้ความสำคัญกับ Median CPI (และ Trimmed-Mean CPI) เนื่องจากเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถกรองความผันผวนของราคาในระยะสั้นที่เกิดจากปัจจัยเฉพาะ เช่น ราคาอาหารหรือพลังงานที่อาจผันผวนสูงได้ดีกว่า CPI ทั่วไป หรือแม้แต่ Core CPI (ที่ตัดแค่อาหารและพลังงานออก)
  • เมื่อนักลงทุน Forex รู้ว่า Fed ใช้ข้อมูลนี้ในการประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อที่แท้จริง ก็จะทำให้ตัวเลข Median CPI y/y เป็นข้อมูลที่มีน้ำหนักมากในการคาดการณ์การตัดสินใจของ Fed
  • สำหรับเทรดเดอร์: การเข้าใจว่า Fed มองเงินเฟ้ออย่างไรจากตัวเลขนี้ จะช่วยให้คาดเดาทิศทางนโยบายการเงินได้แม่นยำขึ้น

เชื่อมโยงโดยตรงกับนโยบายอัตราดอกเบี้ย:

  • เป้าหมายหลักของ Fed คือการรักษาเสถียรภาพราคา (ควบคุมเงินเฟ้อ) และส่งเสริมการจ้างงานเต็มที่
  • หาก Median CPI y/y บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อกำลังเพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืนและสูงกว่าเป้าหมายของ Fed (ซึ่งมักจะอยู่ที่ 2%) Fed มีแนวโน้มที่จะ ขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อชะลอการใช้จ่ายและลดแรงกดดันเงินเฟ้อ
  • ในทางกลับกัน หาก Median CPI y/y มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง หรือต่ำกว่าเป้าหมาย Fed อาจพิจารณา ลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • สำหรับเทรดเดอร์: อัตราดอกเบี้ยเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของค่าเงิน เมื่ออัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินหนึ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ จะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้มาลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ส่งผลให้ความต้องการสกุลเงินนั้นเพิ่มขึ้นและทำให้สกุลเงินนั้นแข็งค่าขึ้น (เช่น USD แข็งค่าขึ้นเมื่อ Fed ขึ้นดอกเบี้ย)

สร้างความผันผวนในตลาด:

  • เมื่อมีการประกาศตัวเลข Median CPI y/y (ซึ่งมักจะออกมาพร้อมกับรายงาน CPI ทั่วไปและ Core CPI) หากตัวเลขที่ออกมาแตกต่างจากที่นักวิเคราะห์และตลาดคาดการณ์ไว้ จะเกิดการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็วและรุนแรงในตลาด Forex
  • สำหรับเทรดเดอร์: ความผันผวนนี้เป็นโอกาสในการทำกำไรสำหรับผู้ที่สามารถวิเคราะห์และตอบสนองต่อข่าวได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ อย่างไรก็ตาม ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน

ชี้นำแนวโน้มระยะยาว:

  • เนื่องจากเป็นตัวชี้วัดแบบ “ปีต่อปี” Median CPI y/y ช่วยให้เทรดเดอร์มองเห็นแนวโน้มเงินเฟ้อในระยะยาวได้ชัดเจน โดยไม่ถูกรบกวนจากความผันผวนรายเดือน
  • สำหรับเทรดเดอร์: การเข้าใจแนวโน้มระยะยาวของเงินเฟ้อจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวางกลยุทธ์การเทรดในระยะกลางถึงยาวได้อย่างเหมาะสม เช่น การถือสถานะ (position) ของคู่สกุลเงินที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากนโยบายการเงินที่เปลี่ยนแปลงไป

ผลกระทบต่อตลาดการเงินและนักลงทุน

Median CPI y/y เป็นตัวชี้วัดที่สามารถสร้างความผันผวนในตลาดการเงินได้อย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อตัวเลขออกมาแตกต่างจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ การเข้าใจผลกระทบของ Median CPI จะช่วยให้นักลงทุนปรับกลยุทธ์ได้ทันท่วงทีและใช้ประโยชน์จากความผันผวนในการทำกำไร

ผลกระทบต่อตลาดหุ้น

  • เมื่อ Median CPI y/y สูงกว่าคาดการณ์ ตลาดหุ้นมักปรับตัวลงในระยะสั้น
  • นักลงทุนกังวลว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ต้นทุนเงินทุนของบริษัทสูงขึ้น
  • หุ้นในภาคที่ไวต่อดอกเบี้ย เช่น เทคโนโลยีและอสังหาริมทรัพย์ มักได้รับผลกระทบหนัก
  • ในระยะยาว หาก Median CPI สะท้อนเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง หุ้นอาจฟื้นตัวได้

ผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้

  • Median CPI ที่สูงกว่าคาดการณ์ทำให้ราคาพันธบัตรลดลงและอัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้น
  • นักลงทุนคาดการณ์ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลต่อพันธบัตรระยะสั้นมากกว่าระยะยาว
  • ตลาดตราสารหนี้มักตอบสนองต่อ Median CPI อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเชื่อมโยงกับนโยบายการเงิน
  • พันธบัตรที่มีอายุสั้น เช่น Treasury Notes 2 ปี มักผันผวนมากที่สุด

ผลกระทบต่อสกุลเงินดอลลาร์

  • Median CPI y/y ที่สูงกว่าคาดการณ์มักทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
  • ความคาดหวังที่ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยทำให้สินทรัพย์ที่เป็นดอลลาร์น่าสนใจ
  • ในทางกลับกัน Median CPI ที่ต่ำกว่าคาดการณ์อาจทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง
  • คู่สกุลเงิน เช่น EUR/USD หรือ USD/JPY มักผันผวนหลังการประกาศ Median CPI

ผลกระทบต่อสินค้าโภคภัณฑ์

  • ทองคำมักได้รับผลกระทบเชิงลบจาก Median CPI ที่สูง เพราะดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้ต้นทุนการถือครองทองคำเพิ่ม
  • น้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ อาจผันผวนจากความสมดุลระหว่างความต้องการที่เพิ่มขึ้นและความกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัว
  • สินค้าโภคภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต เช่น โลหะอุตสาหกรรม อาจได้ประโยชน์จาก Median CPI ที่สูง

การตีความและการใช้ประโยชน์จาก Median CPI y/y

การตีความ Median CPI y/y มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจภาวะเงินเฟ้อที่แท้จริงและคาดการณ์นโยบายการเงินของธนาคารกลาง โดยเฉพาะ Federal Reserve ของสหรัฐอเมริกา นี่คือแนวทางการตีความ:

1. เปรียบเทียบกับเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลาง:

  • Fed มีเป้าหมายเงินเฟ้ออยู่ที่ 2% (สำหรับ Core PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดหลักของ Fed แต่ Median CPI ก็ถูกใช้เป็นสัญญาณเสริมที่สำคัญ)
  • หาก Median CPI y/y อยู่ใกล้หรือต่ำกว่า 2%: บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ หรืออยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งอาจทำให้ Fed ไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ย หรืออาจพิจารณาลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • หาก Median CPI y/y อยู่สูงกว่า 2% อย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น: นี่คือสัญญาณที่น่ากังวลสำหรับ Fed บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อกำลังเร่งตัวและอาจกลายเป็นปัญหาที่ยั่งยืน ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันให้ Fed ต้อง ขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

2. เปรียบเทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ (Consensus Forecast):

  • ก่อนการประกาศตัวเลข Median CPI y/y นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะมีการคาดการณ์ตัวเลขไว้
  • หากตัวเลขจริงออกมาสูงกว่าคาดการณ์: ตลาดมักจะตีความว่าเงินเฟ้อแข็งแกร่งกว่าที่คิด ทำให้ Fed มีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยหรือคงดอกเบี้ยในระดับสูงนานขึ้น สิ่งนี้มักส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และอาจกดดันตลาดหุ้นและพันธบัตร
  • หากตัวเลขจริงออกมาต่ำกว่าคาดการณ์: ตลาดมักจะตีความว่าเงินเฟ้ออ่อนแอลง หรืออยู่ภายใต้การควบคุมได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจลดแรงกดดันต่อ Fed ในการขึ้นดอกเบี้ย หรืออาจเปิดโอกาสให้ Fed ลดดอกเบี้ยได้เร็วกว่าที่คาด สิ่งนี้มักส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และอาจหนุนตลาดหุ้นและพันธบัตร
  • หากตัวเลขจริงออกมาเท่ากับคาดการณ์: ผลกระทบต่อตลาดมักจะไม่รุนแรงนัก เนื่องจากตลาดได้รับรู้ข้อมูลนี้ไปแล้ว

3. เปรียบเทียบกับ CPI ทั่วไป (Headline CPI) และ Core CPI:

  • Median CPI มักจะมีความผันผวนน้อยกว่า Headline CPI: เพราะตัดเอาการเปลี่ยนแปลงราคาที่สุดขั้วออกไป ทำให้เป็นตัวชี้วัด “แนวโน้ม” ที่ดีกว่า
  • Median CPI อาจให้สัญญาณที่แตกต่างจาก Core CPI เล็กน้อย: แม้ Core CPI จะตัดอาหารและพลังงานออกไปแล้ว แต่ก็ยังคงรวมรายการอื่นๆ ที่อาจผันผวนสูง (เช่น ค่ารถยนต์มือสอง) ในขณะที่ Median CPI จะตัดรายการที่มีการเปลี่ยนแปลงราคามากที่สุดออกไป ไม่ว่าจะเป็นหมวดใดก็ตาม
  • การที่ Median CPI สูงกว่า Core CPI อย่างต่อเนื่อง: อาจบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อกำลังกระจายตัวไปในวงกว้าง ไม่ใช่แค่จากหมวดอาหารและพลังงาน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนักสำหรับ Fed
  • การที่ Median CPI ต่ำกว่า Core CPI: อาจบ่งชี้ว่าแรงกดดันเงินเฟ้อหลักๆ ยังมาจากหมวดที่ Core CPI รวมอยู่ ซึ่งอาจให้ภาพที่แตกต่างกันในการประเมิน

4. แนวโน้ม (Trend) ในระยะยาว:

  • การดู Median CPI y/y เพียงเดือนเดียวอาจไม่เพียงพอ ควรดูแนวโน้ม 3-6 เดือน หรือ 12 เดือน เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น
  • แนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง: บ่งชี้ถึงปัญหาเงินเฟ้อที่กำลังก่อตัว
  • แนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่อง: บ่งชี้ว่า Fed อาจประสบความสำเร็จในการควบคุมเงินเฟ้อ หรือเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว

การวิเคราะห์กราฟ Median CPI y/y และการเชื่อมโยงกับข่าว

การวิเคราะห์กราฟ Median CPI y/y จะช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพแนวโน้มเงินเฟ้อและคาดการณ์การตอบสนองของ Fed ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ต่อไปนี้คือตัวอย่างการวิเคราะห์กราฟ Median CPI y/y และการเชื่อมโยงกับข่าวในช่วงต้นปี 2568

การเชื่อมโยงกับข่าว (จาก Forex Factory, มิ.ย 2568)

ผลประกาศหลัก

  • Median CPI y/y มิ.ย 2568 อยู่ที่ 2.4 % สูงกว่าฉันทามติเล็กน้อย
  • ประกาศโดย Cleveland Fed เมื่อ 15 มิ.ย. 2568
  • สะท้อนแรงกดดันจากราคาที่อยู่อาศัยและบริการด้านสุขภาพ

ทำไมถือเป็นข่าวที่น่าสนใจ

  • Median CPI ที่สูงกว่าคาดบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อยังคงแข็งแกร่ง แม้จะมีการควบคุมราคาพลังงาน
  • ช่วยยืนยันว่า Fed อาจคงดอกเบี้ยที่ระดับสูงต่อไปจนถึงกลางปี 2568
  • ราคาที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยหลัก สะท้อนความต้องการที่อยู่อาศัยที่แข็งแกร่ง

ความระมัดระวังของ Fed

  • Fed ระบุว่ารอดูผลกระทบจากนโยบายการค้าของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดันเงินเฟ้อ
  • ความไม่แน่นอนจากภาษีนำเข้าทำให้ Fed ยังไม่ลดดอกเบี้ย
  • การประชุม FOMC ใน มิ.ย 2568 จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญ

ความหมายสำหรับนักลงทุน

  • ระยะสั้น: ความผันผวนในหุ้นเทคโนโลยีและพันธบัตรระยะสั้นหลังการประกาศ
  • ระยะยาว: หุ้นในภาคพลังงานและอสังหาริมทรัพย์อาจได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อที่แข็งแกร่ง
  • ควรติดตามข่าวนโยบายการค้าและราคาที่อยู่อาศัยอย่างใกล้ชิด

 

คลิปที่น่าสนใจ

ในคลิปวีดีโอเป็นการอธิบายวิธีคำนวณ Median CPI อย่างชัดเจน โดย Federal Reserve Bank of Cleveland อธิบายวิธีคำนวณ Median CPI อย่างละเอียดและเข้าใจง่าย ด้วยระยะเวลา 5 นาที 40 วินาที

คลิปนี้ใช้ตัวอย่างการคำนวณจากราคาสินค้า 5 ชนิดระหว่างเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม เพื่อแสดงกระบวนการหาค่ามัธยฐานของการเปลี่ยนแปลงราคา ซึ่งสอดคล้องกับบทความในหัวข้อ Median CPI y/y คืออะไร ที่ระบุว่า Median CPI เป็นดัชนีที่ใช้วัดอัตราเงินเฟ้อโดยเน้นค่ามัธยฐาน เพื่อลดผลกระทบจากราคาที่ผันผวนสุดขั้ว และเป็นเครื่องมือสำคัญที่ Federal Reserve (Fed) ใช้ในการกำหนดนโยบายการเงิน 

นาทีที่สำคัญ

  • 0:00-0:45: แนะนำความสำคัญ Median CPI – ดีกว่า CPI ทั่วไป เพราะกรองราคาผันผวนสุดขั้วออก.
  • 0:46-1:30: แสดงตัวอย่างคำนวณ – สินค้า 5 ชนิด, ราคา มิ.ย./ก.ค., และ % การเปลี่ยนแปลง.
  • 1:31-2:15: จัดเรียงข้อมูล – เรียง % การเปลี่ยนแปลงราคาจากน้อยไปมาก.
  • 2:16-3:30: อธิบายน้ำหนักสินค้า – “Relative Importance” และการคำนวณน้ำหนักสะสมเพื่อหาค่ามัธยฐาน.
  • 3:31-4:30: สรุปผล Median CPI – ระบุสินค้า D (15%) เป็นค่ามัธยฐาน.
  • 4:31-5:40: ย้ำความสำคัญ – Median CPI ในการวิเคราะห์เงินเฟ้อ และแหล่งข้อมูลจาก Cleveland Fed

สรุป

ดัชนีนี้โดดเด่นกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) รูปแบบอื่น ๆ ตรงที่ใช้วิธีคำนวณแบบ “มัธยฐาน” ซึ่งช่วย กรองสัญญาณรบกวนจากราคาที่ผันผวนสูงลิ่ว (เช่น ราคาพลังงานหรืออาหารที่พุ่งขึ้นลงอย่างรวดเร็ว) ทำให้ได้ภาพของ แนวโน้มเงินเฟ้อพื้นฐานที่แท้จริงและยั่งยืน มากกว่า ยิ่งไปกว่านั้น การวัดแบบ “ปีต่อปี” (y/y) ยังช่วยให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว ลดผลกระทบจากความผันผวนตามฤดูกาลที่อาจบิดเบือนภาพในระยะสั้นได้

บทบาทต่อการตัดสินใจลงทุน:

  • คาดการณ์นโยบาย Fed: เนื่องจาก Fed ใช้ Median CPI เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการประเมินเงินเฟ้อและกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ย
  • การติดตามดัชนีนี้จึงเป็นกุญแจสำคัญในการคาดเดาว่า Fed จะมีแนวโน้ม “ขึ้นดอกเบี้ย” “ลดดอกเบี้ย” หรือ “คงดอกเบี้ย” ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยคือปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนตลาดการเงิน

แม้ Median CPI y/y จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่ก็เป็นเพียง “จิ๊กซอว์ชิ้นหนึ่ง” ในภาพรวมของเศรษฐกิจที่ซับซ้อน การลงทุนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้อาศัยแค่การอ่านตัวเลขเดียว แต่ต้องผสานรวมความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์เข้ากับการวิเคราะห์ข้อมูลที่หลากหลาย เช่น ตัวชี้วัดเงินเฟ้ออื่นๆ (Core CPI, PCE), ข้อมูลตลาดแรงงาน, นโยบายการคลัง, และสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลก การตอบสนองอย่างรวดเร็วและชาญฉลาดต่อบริบททางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปต่างหากคือสิ่งที่ทำให้นักลงทุนได้เปรียบ

 

อ้างอิง

  • ธนาคารกลางสาขาคลีฟแลนด์. (2568). Median CPI. https://www.clevelandfed.org/indicators-and-data/median-cpi
  • สำนักสถิติแรงงานสหรัฐอเมริกา. (2568). ดัชนีราคาผู้บริโภค. https://www.bls.gov/cpi/
  • ธนาคารกลางเซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา. (2568). Median Consumer Price Index. FRED ฐานข้อมูลเศรษฐกิจ. https://fred.stlouisfed.org/series/MEDCPIM158SFRBCLE
  • ทีมเศรษฐศาสตร์ ING. (15 มกราคม 2568). Median CPI สะท้อนเงินเฟ้อที่ยั่งยืนท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้า. ING Think. https://think.ing.com/snaps/us-median-cpi-2025

FAQ — Median CPI y/y คืออะไร?

Median CPI วัดอัตราเงินเฟ้อโดยใช้ค่ามัธยฐานของการเปลี่ยนแปลงราคา ออกโดย Cleveland Fed Fed ใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจนโยบายการเงิน เมื่อ Median CPI สูงขึ้น อาจบ่งชี้เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
Year over Year เปรียบเทียบเดือนปัจจุบันกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า ช่วยเห็นแนวโน้มเงินเฟ้อระยะยาวและตัดสินใจลงทุนได้แม่นยำ
Median CPI ใช้มัธยฐาน ลดผลกระทบจากราคาที่ผันผวนสุดขั้ว ส่วน CPI ทั่วไปใช้ค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก Median CPI จึงสะท้อนเงินเฟ้อที่ยั่งยืนกว่า
  • Median CPI สูงกว่าคาด: ดอลลาร์แข็งค่า หุ้นลง ทองลง
  • Median CPI ต่ำกว่าคาด: ดอลลาร์อ่อนค่า หุ้นขึ้น ทองขึ้น
ติดตามแนวโน้ม 6-12 เดือน หาก Median CPI เพิ่มต่อเนื่อง ปรับพอร์ตโดยลดพันธบัตรระยะยาว ใช้ร่วมกับ Core CPI และ PCE ระวังความผันผวนจากราคาพลังงาน

 

เขียนโดย

Rattapoom Jitjaroen

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chonthicha Poomidon