เริ่มต้นบทเรียนวันนี้หลายคนอาจจะเอือมกันไปเลยทีเดียวเพราะว่า ความเสี่ยงเป็นเรื่องของตัวเลขและการคำนวณ การคำนวณความเสี่ยงนั้นได้มีการนำศาสตร์ทางด้านสถิติเข้ามาปรับใช้ในการเทรด Forex
คณิตศาสตร์กับการกระจายความเสี่ยง ในตลาด Forex
ตัวอย่างของวิชาคณิตศาสตร์ที่นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันมีหลากหลาย เช่น วิชาคณิตศาสตร์ประกันภัย คณิตศาสตร์การเงิน หรือคณิตศาสตร์เชิงฟิสิกส์ ส่วนในเรื่อง Forex นั้นคือ มันมีคนเข้ามาในตลาด มุ่งหวังเพื่อที่จะหาโอกาสทำกำไรกันทุกรูปแบบ แต่ละคนก็พยายามที่จะใช้ศาสตร์ของตัวเองในการสร้างผลตอบแทน มันก็ต้องเริ่มจากสิ่งที่เราถนัดที่สุด
วันนี้อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีนะครับ เพราะว่าการกระจายความเสี่ยงที่ผมจะพูดถึงนี้ ผมคงไม่พูดถึงคณิตศาสตร์แบบหนักสมองนัก แต่เอาเป็นหลักการสำคัญที่เรามองข้ามไปและมีการใช้ในตลาด Forex จำนวนมาก จนไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วมันสร้างผลเสียให้กับพอร์ทลงทุนอย่างไม่รู้ตัวกันครับ
การใช้ Limit Order ในการเทรด Forex
จริง ๆ เรื่องนี้หลายคนอาจจะแย้งสำหรับคนที่เป็นสายเทรดจุดกลับตัว แต่ใจเย็น ๆ ก่อน เรามาวางถุงกาวลงแล้วคุยกันด้วยเหตุผลก่อนครับ 555 ^^ ถ้าหากเราเปรียบเทียบการส่งคำสั่ง Pending Order 2 แบบได้แก่ Buy Limit (กราฟลงแล้วขึ้น) และ Buy Stop (กราฟขึ้นแล้วขึ้น) มีคำถามว่า 2 แบบนี้แบบไหนเสี่ยงน้อยกว่ากัน
ผมบอกได้เลยว่า Buy Stop เสี่ยงน้อยกว่า เพราะว่า ในตลาด Forex ที่มีเทรนด์ การส่งออเดอร์ไปข้างหน้าทิศทางเดียวกับเทรนด์ นั้นทำให้ Drawdown น้อยกว่า ขณะที่การส่ง Limit ออเดอร์ มีโอกาสมากกว่าที่เราจะวิเคราะห์จุดกลับตัวผิดพลาด ทำให้ Drawdown ที่เกิดขึ้นมันสูง
มันก็อาจจะยังไม่มีปัญหา ถ้าหากเราส่งออเดอร์ Buy Limit ออเดอร์เดียว แต่เทรดเดอร์ Forex หน้าใหม่มักทำอย่างไร? เทรดเดอร์หน้าใหม่มักจะทำการส่ง Buy Limit เป็นชุดเรียงกันไปลงเป็นตับ ทำให้เกิดเหตุการณ์ว่า เมื่อเวลากราฟมันวิ่งสวนทางเราแล้วไม่กลับ เราจะมีออเดอร์ติดเต็มไปหมด เพราะว่ายิ่งผิดทางแต่เรายังไม่ยอมรับมัน โดยคาดหวังว่ามันจะเกิดจุดกลับตัวอย่างเดียว ผลก็คือจะความเสียหายจำนวนมากในพอร์ท
การส่งออเดอร์รัวๆทีเดียว และทางเดียวกัน
การออกออร์เดอร์ Forex แบบนี้ หลายคนอาจจะงงว่ามันจะไม่ดีได้ยังไง การส่งออเดอร์ รัวๆ ทางเดียวกันแต่คนละราคา ทำให้ Risk Reward ของเรานั้นแย่ลง มันแย่ได้อย่างไร มาดูกันในตัวอย่างนี้
การส่งออเดอร์แบบรัว ๆ นั้นจะนิยมรัว ตามทิศทางของเทรนด์ ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นคือถ้าหากผิดทางโอกาสที่จะพลาดสูง ดังนั้นเราจึงควรวิเคราะห์จุดเข้าเทรดให้ดีแล้วส่งทีเดียวที่จุดที่คิดว่าเป็นจุดที่ดีที่สุด ลองมาพิจารณาตัวอย่างต่อไปนี้
จากภาพที่ 1 แสดงเส้น S1 จะเห็นว่านั่นคือการส่งคำสั่ง Sell จุดแรก S2 และ S3 คือจุด Sell ที่ 2 และ 3 ตามลำดับ การ Sell 3 ชุดแบบนี้ สมมุติสถานการณ์เป็น 2 สถานการณ์ คือ
- Sell ที่ S1 จำนวน 3 Lot นั่นคือ สถานการณ์ที่ 1
- อีกรูปแบบหนึ่งคือ ส่ง 3 order ที่โดยส่ง S1, S2 และ S3 อย่างละ 1 Lot จะเห็นว่า ราคาต้นทุนเฉลี่ยที่ได้ของ 3 Lot คือที่ราคา S2 แล้วในช่วงท้ายราคาขยับปรับฐานไปที่ S2 นั่นคือ เราได้ราคาทุนเลย
แต่ผมบอกว่า Risk Reward แย่ใช่ไหม? มันเป็นยังไง ลองดูถ้าเราเข้า S1 แล้วตั้ง Stop loss สูงขึ้นไป จะเห็นว่า ราคาลงมา การชน Stop loss ก็ยากกว่า กำไรเยอะกว่า เพราะเข้าทีเดียว 3 Lot จุด Stop loss ก็สูงกว่า คงพอเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงเสี่ยงมากกว่า
การส่งออเดอร์ Forex แบบตะกร้าที่มีค่าเงินเดียวกัน
ผมเคยเห็นหลายคนพยายามลดความเสี่ยงในการเทรด Forex โดยเทรดค่าเงินหลายค่าเงิน เพื่อที่จะทำกำไรให้ได้บ่อยครั้ง ซึ่งจะเข้าตามจังหวะ หรือเลือกที่จะเข้าเทรดพร้อมกันเพื่อกระจายความเสี่ยง อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาทำนั้น มันแตกต่างออกไปจากการกระจายความเสี่ยงแบบปกติ นั่นคือ การส่งคำสั่งค่าเงินซ้ำกัน การส่งค่าเงินซ้ำกันเป็นอย่างไรเรามาดูตัวอย่างครับ
Buy : AUDUSD, EURUSD , GBPUSD
ในขณะเดียวกันก็
Sell : EURGBP, EURJPY, USDJPY
เรามาวิเคราะห์ดูความสัมพันธ์จากตัวอย่าง 2 ชุดนี้ สิ่งที่เราต้องทำก่อนเลยคือการนับจำนวนทิศทาง Order ที่ซ้ำกัน
- เรามี Buy USD เกิดขึ้น 4 ครั้งจากการ Buy AUDUSD, Buy EURUSD, Buy GBPUSD และ Sell USDJPY
- เรามี Buy EUR อยู่ 1 ครั้งจาก Buy EURUSD
- เรามี Sell EUR อยู่ 2 ครั้งจาก Sell EURGBP และ Sell EURJPY
ซึ่งถ้าหากค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น (นั่นคือ AUDUSD, EURUSD , GBPUSD และ USDJPY Ý) ไอ้การที่เรา Buy USD ไว้ จะทำให้พอร์ทเราผิดทางอย่างมหาศาลโดยที่เราไม่รู้ตัว แถมยังไม่พอ เรายังไม่ทราบน้ำหนักของมันอีกต่างหากว่ามีผลขนาดไหน เพราะว่ากำไรต่อจุดของแต่ละคู่เงินนั้นแตกต่างกัน ทำให้เราไม่สามารถควบคุมความเสี่ยงอะไรได้เลยตั้งแต่ต้น
สรุป
การควบคุมหรือกระจายความเสี่ยงในการลงทุนในตลาด Forex นั้นสามารถทำได้หลายวิธี อย่างไรก็ตามเราก็สามารถเห็นการกระจายความเสี่ยงที่ผิดวิธีที่เกิดขึ้นในตลาดได้อยู่บ่อย ๆ ในบทความนี้เรายกตัวอย่าง การกระจายความเสี่ยงในตลาดที่ผิดวิธีจำนวน 3 วิธี นั่นคือ การใช้ Limit ออเดอร์ในการส่งคำสั่ง หมายความว่าเมื่อตลาดมีเทรนด์คุณก็จะส่งคำสั่งผิดพลาดซ้ำ ๆ
ขณะที่อีกวิธีหนึ่งคือ การส่งออเดอร์รัว ๆ โดยราคาที่แตกต่างกัน จะทำให้ต้นทุนการเทรดของคุณสูงขึ้น และ Risk Reward ก็ไม่ได้เปรียบในการเทรด ดังนั้นในการเทรด Forex นั้น สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องคิดถึง คือความน่าจะเป็นและโอกาสในการทำกำไรได้ ซึ่งก็ต้องคิดถึงจุดตัดขาดทุนและจุดทำกำไร การส่งออเดอร์รัว ๆ ทำให้ราคาเฉลี่ยสูงขึ้น แต่ว่ากำไรที่ได้กลับลดลง เพื่อให้การเทรดนั้นสร้างความได้เปรียบให้กับเรา จึงควรวิเคราะห์ให้ดีก่อนออกไม้คราวเดียวไปมันได้เปรียบกว่าการออกหลายๆไม้
สุดท้าย การส่งคำสั่งหลายค่าเงินเพื่อลดความเสี่ยง เป็นสิ่งที่นิยมทำกันในหมู่รายย่อย แต่ไม่ทราบจริง ๆ ว่าจริง ๆ แล้วมันคือการเพิ่มความเสี่ยงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นการจะกระจายความเสี่ยงเราต้องเข้าใจเสียก่อนว่า มันลดความเสี่ยงของเราได้อย่างไร หรือได้จริงอย่างที่เราคิดหรือไม่