การลงทุนในตลาด Forex นั้นกลายเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากพอก็มีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ดังนั้นเพื่อช่วยลดความยุ่งยากและเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในตลาด Forex โบรกเกอร์หลายแห่งจึงได้นำเสนอเครื่องมือการลงทุนอย่าง บัญชี PAMM และ บัญชี MAM ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการใช้บริการของผู้เชี่ยวชาญในการบริหารจัดการเงินทุนซึ่งจะมีโมเดลการลงทุนที่น่าสนใจยังไงไปรับชมกันเลย

บัญชี PAMM คืออะไร

รูปที่ 1 รูปภาพอธิบายความหมายว่าบัญชี PAMM คืออะไร

ความหมายของบัญชี PAMM

  • บัญชี PAMM ย่อมาจาก Percent Allocation Management Module ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถนำเงินทุนของตนมอบให้กับผู้จัดการเงินทุนที่มีความเชี่ยวชาญในการเทรด Forex 
  • โดยระบบ PAMM จะช่วยจัดการเงินทุนของนักลงทุนหลายคนรวมกันไว้ในบัญชีเดียว และกระจายผลกำไรหรือขาดทุนให้กับนักลงทุนแต่ละคนตามสัดส่วนเงินลงทุนที่กำหนดไว้
  • รูปแบบการทำงานของ PAMM คือ ผู้จัดการเงินทุน (Money Manager) จะใช้เงินทุนที่รวบรวมมาเทรดในตลาด Forex 
  • นักลงทุนไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือทักษะในการเทรด
  • ผู้จัดการเงินทุนจะได้รับค่าตอบแทนในรูปแบบของค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งกำไรจากผลตอบแทนที่ทำได้

วิธีการทำงานของบัญชี PAMM

  1. การรวมเงินทุน
    นักลงทุนจะต้องทำการฝากเงินของตนเองนั้นเข้าในระบบ PAMM โดยระบบจะรวบรวมเงินทุนทั้งหมดไว้ในบัญชีของผู้จัดการเงินทุน
  2. การเทรดโดยผู้จัดการเงินทุน
    ผู้จัดการเงินทุนจะทำการเทรด Forex โดยใช้กลยุทธ์ที่วางไว้ และผลกำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้นจะถูกกระจายให้นักลงทุนแต่ละรายตามสัดส่วนเงินทุน
  3. บทบาทของโบรกเกอร์
  • โบรกเกอร์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการจัดการระบบ PAMM
  • ให้ความโปร่งใสในเรื่องของผลการดำเนินงาน
  • ควบคุมการกระจายกำไรและขาดทุนอย่างยุติธรรม
  • ตัวอย่างเช่น หากคุณลงทุน 10% ของเงินทุนรวมในระบบ PAMM คุณจะได้รับกำไรหรือขาดทุน 10% ของผลการดำเนินงานทั้งหมดที่ผู้จัดการเงินทุนทำได้ เป็นต้น

ใครเหมาะกับการใช้บัญชี PAMM

  • นักลงทุนที่ไม่มีเวลาศึกษา Forex อย่างลึกซึ้ง
  • เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในตลาด Forex แต่ไม่มีเวลาหรือความรู้เพียงพอในการวิเคราะห์ตลาดและเทรดด้วยตนเอง
  • เทรดเดอร์ที่มีความเชี่ยวชาญและต้องการบริหารเงินทุนจากนักลงทุน 
  • ผู้จัดการเงินทุนที่มีประสบการณ์และต้องการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้จากการเทรดโดยการจัดการเงินทุนของนักลงทุนหลายราย

รูปที่ 2 รูปภาพอธิบายความหมายว่าบัญชี MAM คืออะไร

ความหมายของบัญชี MAM

  • บัญชี MAM ย่อมาจาก Multi-Account Manager ซึ่งเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้จัดการเงินทุนสามารถบริหารจัดการหลายบัญชีพร้อมกันได้ในแพลตฟอร์มเดียว 
  • โดยแต่ละบัญชีสามารถปรับแต่งการลงทุนตามความต้องการของนักลงทุนแต่ละคนได้

ความแตกต่างระหว่าง MAM และ PAMM อย่างง่าย

  • บัญชี PAMM จะรวมเงินทุนทั้งหมดไว้ในบัญชีเดียวและกระจายกำไรหรือขาดทุนตามสัดส่วนของเงินลงทุน
  • บัญชี MAM ช่วยให้ผู้จัดการเงินทุนสามารถจัดการบัญชีของนักลงทุนแต่ละรายแยกกัน และสามารถปรับเลเวอเรจหรือเงื่อนไขการลงทุนให้เหมาะสมกับแต่ละบัญชี
  • MAM จึงมีความยืดหยุ่นมากกว่า PAMM เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการการบริหารเงินทุนเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น

วิธีการทำงานของบัญชี MAM

  1. การจัดการหลายบัญชีในแพลตฟอร์มเดียว
    • ผู้จัดการเงินทุนสามารถดูแลบัญชีของนักลงทุนหลายบัญชีพร้อมกัน
    • ใช้แพลตฟอร์มการเทรดเดียว เช่น MetaTrader 4 หรือ MetaTrader 5 เพื่ออำนวยความสะดวก
  2. ความยืดหยุ่นในการกำหนดเลเวอเรจ
    • ผู้จัดการสามารถปรับเลเวอเรจให้แตกต่างกันสำหรับแต่ละบัญชีได้
    • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงหรือเป้าหมายผลตอบแทนที่แตกต่างกันออกไป
  3. การเทรดโดยรวมในบัญชีหลัก
    • การเทรดทั้งหมดจะดำเนินการผ่านบัญชีหลักของผู้จัดการเงินทุน
    • ผลกำไรและขาดทุนจะถูกกระจายไปยังบัญชีของนักลงทุนตามสัดส่วนการลงทุนที่กำหนด

ใครเหมาะกับการใช้บัญชี MAM

  • ผู้จัดการกองทุนที่ดูแลนักลงทุนหลายกลุ่ม 
  • เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการจัดการบัญชีจำนวนมากจากนักลงทุนที่มีเป้าหมายหลากหลาย
  • สำหรับนักลงทุนที่ต้องการให้ผู้จัดการเงินทุนปรับแผนการลงทุนเฉพาะบุคคล เช่น การตั้งค่าความเสี่ยงหรือเลเวอเรจให้เหมาะสมกับเป้าหมายของตนเอง

เปรียบเทียบบัญชี PAMM และ MAM

สิ่งที่ PAMM และ MAM เหมือนกัน

  • ช่วยให้นักลงทุนไม่ต้องเทรดด้วยตัวเอง
  • บัญชีทั้ง PAMM และ MAM ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักลงทุนที่ไม่มีเวลาหรือความเชี่ยวชาญในการเทรดด้วยตัวเอง
  • เงินลงทุนจะถูกจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญหรือผู้จัดการเงินทุน
  • ต้องให้ความสำคัญของการเลือกผู้จัดการเงินทุนที่มีประสบการณ์เหมือนกัน
  • ความสำเร็จของการใช้บัญชีทั้งสองประเภทขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้จัดการเงินทุนเป็นหลัก การเลือกผู้จัดการที่มีประวัติการเทรดที่ดีและโปร่งใสจึงเป็นสิ่งสำคัญ

สิ่งที่ PAMM และ MAM แตกต่างกัน

  • วิธีการจัดสรรกำไรและขาดทุน
  • บัญชี PAMM การจัดสรรกำไรและขาดทุนจะถูกกระจายตาม สัดส่วนเงินลงทุน ของนักลงทุนแต่ละคนในระบบ รวมเงินทั้งหมดไว้ในบัญชีเดียว
  • บัญชี MAM กำไรและขาดทุนจะถูกจัดสรรตามการตั้งค่าเฉพาะของแต่ละบัญชี ทำให้สามารถปรับแต่งตามความต้องการของนักลงทุนแต่ละรายได้
  • ความยืดหยุ่นในการจัดการบัญชี
  • บัญชี PAMM มีการรวมเงินทุนทั้งหมดไว้ในบัญชีเดียว ทำให้มีข้อจำกัดในการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขเฉพาะบุคคล
  • บัญชี MAM ผู้จัดการเงินทุนสามารถปรับเลเวอเรจและเงื่อนไขต่าง ๆ ให้แตกต่างกันสำหรับแต่ละบัญชี เหมาะกับนักลงทุนที่มีเป้าหมายและระดับความเสี่ยงที่หลากหลาย

สรุป

บัญชี PAMM และ MAM ต่างก็เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในตลาด Forex ครับ โดยจะช่วยให้นักลงทุนที่ขาดความเชี่ยวชาญหรือไม่มีเวลามากพอ สามารถมีส่วนร่วมในตลาดการเงินที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งจะสามารถสรุปสั้นๆถึงความสำคัญได้ดังนี้

  • บัญชี PAMM เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโซลูชันการลงทุนแบบเรียบง่าย โดยการจัดสรรผลกำไรและขาดทุนจะเป็นไปตามสัดส่วนเงินลงทุน 
  • บัญชี MAM เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความยืดหยุ่นและปรับแต่งแผนการลงทุนเฉพาะบุคคล หรือสำหรับผู้จัดการกองทุนที่ดูแลกลุ่มนักลงทุนหลากหลาย 

ดังนั้นแล้วจะเห็นได้ครับว่าทั้งสองบัญชีนี้มีเป้าหมายเดียวกัน คือการสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจและลดความยุ่งยากในการลงทุนของนักลงทุนลงไปได้มาก เพราะฉะนั้นการเลือกใช้บัญชีประเภทใดจึงขึ้นอยู่กับ เป้าหมายการลงทุน ความสะดวกสบาย และระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้นั่นเองครับ

ข้อมูลแหล่งอ้างอิง

  1. Investopedia. How forex PAMM accounts work.
  2. Forex Factory. Money manager license for PAMM and MAM systems. https://www.forexfactory.com/thread/565942-money-manager-license-for-pamm-and-mam-systems
  3. Soft-FX. PAMM, LAMM, and MAM: A detailed comparison. https://www.soft-fx.com/blog/pamm-lamm-and-mam/

 

เขียนโดย

Poomipat Wonganun

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chatchawal Nakcharoen