เส้นทางสู่ความสำเร็จของ Ray Dalio และการก่อตั้ง Bridgewater

เริ่มต้นจากบ้าน: จุดเริ่มต้นของ Bridgewater ในปี 1975

  • การก่อตั้ง Bridgewater
    • ในปี 1975, Ray Dalio ก่อตั้ง Bridgewater Associates จากที่บ้านของเขาในนิวยอร์ก
    • มีเป้าหมายในการสร้างกองทุนที่ไม่เหมือนใคร
    • การเริ่มต้นที่บ้านในขนาดเล็กทำให้ Dalio สามารถพัฒนากลยุทธ์และทดสอบแนวคิดต่าง ๆ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความกดดันจากภายนอก
  • การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในยุคนั้น
    • ในยุคนั้นการใช้คอมพิวเตอร์ยังไม่แพร่หลาย
    • Dalio ใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ในตอนนั้นเพื่อทำการวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจจากทั่วโลก
    • การใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างกลยุทธ์การลงทุนที่มีพื้นฐานจากความเข้าใจเชิงลึกของเศรษฐศาสตร์
  • วิสัยทัศน์แรกเริ่ม
    • Dalio ตั้งใจที่จะสร้างกองทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนได้สูงในทุกสภาวะตลาด
    • ไม่ต้องพึ่งพาการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นหรือสินทรัพย์เพียงอย่างเดียว
    • การที่ Bridgewater เริ่มต้นจากบ้านทำให้ Dalio สามารถควบคุมกลยุทธ์การลงทุนได้อย่างเต็มที่ และค่อย ๆ สร้างความสำเร็จในระยะยาว

ภาพแสดงถึงรายละเอียดการก่อตั้ง Bridgewater ที่ก่อตั้งโดย Ray Dalio

หลักการที่เป็นเอกลักษณ์: วิธีคิดและการลงทุนของ Dalio

  • “Pure Alpha” กลยุทธ์การลงทุน
    • Dalio พัฒนา “Pure Alpha” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เน้นการสร้างผลตอบแทนที่สูงโดยไม่ต้องพึ่งพาการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นหรือสินทรัพย์เพียงอย่างเดียว
    • เขาเชื่อว่า การกระจายการลงทุนไปยังหลายสินทรัพย์ สามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
  • การใช้การวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์มหภาค
    • Dalio ให้ความสำคัญกับการศึกษาข้อมูลเศรษฐกิจที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาด
    • มักใช้ปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค (macroeconomics) เช่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย หรือการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในประเทศต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์ทิศทางของตลาด
  • การเรียนรู้จากประสบการณ์
    • Dalio เชื่อในการ “Radical Transparency” หรือการเปิดเผยข้อมูลและความคิดเห็นภายในทีม
    • ทำให้ทุกคนเข้าใจการตัดสินใจอย่างลึกซึ้งและสามารถเรียนรู้จากข้อผิดพลาดได้ดีขึ้น
    • เน้นการพัฒนากลยุทธ์ที่มีพื้นฐานจากความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

การเรียนรู้จากความผิดพลาด: ผลกระทบจากการทดสอบและปรับกลยุทธ์

  • การเผชิญหน้ากับความล้มเหลว
    • ในช่วงแรกของการก่อตั้ง Bridgewater Dalio ต้องเผชิญกับความล้มเหลวหลายครั้ง
    • รวมถึงการพลาดโอกาสในการคาดการณ์ตลาดและการขาดทุนจากการลงทุนบางรายการ
    • แต่เขาใช้ประสบการณ์เหล่านี้เพื่อเรียนรู้และปรับกลยุทธ์ของเขาให้ดียิ่งขึ้น
  • การทดสอบกลยุทธ์
    • Dalio เชื่อในการทดสอบกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อหาจุดที่ดีที่สุดในการลงทุน
    • การทดลองใช้หลายกลยุทธ์ในช่วงเวลาต่าง ๆ ทำให้เขาสามารถปรับปรุงแนวทางการลงทุนที่ตอบโจทย์ทุกสภาวะตลาด
  • การปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์
    • ความสำเร็จของ Bridgewater มาจากความสามารถในการปรับกลยุทธ์อย่างรวดเร็วตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจและตลาด
    • การเรียนรู้จากความผิดพลาดและการปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องช่วยให้ Bridgewater สามารถอยู่รอดและเติบโตในอุตสาหกรรมการเงินที่มีการแข่งขันสูง

ภาพแสดงอัตราผลตอบแทนรายปีของ Bridgewater Pure Alpha

การเทรด Forex สไตล์ Ray Dalio แนวคิดและกลยุทธ์ระดับโลก

  • การใช้ข้อมูลเศรษฐศาสตร์มหภาค
    • Dalio ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐศาสตร์มหภาคในการตัดสินใจลงทุน
    • เขาเชื่อว่าเข้าใจตัวแปรทางเศรษฐกิจระดับโลก เช่น อัตราดอกเบี้ย, นโยบายการเงิน, และ GDP จะช่วยคาดการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินได้แม่นยำ
    • การเข้าใจเศรษฐกิจในระดับโลกช่วยให้ Dalio ทำนายทิศทางของ ตลาด Forex ได้ดีขึ้น
  • กลยุทธ์การกระจายความเสี่ยง
    • Dalio ใช้การกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์เพื่อไม่พึ่งพาผลตอบแทนจากสินทรัพย์เพียงประเภทเดียว
    • รวมถึงการลงทุนใน Forex และการติดตามความเคลื่อนไหวของค่าเงินหลายคู่
    • การกระจายความเสี่ยงช่วยลดความผันผวนและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว
  • การเข้าใจวัฏจักรเศรษฐกิจ
    • Dalio ใช้แนวคิดเรื่อง “Big Cycle” หรือวงจรเศรษฐกิจใหญ่
    • การศึกษาวัฏจักรเศรษฐกิจในแต่ละประเทศและการเชื่อมโยงระหว่างประเทศต่าง ๆ
    • การจับจังหวะการเปลี่ยนแปลงของวงจรเศรษฐกิจทำให้การเทรดมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น
  • การใช้ข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์พื้นฐาน
    • Dalio วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานที่สนับสนุนจากข้อมูลจริง เช่น ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ, การค้าระหว่างประเทศ และสถานการณ์ภายในประเทศที่มีผลกระทบต่อค่าเงิน
    • เขามักใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อทำนายการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการเงินของธนาคารกลางและผลกระทบในระดับโลก
  • การตัดสินใจตามหลักการและแนวคิด
    • สไตล์การเทรดของ Dalio เน้นการตัดสินใจตามหลักการที่เขาพัฒนาขึ้น เช่น “Principles” เพื่อช่วยให้มีการตัดสินใจที่โปร่งใสและเป็นระบบ
    • หลักการเหล่านี้ช่วยให้เขาหลีกเลี่ยงการตกหลุมพรางจากอารมณ์และการตัดสินใจที่ไม่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบ
  • การจัดการกับความเสี่ยง
    • Dalio ให้ความสำคัญกับการจัดการความเสี่ยงอย่างมีระเบียบ
    • การวิเคราะห์ความเสี่ยงจากหลายมุมมองและการมีแผนรองรับสถานการณ์ไม่คาดคิดช่วยลดโอกาสในการขาดทุนและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว
  • การเรียนรู้จากความผิดพลาด
    • Dalio มักเน้นให้เรียนรู้จากความผิดพลาดและใช้ประสบการณ์เหล่านั้นในการปรับปรุงกลยุทธ์การเทรด
    • การรับรู้ถึงข้อผิดพลาดในอดีตช่วยให้การตัดสินใจในอนาคตมีความรอบคอบมากขึ้น
  • การใช้เทคนิคและกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่น
    • Dalio ใช้กลยุทธ์ที่สามารถปรับตัวได้ตามสถานการณ์
    • สไตล์การเทรดของเขามีการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและการเปลี่ยนแปลงในตลาดอย่างรวดเร็ว

ภาพแสดงถึงรายละเอียดการเทรดในสไตล์ของ Ray Dalio

ตัวอย่างการเทรด Forex สไตล์ Ray Dalio

  • การวิเคราะห์อัตราดอกเบี้ยและการเงินของธนาคารกลาง
    • หาก Dalio มองเห็นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) มีแผนที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
    • ขณะที่ธนาคารกลางของยูโรโซน (ECB) ยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ
    • Dalio อาจเลือกที่จะขาย EUR/USD หรือซื้อ USD/EUR เพื่อทำกำไรจากการแข็งค่าของ ดอลลาร์สหรัฐ
  • การใช้การวิเคราะห์เศรษฐกิจในประเทศจีน
    • หาก Dalio คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตและนโยบายการเงินเป็นมิตรกับการลงทุน
    • เขาอาจเลือกที่จะซื้อ CNY/USD หรือขาย USD/CNY โดยใช้ข้อมูลเศรษฐกิจจีน
  • การใช้ข้อมูลเชิงลึกจากตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
    • หาก Dalio คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้นจากปัญหาด้านอุปทานหรือความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
    • Dalio อาจเลือกที่จะซื้อ CAD/USD หรือขาย USD/CAD เนื่องจากความสัมพันธ์ของเศรษฐกิจแคนาดากับราคาน้ำมัน
  • การป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนในตลาด
    • หาก Dalio คาดการณ์ว่าตลาดจะมีความผันผวน เช่น การเกิดวิกฤตการเงินหรือปัญหาทางการเมืองในประเทศสำคัญ
    • เขาอาจเลือกที่จะซื้อ JPY/USD หรือซื้อ CHF/USD เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวน
  • การใช้หลักการ “Pure Alpha” ในการเทรด Forex
    • Dalio ใช้การกระจายความเสี่ยงและคาดการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินตามแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค
    • เขาอาจเลือกลงทุนในหลายสกุลเงิน เช่น USD, JPY, GBP เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของค่าเงินเดียว
  • การ เทรด Forex สไตล์ Ray Dalio เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคและการกระจายความเสี่ยง
  • เขาคาดการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินตามแนวโน้มเศรษฐกิจระยะยาว และเลือกใช้หลายคู่สกุลเงินเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด

สร้างกลยุทธ์การลงทุนที่ยั่งยืนด้วยปรัชญาของ Ray Dalio

  • การสร้างกลยุทธ์การลงทุนที่ยั่งยืนตามปรัชญาของ Ray Dalio เน้นที่การเข้าใจและใช้หลักการพื้นฐาน
    • เศรษฐศาสตร์มหภาค 
    • การกระจายความเสี่ยง 
    • และการจัดการกับความเสี่ยงอย่างมีระเบียบ 
    • การเรียนรู้จากประสบการณ์และความผิดพลาดในการลงทุน เพื่อให้สามารถปรับตัวและสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว

การวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์มหภาค (Macroeconomic Analysis)

  • การเข้าใจปัจจัยเศรษฐกิจใหญ่ที่ส่งผลต่อตลาดการเงิน เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจ, อัตราดอกเบี้ย, การขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล, และนโยบายการเงินของธนาคารกลางในประเทศต่าง ๆ
  • ใช้การวิเคราะห์เศรษฐกิจระดับโลกเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยเฉพาะสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจมหภาค เช่น สกุลเงิน, ทองคำ, และพันธบัตร

การกระจายความเสี่ยง (Risk Diversification)

  • การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภทเพื่อไม่ให้พึ่งพาผลตอบแทนจากสินทรัพย์ประเภทเดียว
  • สร้างพอร์ตการลงทุนที่ประกอบด้วยสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น การลงทุนในหุ้น, พันธบัตร, ทองคำ, และสกุลเงินต่างประเทศ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาด

การคาดการณ์ตามวัฏจักรเศรษฐกิจใหญ่ (Big Economic Cycles)

  • การเข้าใจและติดตามวงจรเศรษฐกิจใหญ่ที่เกิดขึ้นในระดับโลก เช่น วัฏจักรการขยายตัวและการหดตัวของเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ
  • ใช้การวิเคราะห์วัฏจักรเศรษฐกิจของประเทศหลัก ๆ เช่น สหรัฐฯ, จีน, และประเทศในสหภาพยุโรป เพื่อคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจและผลกระทบต่อตลาดการเงิน

การใช้กลยุทธ์การลงทุนระยะยาว (Long-Term Investment Strategy)

  • Dalio เน้นการลงทุนระยะยาวโดยไม่ยึดติดกับการคาดการณ์ในระยะสั้น แต่ให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานที่มีผลต่อการเติบโตของตลาดการเงินในระยะยาว
  • เน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีการเติบโตในระยะยาว และหลีกเลี่ยงการลงทุนที่ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางเทคนิคหรือความผันผวนของตลาดในระยะสั้น

การจัดการกับความเสี่ยง (Risk Management)

  • การควบคุมความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการลงทุน ซึ่ง Dalio ใช้การจัดการความเสี่ยงที่มีระเบียบและเป็นระบบ
  • ใช้เครื่องมือการจัดการความเสี่ยง เช่น การตั้ง Stop Loss, การกระจายการลงทุน, และการติดตามความเสี่ยงจากหลายมุมมอง เพื่อให้มั่นใจว่าพอร์ตการลงทุนจะไม่เสี่ยงเกินไป

การเรียนรู้จากความผิดพลาด (Learning from Mistakes)

  • Dalio เชื่อว่า “ความผิดพลาด” คือโอกาสในการเรียนรู้และปรับปรุงกลยุทธ์การลงทุนให้ดีขึ้น
  • ใช้ประสบการณ์จากการลงทุนในอดีตเพื่อปรับปรุงการตัดสินใจในการลงทุนในอนาคต โดยการทบทวนผลลัพธ์และการประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

หนึ่งในกลยุทธ์ของ Ray Dalio คือ การป้องกันความเสี่ยงขณะตลาดผันผวน จะเลือกซื้อ JPY/USD เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการผันผวน

คลิปที่น่าสนใจ 

คลิปแนะนำ 5 คำสอน จาก Ray Dalio : King of Hedge Funds เจ้าของ Bridgewater Associates กองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก สรุปมาจากช่อง Blue O’Clock เป็นที่เรียบร้อย 

สรุป 

การใช้แนวคิดของ Ray Dalio ในการลงทุนหรือเทรดถือว่า “ดีมากและยั่งยืนในระยะยาว” เพราะเป็นแนวคิดที่มีโครงสร้างชัดเจน เน้นความเข้าใจพื้นฐานเศรษฐกิจ มองภาพรวมแบบระบบ ไม่ใช้อารมณ์ตัดสินใจ และเปิดใจเรียนรู้จากความผิดพลาด ซึ่งช่วยลดความเสี่ยง ฟื้นตัวไวจากการขาดทุน และพัฒนาวิธีคิดให้ลึกซึ้งขึ้น เหมาะอย่างยิ่งกับนักเทรดที่ต้องการเติบโตอย่างมั่นคงในตลาดที่ผันผวนตลอดเวลา

อ้างอิง

FAQ  — เทรด Forex สไตล์ Ray Dalio: ใช้แนวคิดระดับโลกกับตลาดค่าเงิน

เขาเทรดได้ทั้งสองทาง (Long และ Short) ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด + การวิเคราะห์ = ความเข้าใจทิศทางของระบบเศรษฐกิจ เพราะเขาเชื่อว่า ราคาคือผลลัพธ์ของสิ่งที่เศรษฐกิจกำลังทำงานอยู่ข้างหลัง คิดแบบ Dalio ต้องเข้าใจระบบก่อน แล้วค่อยเลือกฝั่ง เช่น ถ้า Dalio เห็นว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยแรง ดอลลาร์น่าจะแข็ง EUR/USD จะอ่อน มีมุมมอง Short EUR/USD
มีบ้าง (แต่ไม่ใช่แบบเรียลไทม์แน่นอน) กองทุน Bridgewater Associates ของเขา จะต้องรายงานการถือครองหุ้น (ผ่านเอกสาร 13F) ให้ SEC เป็นรายไตรมาส แต่นี่เป็นข้อมูลเฉพาะหุ้นในตลาดสหรัฐฯ และเป็นข้อมูลที่ล่าช้าไปแล้ว ไม่ใช่การเทรดปัจจุบัน และไม่ครอบคลุมถึงการเทรด Forex ถ้าอยากเดา Forex ของเขา ต้องดูสัมภาษณ์ + เอกสาร Whitepaper + แนวโน้มเศรษฐกิจที่เขาโพสต์ใน LinkedIn + ศึกษา “หลักการ (Principles)” + แล้วจับไปแมปกับคู่เงินที่เกี่ยวข้อง สร้าง Watchlist ของคุณเอง
ไม่ได้ ขนาด Ray Dalio เจ้าตัวเองก็เคยมีช่วงที่ขาดทุนหรือตัดสินใจผิดพลาด แต่สามารถการันตีว่าคุณจะเข้าใจว่าทำไมถึงขาดทุน สิ่งที่ Ray Dalio เน้นคือ: “Pain + Reflection = Progress” ทำให้การเทรดแบบ Dalio ต้อง “เข้าใจและมีเหตุผล” เพื่อเอาชนะตลาดได้ในระยะยาว ไม่ใช่เทรดแบบ “เสี่ยงโชค” ทุก 15 วันแบบหวย
เงินทุน, เครื่องมือ, ทีมงาน, TF ที่ใช้ในการลงทุน, และการเข้าถึงข้อมูล คือ สิ่งที่ Ray Dalio มีแตกต่างจากรายย่อยส่วนใหญ่มาก สิ่งที่จะทำให้ “เวิร์ค” และเป็นประโยชน์สำหรับรายย่อยคือ “การนำหลักการและปรัชญา” ของ Ray Dalio มาปรับใช้ เช่น การวิเคราะห์ Macroeconomics, การกระจายความเสี่ยง, RM/MM, ไปจนถึง mindset ทั้งการจดบันทึกและเรียนรู้จากความผิดพลาด
  • ความเข้าใจผิด #1: Ray Dalio คือเทรดเดอร์สายพื้นฐาน

วามจริง: เขาเป็น “นักสร้างระบบความเข้าใจเชิงมหภาค (macro framework)” ไม่ใช่แค่คนวิเคราะห์ข่าว

  • ความเข้าใจผิด #2: เทรดตาม Dalio ต้องทำนายเศรษฐกิจโลกได้เป๊ะ

ความจริง: Dalio เน้น “เข้าใจโครงสร้าง” มากกว่าการเดาว่าตลาดจะขึ้นหรือลง

  • ความเข้าใจผิด #3: Dalio เชื่อว่ามีพอร์ตเดียวที่ใช้ได้ตลอดชีวิต

ความจริง: เขาพูดถึง “พอร์ตที่ปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์” ไม่ใช่พอร์ตตายตัว เช่น All Weather Portfolio สภาพเศรษฐกิจ 4 แบบ ที่ยังไงก็ต้องปรับตามตาม context โลก

  • ความเข้าใจผิด#4: Ray Dalio ประสบความสำเร็จเพราะความแม่นยำ

ความจริง: เขาประสบความสำเร็จเพราะเขา “รู้จักเรียนจากความผิดพลาด

 

เขียนโดย

Somchai Witthtaya

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chonthicha Poomidon