ระบบเทรดสำหรับเทรดเดอร์ดุดัน
คือ การเทรดของเทรดเดอร์ที่มีความดุดัน เทรดเดอร์จะต้องสามารถออกแบบระบบเทรดให้เหมาะกับเทรดเดอร์เอง โดยเทรดเดอร์ที่ใช้อารมณ์ในการเทรด จะต้องรู้จักว่าจะหยุดตัวเองได้อย่างไร ในบทความนี้นำเสนอ การออกแบบระบบให้เข้ากับการเทรด และลักษณะนิสัยของเทรดเดอร์แต่ละประเภทสำหรับเทรดเดอร์ที่มีความดุดันนั้น จะต้องออกแบบระบบให้สอดคล้องกับอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน การเลือก Time Frame ต้องเลือกระยะสั้น การออกแบบเวลาต้องเลือกเวลาที่ดีและไม่เทรดทั้งวัน เพราะว่า อารมณ์ที่ใจร้อนไม่สามารถกำหนดสมาธิให้นิ่งเป็นเวลานาน ดังนั้น การออกแบบระบบเทรดก็ต้องคำนึงถึงจุด Stop loss และ Take Profit เพื่อป้องกันภาวะอารมณ์เข้าแทรกแซงทำให้การเทรดนั้นผิดพลาดจนล้างพอร์ทได้
สำหรับระบบเทรดเดอร์ดุดันประเภทนี้ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการออกแบบระบบเทรดนั้น มีได้หลายรูปแบบและแตกต่างกันไป การเป็นเทรดเดอร์ที่ดุดัน คือ คนที่มีอารมณ์ใจร้อน คนที่อยากจะทำกำไรเร็วๆ ไม่อยากจะรอในตลาดนาน การเทรดใน Time Frame ที่ยาวจะทำให้เกิดความหงุดหงิดในการเทรด หรืออาจจะเป็นสิ่งที่เราต้องทำเป็นอันดับแรก คือ การสร้างแผนการเทรด และการสร้างระบบเทรด
สำหรับคนที่ไม่ได้อ่านแผนการเทรดสำหรับเทรดเดอร์ที่ดุดัน คงต้องย้อนไปอ่านบทเรียนแผนการเทรดสำหรับเทรดเดอร์ที่ดุดันเสียก่อนเพราะว่า ท่านจะไม่เข้าใจที่ผมพูดถึงนี้เลย เรามาดูองค์ประกอบของการสร้างระบบเทรดสำหรับเทรดเดอร์ที่ดุดันตาม Frame ที่เรากำหนดในการกำหนดระบบเทรดก่อน
การเข้าเทรด
การเข้าเทรด เป็นสิ่งที่เราต้องทำการกำหนด ในการเป็นเทรดเดอร์แบบดุดัน คือ Time Frame การเทรด Time Frame ใหญ่ไม่เหมาะมากนัก Time Frame ที่เหมาะสมคือ กราฟ 5 นาที ทำไมถึงต้อง 5 นาที เพราะว่า กราฟ 5 นาทีนั้น มีระยะ Spread ที่ไม่กว้างเกินไป เราจะรู้ได้อย่างไรว่า Spread ไม่กว้าง ให้ดูจากระยะห่างของ Spread ใน Time Frame เล็กเมื่อเทียบกับ Time Frame ใหญ่
เมื่อกำหนดระยะแล้วสิ่งที่ต้องกำหนดต่อไป คือ จุดเข้าเทรด การกำหนดจุดเข้าเทรดของเทรดเดอร์สายนี้นั้นควรจะเป็นเทรดเดอร์สายเทรดสั้น ควรศึกษาพฤติกรรมของกราฟและราคา โดยที่เราต้องดูเวลาปิดและเปิดค่าเงิน ในระบบเทรดนี้เราใช้ค่าเงิน EURUSD และช่วงเวลาปิดเปิดตลาดที่เหมาะสมของค่าเงินนี้คือ หลัง 2 ทุ่มของบ้านเราเพราะมันคือเวลาตลาดเปิดของตลาดสหรัฐฯ
โดยเงื่อนไขต่อไปคือ เวลาเทรดตั้งแต่ 2 ทุ่ม – 5 ทุ่มเท่านั้น คือ 3 ชั่วโมงแรกของตลาดสหรัฐฯเปิด โดยระบบของเราจะทำการเทรดแบบมี Stop loss และมี Take Profit เพราะเนื่องจากเทรดเดอร์ประเภทนี้เป็นคนที่มีอารมณ์เป็นใหญ่ เราต้องทำการป้องกันตัวเอง
การส่ง Lot ใช้ขนาด Lot แบบคงที่ เทรดแบบไม่เอาคืน สามารถเทรดได้วันละ 1 ออเดอร์เท่านั้น ขนาด 1 ออเดอร์เท่ากับ ขนาดบัญชีเท่ากับ 100 USD โดยเทรดที่ 0.2 Standard Lot ฝากและถอนทุกครั้งที่ได้กำไรเกิน 100 USD เพราะว่าเทรดเดอร์ประเภทนี้จะมีความโมโหอยู่ในตัวทำให้เราไม่สามารถที่จะนำเงินทั้งหมดมาเสี่ยงฝากได้ โดยบัญชีทั้งหมดเท่ากับ 10,000 USD นั่นคือ การเทรดแต่ละครั้งเสี่ยงเพียง 1 % ของพอร์ทเท่านั้น และในการซอย พอร์ทนี้ก็จะทำกำไรไปเรื่อย ๆ การเทรด 0.2 Lot นั้นหมายความว่า กำไรต่อ pip เท่ากับ 2 USD ต่อเหรียญ หมายความว่าจะมีระยะวิ่งเพียง 50 Pip เท่านั้น การกำหนดระยะ 50 pip นี้หมายความว่า เราต้องทำการประมาณการระยะทางของการวิ่งเพื่อตั้ง Stop loss และ Take Profit ก็ที่ว่ามาตั้งแต่ต้นจะต้องทำตามกฎอย่างเคร่งครัด
เครื่องมือ Indicator ช่วยเหลือ
Indicator: MACD ค่า 20:40:5
Time Frame: 5M
กฎการเข้าเทรด:
- เทรด Long เมื่อ MACD อยู่ต่ำกว่า 0 เท่านั้นและเทรด Short เมื่อ MACD อยู่สูงกว่า 0
- MACD ต้องมากกว่าแท่งก่อนหน้ากรณี Long และต้องน้อยกว่าแท่งก่อนหน้ากรณี Short
- MACD ต้องไม่เทรดในกรณีที่อยู่ค่าใกล้ 0 จะไม่มีการส่งคำสั่งใด ๆ
สำหรับเงื่อนไขอื่นๆ นอกเหนือจากนี้สิ่งที่ต้องพึงระลึกเสมอ คือ เราไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือ ทำตามเงื่อนไขแบบไม่มีข้อต่อรองใด ๆ ทั้งนั้น
สำหรับขาขึ้นจะต้องมีค่ามากกว่าแท่งก่อนหน้า และอยู่ต่ำกว่าเส้น 0 เท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้น เราจะซื้อได้ในราคาที่แพง ขณะที่ขา Sell เงื่อนไขจะต้องตรงกันข้ามกับเงื่อนไขขา Sell คือต้องสูงกว่าเส้นศูนย์และจะต้องมีค่าน้อยกว่าแท่งก่อนหน้า เราลองมาดูตัวอย่างจริงๆ กัน
ในภาพเป็นตัวอย่าง MACD ในกราฟ 5 นาทีจะเห็นว่าแท่ง Histogram เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ บอกสัญญาณเทรนขาขึ้น ใช้สำหรับการเทรด Long
การออกจากการเทรด
การออกจากการเทรด คือ จะมีรูปแบบการออกที่สำคัญ 3 รูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบเทรดเดอร์ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยที่เงื่อนไขใดเข้า เงื่อนไขก่อน เรียกได้ว่า การสิ้นสุดการเทรด โดยเงื่อนไขแต่ละเงื่อนไขมีดังต่อไปนี้
เงื่อนไขการออกที่ 1
เงื่อนไขที่ 31 คือ การออกจากการเทรดจากการที่ราคา ชน Take Profit จริง ๆ แล้วต้องเรียนรู้ที่จะหยุดเทรดหลังจากที่ราคาชน Take Profit โดยการตั้ง Take Profit อาจจะตั้งที่ 10 – 20 pip แต่ไม่ควรเกินจากนี้
เงื่อนไขการออกที่ 2
เงื่อนไขที่ 2 คือ ออกจากการเทรดเพราะชน Stop loss ซึ่งการตั้ง Stop loss ก็ควรอยู่ที่ไม่เกิน 20 เพราะว่าถ้าหากเกินกว่า 20 pip หมายความว่าไม่มีความคุ้มค่าใด ๆ เหลืออยู่แล้วเพราะอัตรา Risk Reward ขั้นต่ำคือ 1:1 นั่นเอง
เงื่อนไขการออกที่ 3
เงื่อนไขที่ 3 คือ เงื่อนไขที่ไม่ต้อง รอสัญญาณการออกจากกาเทรดก่อนหน้า แต่เราต้องดูว่าเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงของ indicator เปลี่ยนหรือไม่ เพราะถ้าหาก indicator เปลี่ยนเราสามารถออกจากออเดอร์ได้ทันที