สิ่งหนึ่งที่จะต้องทำความรู้จักกันก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนการออกแบบระบบเทรด Forex คือ ประเภทของการเทรด ในการเทรด Forex หรือว่าการซื้อขายนั้นมีหลายประเภท ไม่ได้มีแค่เข้าและออกไม้เท่านั้น แต่ละประเภทนั้นก็เป็นไปตามสถานการณ์ที่แตกต่างกัน

 
 

เทรดเดอร์ Forex หลายคนมักจะคิดว่า ตัวเราจะสามารถเทรดได้เพียงแค่รูปแบบเดียวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว 1 คน หรือ 1 พอร์ทลงทุนสามารถเทรดได้หลากหลายรูปแบบ โดยในการเทรดและเรียนรู้การเทรด Forexนั้น ก็ต้องเรียนรู้ทุกรูปแบบเพื่อสามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์

เรียนรู้ทั้งหมด เชี่ยวชาญเพียง 1

สำหรับการเทรด Forex นั้น ฐานะของเทรดเดอร์ก็ไม่แตกต่างจากทหาร ที่ต้องเรียนรู้อาวุธหลายรูปแบบ แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมีแบบที่เราเชี่ยวชาญที่สุดอยู่ 1 อย่าง เพราะถ้าหากเราไม่เชี่ยวชาญสักอย่างย่อมหมายความว่า ไม่ได้มีฝีมือที่จะสามารถเอาชัยชนะได้

ขณะที่คนที่เชี่ยวชาญเพียงอย่างเดียว เมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปแม้จะเอาตัวรอดลำบาก แต่ด้วยที่เรียนรู้มาครบก็จะสามารถต่อยอดและเอาตัวรอดได้ทันท่วงที ในการเทรด Forex ก็เช่นกัน

ประเภทของระบบเทรด Forex

ระบบเทรด forex ที่เราจะมาเรียนรู้ในวันนี้มีอยู่ 4 ระบบ ด้วยกัน ตามเนื้อหาต่อไปนี้

  1. ระบบ Scalping
  2. ระบบ Swing Trade
  3. ระบบ Trend Following
  4. ระบบเทรดข่าว

1.      ระบบ Scalping

สำหรับระบบ Scalping เป็นการทำกำไรในระยะสั้นมาก ๆ อาจจะไม่จบรอบ การเทรดระบบนี้ คือต้องเทรดในโบรคเกอร์ที่มีต้นทุนต่ำ เช่น ค่าคอมมิชชั่นต่ำ Spread ต่ำ ทำให้เข้าเทรดและสามารถทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว การเทรดแบบ Scalping ต้องทำกำไรเพียง 5- 10 pip หรือน้อยกว่านี้ ซึ่งทำให้เป็นระบบที่เราต้องเฝ้าหน้าจออยู่ตลอดเวลา เหมือนกับกลยุทธ์ตีหัวเข้าบ้าน

ส่วนใหญ่แล้วการเทรดแบบนี้ Lot ในการเทรดจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เพราะว่า ต้องผิดได้หลายครั้งและสามารถทำกำไรในระยะสั้นอย่างรวดเร็วได้ โดย Time Frame ที่เลือกใช้มากที่สุดคือ 1M และ 5M โดยส่วนมากจะเลือกเทรดเฉพาะช่วงที่กราฟมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเท่านั้น โดยทุกวันจะมีช่วงที่กราฟเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วซึ่งต้องเลือกจังหวะให้แม่นๆ

2.      ระบบ Swing Trade

สำหรับระบบ Swing Trade คือ ระบบที่ใช้กับการเทรดกราฟแกว่งตัว มันคือ การเทรดตามกรอบ โดยมากแล้วระบบนี้จะเป็นระบบที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะว่าเทรดเดอร์ Forex ส่วนใหญ่ที่เข้ามาในตลาด อยากที่จะเข้าจุดที่ราคาดีที่สุดและออกจุดที่ได้กำไรสูงสุด แต่ว่าก็ไม่อยากจะถือออเดอร์นาน ๆ

การเทรดแบบนี้ คือการเทรดระบบที่ใช้กรอบ Channel จะต้องมีจุด Overbought และ Oversold กำกับเพื่อใช้ในการบอกว่าจุดไหนควรทำอะไร การ Swing Trade โดยมากแล้วจะเลือก Time Frame 1H ไปจนถึง 4H เพราะว่า ระยะเวลาในการถือออเดอร์นั้นจะอยู่ช่วงหลัก 1 วัน จนถึง 1 สัปดาห์ ระบบและ indicator ที่ใช้กันในระบบนี้ที่ได้รับความนิยมได้แก่ Stochastic Oscillator,  Relative Strength Index  เป็นต้น

กราฟ orex: oder ของระบบ Swing Trade
ภาพที่ 1 แสดงตัวอย่างระยะเวลาการถือของระบบ Swing Trade ใน Time Frame 1H

3.      ระบบ Trend Following

ระบบเทรดตามแนวโน้มตลาด หรือระบบ Trend Following เป็นระบบเทรดที่มีคนนิยมพอสมควร แต่ไม่นิยมในการเทรด Forex เพราะว่า ต้นทุนในการถือครอง Position ของ Forex มีสูง นั่นคือ ต้นทุน Swap (ถ้าจะเทรดระบบนี้จึงต้องมองหาโบรกเกอร์ที่มีบัญชี Free swap เช่น โบรก GMI เป็นต้น)

การเทรด Trend Follwing ส่วนใหญ่จะเทรดระดับกราฟ 1 สัปดาห์ คือ กราฟ 4H ไปจนถึงกราฟ 1D ซึ่งเทรนด์ที่เคลื่อนไหวจะกินเวลานาน ทำให้การถือครอง position นั้นมีต้นทุน อย่างไรก็ตาม การเทรดระบบนี้ให้กำไรที่สูง เพราะว่ากำไรจากการที่เทรนด์เปลี่ยนทิศทางได้เคลื่อนไหวเป็นระยะทางไกล ทำให้สามารถชดเชยความเสี่ยงได้

Forex: เทรนด์และระยะเวลาในการถือ Trend Following
ภาพที่ 2 แสดงลักษณะของเทรนด์และระยะเวลาในการถือ Position ของระบบ Trend Following

อย่างไรก็ตามระบบนี้ก็มีปัญหาการเทรดที่น่าหงุดหงิดกวนใจได้แก่ ความยากลำบากในการเทรด Sideway ซึ่งเทรนด์จะเปลี่ยนไปมาจนทำให้เผชิญกับความลำบากในการตัดสินใจเทรด ดังนั้นเทรดเดอร์ Forex ต้องมีวิธีการรองรับในการตัดสินใจที่ดีด้วย

4.      ระบบเทรดข่าว

ระบบเทรดสุดท้าย เป็นการเทรดข่าว จะทำการเทรดช่วงที่มีข่าวเท่านั้น ระบบเทรดนี้ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน เพราะว่าข่าวที่ออกมานั้น อาจจะทำให้ราคาเคลื่อนไหวรุนแรง โดยที่ไม่ต้องไปอยู่ในตลาดตลอดเวลา ระบบนี้จะรอดูช่วงเวลาข่าวออกเท่านั้น และไม่ได้สนใจช่วงเวลาอื่น แต่ก็ยังใช้ Indicator ในการเทรดอยู่เช่นกัน เพราะว่า แม้จะมีข่าวแต่ระบบเทรดไม่สามารถบอกได้ว่า ทิศทางการเคลื่อนที่ของค่าเงินนั้นจะเคลื่อนไหวไปทางไหน

Forex: ข่าวใน forexfactory.com
ภาพที่ 3 การเทรดโดยอาศัยข่าว จากเว็บนำเสนอข่าวเศรษฐกิจโลกยอดนิยม เช่น forexfactory.com โดย มักเน้นที่ข่าวที่มี Impact ที่เป็นสีแดง เพราะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินสูง

สรุป

สำหรับเทรดเดอร์ Forex ระบบเทรดเป็นเหมือนศิลปะ เป็นเหมือนวิชาความรู้ติดตัว ถ้าหากเปรียบเทียบเทรดเดอร์ที่เป็นทหารที่ชำนาญดาบ การชำนาญแค่ดาบก็อาจจะเอาตัวรอดยากในสนามรบที่มีแต่ธนู หรือการรบระยะไกล แม้ว่าเราจะไม่ได้เก่งมาก แต่เราก็ควรที่จะต้องมีทักษะรอบด้านบ้าง เทรดเดอร์ก็เช่นกัน การเทรดก็ไม่ควรจะชำนาญอย่างใดอย่างหนึ่งแต่ว่าไม่สามารถใช้เครื่องมืออื่น ๆ ได้เลย

ในการเทรด Forex พอร์ทลงทุนไม่จำเป็นต้องไปยึดติดกับระบบเทรดเพียงระบบเดียว เพราะว่า ระบบเทรดที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็เป็นคนละเหตุการณ์ คนละสถานการณ์ทั้งสิ้น เมื่อเราสามารถออกแบบให้พอร์ทลงทุนของเรามีทุกระบบ ก็เหมือนกับเราสร้างระบบเทรดที่ทนต่อทุกสภาพแวดล้อม

ไม่ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรก็ยังสามารถทำกำไรชดเชยความเสี่ยงที่เกิดขึ้น หรือว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ตัวอย่างเช่น วิกฤติเศรษฐกิจได้ ดังนั้นเทรดเดอร์ Forex จะต้องมีความรู้ความเข้าใจระบบอื่นไว้บ้างและมีระบบที่ชำนาญมากเพียงระบบเดียวเพื่อที่จะฉวยโอกาสความได้เปรียบในช่วงที่ระบบของเราทำกำไรได้ดี

เขียนโดย

Alisa William

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chatchawal Nakcharoen