cTrader คืออะไร?

  • cTrader เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น Forex, CFD, หุ้น, และ คริปโต
  • พัฒนาโดยบริษัท Spotware Systems Ltd. ซึ่งก่อตั้งในปี 2010
  • ให้ความสำคัญกับการ ใช้งานที่ง่าย และเครื่องมือ วิเคราะห์ทางเทคนิค ที่ครบครันมากกว่าคู่แข่ง เช่น MetaTrader
  • พัฒนาและเผยแพร่โดย Andrey Pavlov และ Ilya Holeu ผู้ก่อตั้ง Spotware Systems ในปี 2011
  • มาพร้อมฟีเจอร์ No-Dealing Desk ที่ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและรวดเร็วในการเทรด
  • ออกแบบมาเพื่อการ เทรด CFD และ Forex หลายสินทรัพย์ พร้อมกับ Level 2 Quotes และ ความลึกของตลาด (Depth of Market — DOM)

จุดเริ่มต้นและการพัฒนาของ Ctrader

  • 2011: cTrader เปิดตัวโดย Spotware Systems เพื่อตอบโจทย์การเทรดที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า MT4
  • 2012: พัฒนาเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคและกราฟที่ละเอียด
  • 2016: เปิดตัว cAlgo (cTrader Automate) ช่วยสร้างบอทเทรดและการเทรดอัตโนมัติ
  • 2017: รองรับการเทรดสินค้าหลายประเภท เช่น สินค้าโภคภัณฑ์, หุ้น, ดัชนี
  • 2018-2020: รองรับการเทรดบนมือถือ iOS และ Android พร้อมปรับปรุงอินเทอร์เฟซให้ใช้งานง่ายขึ้น
  • ปัจจุบันได้รับการสนับสนุนจากโบรกเกอร์ระดับโลก เช่น IC Markets, Pepperstone, หรือ FxPro

ภาพอธิบายถึงผู้พัฒนา cTrader Andrey Pavlov และ Ilya Holeu ผู้ก่อตั้ง Spotware Systems ในปี 2011

จุดเด่นของ cTrader

อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย

  • cTrader มีหน้าตาการใช้งานที่เรียบง่าย สะอาดตา สามารถปรับแต่งเลย์เอาท์ได้ตามสไตล์ของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งหน้าจอออกหลายกราฟ หรือเลือกสีพื้นหลังได้ตามความถนัด

ความเร็วในการส่งคำสั่ง

  • ระบบ Market Execution บน cTrader มีความแม่นยำสูง ใช้เวลาดำเนินคำสั่งเพียงไม่กี่มิลลิวินาที และ ไม่มีการรีโควต (No Requote) ซึ่งเหมาะกับสาย Scalping หรือการเทรดความผันผวนสูง

ความโปร่งใส (Level II Market Depth)

  • cTrader ให้ข้อมูลความลึกของตลาดแบบ Level II ซึ่งแสดงปริมาณคำสั่งซื้อ-ขายในระดับราคาต่าง ๆ ช่วยให้เทรดเดอร์เห็นแนวโน้มและพฤติกรรมของตลาดได้ชัดเจนมากขึ้น

เครื่องมือวิเคราะห์ครบถ้วน

  • Indicator มากกว่า 70 แบบ
  • Timeframe ปรับได้ละเอียดตั้งแต่ Tick Chart จนถึง Month
  • Drawing Tools ครบครัน: Trendline, Fibonacci, Channel ฯลฯ
  • ตั้งค่า Alert ได้

ภาพอธิบายถึงหน้าการทำงานของแพลตฟอร์ม cTrader อาจจะไม่คุ้นชินกับการทำงาน ถ้าคนที่เคยใช้ MT4/MT5 มาก่อน

12 ฟีเจอร์หลักของ cTrader

  1. No-Dealing Desk (NDD) Execution
    • การเทรดแบบ No-Dealing Desk ช่วยให้การเทรดมีความโปร่งใส ไม่มีการแทรกแซงจากดีลเลอร์ ส่งผลให้ราคาถูกคำนวณจากการประมวลผลของตลาดจริง
  1. Fast Order Execution
    • การประมวลผลคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็ว โดยไม่มีการล่าช้าหรือดีเลย์ในการดำเนินการ
  1. Market Depth (Level 2)
    • รองรับการดูความลึกของตลาดที่ระดับ Level 2 ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเห็นราคาเสนอซื้อขายที่มีสภาพคล่องสูงกว่า
  1. Advanced Charting Tools
    • เครื่องมือวิเคราะห์กราฟที่มีความแม่นยำสูง รวมถึง อินดิเคเตอร์, เครื่องมือวาดกราฟ, และ ฟีเจอร์การปรับแต่ง ที่ช่วยในการวิเคราะห์ตลาดอย่างละเอียด
  1. One-Click Trading
    • ฟีเจอร์ One-Click Trading ช่วยให้การเปิดและปิดตำแหน่งทำได้ง่ายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องคลิกหลายครั้ง
  1. Algorithmic Trading (cTrader Automate)
    • รองรับการสร้างและใช้งาน บอทเทรด โดยใช้ cTrader Automate ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับเขียนโปรแกรมและทดสอบกลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติ หรือใน MT4 / MT 5 เรียกว่า EA
  1. Advanced Order Types
    • รองรับคำสั่งซื้อขายที่หลากหลาย เช่น Stop-Loss, Take-Profit, Trailing Stop, และ Limit Orders ที่สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ

ภาพบันทึกกราฟแท่งเทียนในกรอบเวลา 1 นาที โดยมีความสเถียร และ อินเตอร์เฟซหน้าใช้งานมาก

  1. Multiple Timeframes
    • รองรับการดูกราฟใน หลายกรอบเวลา (Multiple Timeframes) เพื่อการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมและแม่นยำมากขึ้น
  1. Smart Stop Out
    • ฟีเจอร์ Smart Stop Out ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้หยุดการเทรดโดยอัตโนมัติเมื่อมูลค่าบัญชีลดลงตามที่กำหนด
  1. Multi-Asset Trading
    • รองรับการเทรดในหลายสินทรัพย์ เช่น Forex, CFDs, หุ้น, และ คริปโต เพื่อให้นักเทรดสามารถกระจายพอร์ตการลงทุนได้อย่างสะดวก
  1. Mobile Trading
    • รองรับการเทรดบนอุปกรณ์ มือถือ ทั้งในระบบ iOS และ Android ช่วยให้สามารถเทรดได้จากทุกที่ทุกเวลา
  1. Customizable Interface
    • อินเทอร์เฟซของ cTrader สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น การจัดเรียงแท็บ, แถบเครื่องมือ, และการตั้งค่าต่างๆ

ตัวอย่าง Watchlist ของ cTrader จะแสดงราคาคู่เงินต่าง ๆ พร้อมให้เทรด Forex แล้ว ส่วนทางด้าน MT4/MT5 ก็จะเรียกว่า Market Watch 

cTrader เหมาะกับใคร?

  • นักเทรดมืออาชีพ
    • ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น Level 2 Market Depth และ No-Dealing Desk execution
    • ต้องการความแม่นยำและความรวดเร็วในการดำเนินการคำสั่งซื้อขาย
  • นักเทรดที่ใช้การเทรดอัตโนมัติ (Algorithmic Trading)
    • ต้องการเครื่องมือ cTrader Automate สำหรับเขียนโปรแกรมบอทเทรดและทดสอบกลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติ
  • นักเทรดที่ต้องการความโปร่งใส
    • ชอบการเทรดที่ไม่มีการแทรกแซงจากดีลเลอร์ (No-Dealing Desk) เพื่อความยุติธรรมและโปร่งใสในการดำเนินการ
  • นักเทรดที่ใช้หลายอุปกรณ์
    • รองรับการใช้งานทั้งบน เดสก์ท็อป และ มือถือ (iOS/Android) ให้ความยืดหยุ่นในการเทรดจากทุกที่
  • นักเทรดที่ต้องการการวิเคราะห์กราฟที่หลากหลาย
    • รองรับการวิเคราะห์กราฟหลายกรอบเวลา (Multiple Timeframes) และเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ครบครัน
  • นักเทรดที่ต้องการแพลตฟอร์มที่ทันสมัย
    • อินเทอร์เฟซทันสมัย ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูง

ตัวอย่างระบบ cTrader Automate (ชื่อเก่า = Algo) ที่สามารถออกแบบ ใช้งานในการเทรดอัติโนมัติได้ สำหรับ cTrader

เปรียบเทียบ cTrader กับ MetaTrader 4/5

ตารางที่ 1 การเปรียบเทียบระหว่าง cTrader, MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) 

คุณสมบัติcTraderMetaTrader 4 (MT4)MetaTrader 5 (MT5)
ประเภทแพลตฟอร์มฟีเจอร์ขั้นสูงสำหรับการเทรด Forex, CFD, หุ้น, คริปโตแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการเทรด Forex และ CFDแพลตฟอร์มที่รองรับการเทรด Forex, CFD, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ที่มากกว่า
การเทรดแบบ No-Dealing Deskรองรับการเทรดแบบ No-Dealing Desk (NDD) ที่โปร่งใสไม่รองรับการเทรดแบบ No-Dealing Deskรองรับการเทรดแบบ No-Dealing Desk (ในบางกรณี)
การแสดงความลึกของตลาด (Level 2)รองรับการแสดง Level 2 Market Depthไม่รองรับการแสดงความลึกของตลาดรองรับการแสดง Level 2 Market Depth
ฟีเจอร์ One-Click Tradingรองรับฟีเจอร์ One-Click Tradingรองรับฟีเจอร์ One-Click Tradingรองรับฟีเจอร์ One-Click Trading
กราฟหลายกรอบเวลา (Multiple Timeframes)รองรับกราฟหลายกรอบเวลาได้อย่างยืดหยุ่นรองรับกราฟหลายกรอบเวลาแต่ไม่ครบถ้วนรองรับกราฟหลายกรอบเวลาได้ดีกว่า MT4
เครื่องมือการวิเคราะห์เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ครบครัน เช่น อินดิเคเตอร์และเครื่องมือวาดกราฟเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้งานได้ดี แต่ไม่ครบถ้วนเครื่องมือวิเคราะห์ที่ดีกว่า MT4 เช่น อินดิเคเตอร์ที่หลากหลาย
การเทรดอัตโนมัติ (Algorithmic Trading)รองรับการเขียนโปรแกรมและการใช้งานบอทเทรด ใช้ภาษา C#รองรับการใช้ Expert Advisors (EAs) ด้วย MQL4รองรับ Expert Advisors (EAs) ด้วย MQL5 ที่พัฒนาได้ดีกว่า
รองรับการเทรดบนมือถือรองรับการเทรดบน iOS และ Androidรองรับการเทรดบน iOS และ Androidรองรับการเทรดบน iOS และ Android
การรองรับสินทรัพย์รองรับการเทรด Forex, CFD, หุ้น, คริปโตรองรับการเทรด Forex และ CFDรองรับการเทรด Forex, CFD, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์
การออกแบบและอินเทอร์เฟซอินเทอร์เฟซทันสมัยและใช้งานง่ายอินเทอร์เฟซเก่าและอาจจะดูไม่ทันสมัยอินเทอร์เฟซที่ได้รับการปรับปรุงดีกว่า MT4
การเปิดออร์เดอร์รองรับการเปิดออร์เดอร์ที่รวดเร็วรองรับการเปิดออร์เดอร์ได้ดี แต่ไม่เร็วเท่า cTraderรองรับการเปิดออร์เดอร์ได้ดีมากกว่า MT4
การตั้งคำสั่งซื้อขายรองรับการตั้งคำสั่งซื้อขายที่ยืดหยุ่น เช่น Stop-Loss, Take-Profit, Trailing Stopรองรับคำสั่งซื้อขายที่มีความยืดหยุ่นสูงรองรับคำสั่งซื้อขายที่มีความยืดหยุ่นสูงกว่า MT4
การสนับสนุนหลายภาษารองรับหลายภาษารองรับหลายภาษารองรับหลายภาษา
เครื่องมือการจัดการความเสี่ยงฟีเจอร์ Smart Stop Out เพื่อการจัดการความเสี่ยงไม่มีฟีเจอร์ Smart Stop Outไม่มีฟีเจอร์ Smart Stop Out
ความเร็วในการประมวลผลการประมวลผลคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็วการประมวลผลคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็ว แต่มีบางครั้งที่เกิดการหน่วงการประมวลผลคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็ว
  • cTrader
    • เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูงและประสิทธิภาพสูง 
    • เน้นความโปร่งใสในการเทรด
    • เครื่องมือการวิเคราะห์ที่ครบครัน
  • MT4
    • เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงในหมู่นักเทรด Forex มายาวนาน
    • มีข้อจำกัดในการรองรับฟีเจอร์บางอย่าง 
      • การแสดงความลึกของตลาด 
      • การวิเคราะห์ที่ไม่ครบถ้วน
    • หาโหลดอินดิเคเตอร์และ template ได้ง่ายมาก ทำให้หลาย ๆ คนยังยอมใช้ MT4 อยู่
  • MT5
    • เป็นเวอร์ชันที่พัฒนาจาก MT4 โดยรองรับการเทรดหลายสินทรัพย์ 
    • มีฟีเจอร์ที่พัฒนาเพิ่มเติมจาก MT4 
    • แต่ยังคงไม่ยืดหยุ่นเท่ากับ cTrader ในบางด้าน

คลิปที่น่าสนใจ

เพิ่มเติมกันด้วยคลิปแนะนำ มาทำความรู้จักกับ CTrader กันครับ จากช่อง Nay Nath เป็นการอธิบายให้เข้าใจถึงแพลตฟอร์มนี้อย่างง่าย ๆ 

 

สรุป

cTrader คือแพลตฟอร์มเทรดฟอเร็กซ์และ CFD ที่พัฒนาโดย Spotware Systems ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่เทรดเดอร์สายโปร และสายเทรดแบบ ECN (Electronic Communication Network) เพราะออกแบบมาให้มีความโปร่งใส รวดเร็ว และใช้งานง่ายมากกว่า MT4/MT5 โดดเด่นในด้าน 

  • ความเร็วในการประมวลผลคำสั่ง
  • อินเทอร์เฟซที่ทันสมัยและใช้งานง่ายกว่า
  • การแสดงข้อมูลตลาดแบบโปร่งใส (Level II / DoM)
  • เหมาะกับสายเทรดมืออาชีพโดยเฉพาะสาย Scalping และ Manual trading
  • แต่สุดท้ายความถนัดของเทรดเดอร์โดยทั่วไป ก็ยังใช้ MT4/MT5 ในการเทรดอยู่ 

อ้างอิง

FAQ: – cTrader คืออะไร? เทรดดีกว่า MetaTrader จริงไหม

ไม่ได้มีอะไรซ่อนอยู่! แต่เหตุผลหลัก ๆ คือ MT4/MT5 ครองตลาดมานาน โบรกเกอร์ส่วนใหญ่คุ้นเคยและมีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว การเพิ่ม cTrader เข้ามามีค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีและการตลาดเพิ่มขึ้น บางโบรกเกอร์จึงเลือกที่จะโฟกัสกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่แล้ว แต่แนวโน้มโบรกเกอร์ที่ให้บริการ cTrader ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ๆ
สร้างได้ระดับนึงโดยไม่ต้องเขียนโค้ดเอง เพราะ cTrader มีฟีเจอร์ชื่อ cTrader Automate (เดิมคือ cAlgo) ซึ่งใช้ภาษา C# ในการเขียน cBot (EA) แต่ก็มีเครื่องมือหรือ Community ที่แชร์ cBot สำเร็จรูป หรือบางทีอาจมีเครื่องมือช่วยสร้างแบบ Visual ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าต้องการ Logic ซับซ้อนมากๆ การเขียนโค้ดหรือจ้างก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
มีส่วนจริงอยู่ เพราะ cTrader ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ ECN/STP โดยตรง การส่งคำสั่งรวดเร็วและโปร่งใสกว่า มี Market Depth ให้เห็นปริมาณซื้อขายจริง ที่ราคาต่างๆด้วย ช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจได้ดีขึ้น ลดโอกาสเกิด Slippage หรือ Requote โดยเฉพาะในสภาวะตลาดผันผวน (แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เกิดเลย 100% ขึ้นกับสภาพตลาดและหลังบ้านของแต่ละโบรกเกอร์ด้วย)

อาจจะไม่ถึงกับลับ แต่เป็นฟีเจอร์ที่คนมองข้ามบ่อยๆ แต่ใช้เป็นก็เพิ่มความได้เปรียบ เช่น 

  • Depth of Market (DOM): ดูปริมาณ Bid/Ask แบบละเอียด ช่วยหาแนวรับแนวต้านระยะสั้นได้ดี 
  • Tick Charts: ดูกราฟตามจำนวน Tick แทนที่จะเป็นเวลา เหมาะกับ Scalping 
  • Multiple Chart Modes & Detachable Charts: จัดเรียงกราฟได้อิสระมากๆ 
  • Advanced Order Protection: ตั้ง Stop Loss/Take Profit ได้ซับซ้อนกว่า เช่น Trailing Stop แบบละเอียด
ไม่จริง แต่ก็มีแนวโน้มสูงว่าจะเป็น Book A หรือ No Dealing Desk (NDD) มากกว่า MT4/MT5 เพราะในทางทฤษฎี โบรกเกอร์อาจใช้ cTrader เป็นหน้าบ้าน แต่หลังบ้านยังมีการจัดการออเดอร์แบบ B-Book อยู่บ้างก็ได้ ท้ายที่สุดแล้ว อยู่ที่นโยบายของโบรกเกอร์ ว่าจะส่งคำสั่งออกตลาดหรือจะเป็นคู่ตรงข้ามกับคุณ

 

เขียนโดย

Pakornkiat Poonsuk

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chonthicha Poomidon