คำสั่งซื้อขาย Forex คืออะไร?
คำสั่งซื้อขาย Forex คือ วิธีการส่งข้อมูลผ่านโปรแกรมการเทรดต่างๆ อย่าง MT4, MT5 หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อดำเนินการเปิดหรือปิดการซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา ซึ่งผู้เทรดสามารถระบุเงื่อนไขหรือระดับราคาให้ตรงกับความต้องการได้
ข้อดีของการกำหนดคำสั่งซื้อขาย
- ช่วยลดแรงกดดันเมื่อตลาดเกิดความผันผวนรุนแรง
- ไม่จำเป็นต้องคอยติดตามหน้าจอตลอดเวลา เนื่องจากระบบจะทำงานอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่กำหนด
- ศึกษาปัจจัยข่าว Forex ต่างๆ เพื่อวางแผนจุดเข้า-ออกตลาดได้ล่วงหน้า
- สร้างโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น
ข้อควรคำนึงเมื่อกำหนดคำสั่งซื้อขาย
- ต้องเข้าใจรายละเอียดและคุณสมบัติของคำสั่งแต่ละประเภทให้ถ่องแท้
- แม้จะมีการตั้งคำสั่งไว้แล้ว อาจเกิดการเลื่อนไหลของราคา (Slippage) หรือการเสนอราคาใหม่ (Requote) ในช่วงตลาดผันผวน
ประเภทคำสั่งซื้อขายตลาด (Market Orders)
Market Orders คือ คำสั่งที่ต้องการให้เปิดตำแหน่งทันทีที่ราคาตลาดปัจจุบัน
ประเภทของคำสั่งซื้อขายตลาด
Buy Market (ซื้อทันที)
- ความหมาย: เปิดตำแหน่งซื้อทันทีที่ราคาตลาดปัจจุบัน
- การใช้งาน: ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะปรับตัวขึ้นและต้องการเข้าตลาดทันที
- ข้อดี: ดำเนินการซื้อได้ทันทีโดยไม่ต้องรอราคา
- ข้อเสีย: อาจได้ราคาไม่ดีหากตลาดมีความผันผวนสูง
Sell Market (ขายทันที)
- ความหมาย: เปิดตำแหน่งขายทันทีที่ราคาตลาดปัจจุบัน
- การใช้งาน: ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะปรับตัวลงและต้องการเข้าตลาดทันที
- ข้อดี: ดำเนินการขายได้ทันทีโดยไม่ต้องรอราคา
- ข้อเสีย: อาจได้ราคาไม่ดีหากตลาดมีความผันผวนสูง
ระบบการดำเนินการของคำสั่งตลาด
Market Execution
- ความหมาย: คำสั่งจะถูกดำเนินการทันทีตามราคาที่ดีที่สุดในขณะนั้น
- การทำงาน: อาจเกิด Slippage (ราคาเคลื่อนไหวระหว่างส่งคำสั่ง)
- ข้อดี: รวดเร็ว ไม่มีการปฏิเสธคำสั่ง
- เหมาะกับ: การเทรดระยะสั้น, Scalping
Instant Execution
- ความหมาย: คำสั่งจะดำเนินการที่ราคาที่คุณเห็นเท่านั้น
- การทำงาน: หากราคาเปลี่ยน จะมีการ Requote (เสนอราคาใหม่)
- ข้อดี: ราคาที่ได้จะตรงตามที่เห็น (หากไม่มี Requote)
- เหมาะกับ: เทรดเดอร์ที่ต้องการความแน่นอนของราคา
ตัวอย่างวิธีใช้ Market Orders ในโปรแกรม MT4
หน้าต่าง Order
- ด้านบนแสดงคู่สกุลเงิน (Symbol): XAUUSD (ทองคำกับดอลลาร์สหรัฐ)
- แสดงราคา Bid/Ask: 3376.89/3377.05
- มีปุ่มคำสั่ง “Sell by Market” (สีแดง) และ “Buy by Market” (สีฟ้า) สำหรับส่งคำสั่งทันที
การตั้งค่า
- Volume: 0.01 lot
- Stop Loss: กำหนดจุดตัดขาดทุน
- Take Profit: กำหนดจุดทำกำไร
- Type: Market Execution
ข้อควรระวัง
- มีคำเตือน Slippage (ราคาที่ได้อาจต่างจากที่เห็น)
- ควรตั้ง Stop Loss ทุกครั้ง
- เลือกขนาด lot ให้เหมาะกับทุน
ประเภทคำสั่งซื้อขายแบบจำกัด (Limit Orders)
Limit Orders คือ คำสั่งที่ต้องการซื้อหรือขายที่ราคาดีกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
ประเภทของ Limit Orders
Buy Limit (ซื้อเมื่อราคาลง)
- ความหมาย: คำสั่งซื้อที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
- การใช้งาน: ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะลดลงไปถึงระดับที่กำหนดแล้วกลับตัวขึ้น
- ข้อดี: ได้ราคาซื้อที่ดีกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
- ข้อเสีย: หากราคาไม่ลงมาถึงระดับที่กำหนด คำสั่งจะไม่ถูกดำเนินการ
Sell Limit (ขายเมื่อราคาขึ้น)
- ความหมาย: คำสั่งขายที่ราคาสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
- การใช้งาน: ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นไปถึงระดับที่กำหนดแล้วกลับตัวลง
- ข้อดี: ได้ราคาขายที่ดีกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
- ข้อเสีย: หากราคาไม่ขึ้นไปถึงระดับที่กำหนด คำสั่งจะไม่ถูกดำเนินการ
ตัวอย่างการตั้ง Sell Limit ใน MT4
คือ การตั้งคำสั่ง Sell ล่วงหน้าในราคาที่สูงกว่าปัจจุบัน
ประเภทคำสั่งซื้อขายแบบหยุด (Stop Orders)
Stop Orders คือ คำสั่งที่ต้องการซื้อหรือขายเมื่อราคาเคลื่อนไหวไปถึงระดับที่กำหนด และคาดว่าจะเคลื่อนไหวต่อไปในทิศทางเดิม
ประเภทของ Stop Orders
Buy Stop (ซื้อเมื่อราคาขึ้น)
- ความหมาย: คำสั่งซื้อที่ราคาสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
- การใช้งาน: ใช้เมื่อคาดว่าหากราคาผ่านระดับแนวต้าน ราคาจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
- ข้อดี: ยืนยันแนวโน้มขาขึ้นก่อนเข้าซื้อ
- ข้อเสีย: ราคาซื้อจะแพงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
Sell Stop (ขายเมื่อราคาลง)
- ความหมาย: คำสั่งขายที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
- การใช้งาน: ใช้เมื่อคาดว่าหากราคาหลุดระดับแนวรับ ราคาจะลดลงต่อเนื่อง
- ข้อดี: ยืนยันแนวโน้มขาลงก่อนเข้าขาย
- ข้อเสีย: ราคาขายจะถูกกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
Stop Limit Orders
- Buy Stop Limit: คำสั่งที่รวม Buy Stop และ Buy Limit เข้าด้วยกัน
- Sell Stop Limit: คำสั่งที่รวม Sell Stop และ Sell Limit เข้าด้วยกัน
- การทำงาน: เมื่อราคาถึงระดับ Stop Price จะกลายเป็น Limit Order
- ข้อดี: ควบคุมราคาที่ต้องการซื้อหรือขายได้แม่นยำมากขึ้น
- ข้อเสีย: ซับซ้อนกว่าคำสั่งอื่น และอาจไม่ถูกดำเนินการหากราคาเคลื่อนไหวเร็วเกินไป
ตัวอย่างการตั้ง Sell Stop ใน MT4
คือ การตั้งคำสั่ง Sell ล่วงหน้าในราคาที่ต่ำกว่าปัจจุบัน
ประเภทคำสั่งบริหารความเสี่ยง (Risk Management Orders)
Risk Management Orders คือ คำสั่งที่ช่วยจัดการความเสี่ยงและรักษากำไรของตำแหน่งที่เปิดไว้
ประเภทของคำสั่งบริหารความเสี่ยง
Stop Loss (SL)
- ความหมาย: คำสั่งปิดตำแหน่งอัตโนมัติเมื่อขาดทุนถึงระดับที่กำหนด
- การใช้งาน: ใช้เพื่อจำกัดการขาดทุนในกรณีที่ราคาเคลื่อนไหวตรงข้ามกับที่คาดการณ์
- ข้อดี: ป้องกันการขาดทุนที่เกินควบคุม
- ข้อควรระวัง: ควรตั้งไว้ในระดับที่เหมาะสม ไม่ใกล้เกินไปจนถูกตัดออกง่าย
Take Profit (TP)
- ความหมาย: คำสั่งปิดตำแหน่งอัตโนมัติเมื่อกำไรถึงระดับที่กำหนด
- การใช้งาน: ใช้เพื่อล็อกกำไรเมื่อราคาเคลื่อนไหวตามที่คาดการณ์
- ข้อดี: รับรู้กำไรโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องเฝ้าดูตลาด
- ข้อควรระวัง: หากตั้งไว้ใกล้เกินไป อาจทำให้พลาดโอกาสทำกำไรที่มากกว่า
Trailing Stop
- ความหมาย: เครื่องมือช่วย เลื่อนจุด Stop Loss ตามการเคลื่อนไหวของราคาที่เป็นกำไร
- การทำงาน: เมื่อราคาเคลื่อนไหวเป็นกำไร Trailing Stop จะเลื่อนตามในระยะห่างที่กำหนด แต่จะไม่เลื่อนกลับหากราคากลับทิศทาง
- ข้อดี: รักษากำไรที่ได้แล้วขณะยังเปิดโอกาสให้กำไรเพิ่มขึ้น
- ข้อควรระวัง: ในตลาดที่ผันผวน อาจถูกตัดออกก่อนที่ราคาจะกลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางที่เป็นกำไร
ตัวอย่างการตั้ง Trailing Stop ใน MT4
เงื่อนไขสำคัญ คือ
- ไม่สามารถตั้งต่ำกว่า Stop Level และไม่ต่ำกว่า 15 จุดใน MT4
- สามารถตั้ง Trailing Stop ได้เพียงหนึ่งคำสั่งต่อหนึ่งสถานะเท่านั้น
- เริ่มทำงานเมื่อราคาเคลื่อนไหวในทิศทางทำกำไรตามจำนวนจุดที่กำหนดไว้
- ทุกครั้งที่ Trailing Stop ปรับระดับ SL จะมีการบันทึกในแถบบันทึก
- สามารถตั้งโดยไม่ต้องมีการกำหนด SL ไว้ก่อน และสามารถใช้กับคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าได้
วิธีใช้งานคำสั่งซื้อขาย Forex ที่ถูกต้อง
1. Market Orders
วิธีใช้ที่ถูกต้อง
- ใช้เมื่อต้องการเข้าตลาดทันทีที่ราคาปัจจุบัน
- เหมาะสำหรับการเทรดในตลาดที่มีสภาพคล่องสูง
- หลีกเลี่ยงการใช้ในช่วงประกาศข่าวสำคัญเพื่อป้องกัน Slippage
- เตรียมพร้อมรับความเสี่ยงจากราคาที่อาจไม่ตรงกับที่เห็น
2. Limit Orders
Buy Limit
- ตั้งคำสั่งซื้อที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
- ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะลงมาแตะระดับที่ต้องการแล้วกลับตัวขึ้น
- วางที่จุดแนวรับสำคัญหรือระดับ Fibonacci Retracement
Sell Limit
- ตั้งคำสั่งขายที่ราคาสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
- ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะขึ้นไปแตะระดับที่ต้องการแล้วกลับตัวลง
- วางที่จุดแนวต้านสำคัญหรือระดับ Fibonacci Retracement
3. Stop Orders
Buy Stop:
- ตั้งคำสั่งซื้อที่ราคาสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
- ใช้เมื่อต้องการยืนยันแนวโน้มขาขึ้น โดยเฉพาะเมื่อราคาทะลุแนวต้าน
- เหมาะสำหรับกลยุทธ์ Breakout Trading
Sell Stop
- ตั้งคำสั่งขายที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
- ใช้เมื่อต้องการยืนยันแนวโน้มขาลง โดยเฉพาะเมื่อราคาทะลุแนวรับ
- เหมาะสำหรับกลยุทธ์ Breakout Trading
4. Trailing Stop
วิธีใช้ที่ถูกต้อง
- ตั้งระยะห่างจากราคาให้เหมาะสม ไม่ใกล้หรือไกลเกินไป
- ใช้ในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน (Trending Market)
- เหมาะกับการเทรดที่ต้องการรักษากำไรโดยไม่ต้องปรับ Stop Loss เอง
- ควรกำหนดระยะห่างให้มากพอที่จะไม่ถูกตัดออกจากความผันผวนระยะสั้น
- ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มที่ใช้สามารถรันคำสั่ง Trailing Stop ได้แม้ปิดโปรแกรม
เคล็ดลับการใช้คำสั่งซื้อขาย Forex สำหรับผู้เริ่มต้น
- เริ่มจากคำสั่งพื้นฐาน ใช้ Market Orders ก่อนเพื่อเรียนรู้การเคลื่อนไหวของตลาด
- ไม่ลืมตั้งจุดตัดขาดทุนและทำกำไร ด้วย Stop Loss และ Take Profit ทุกครั้ง เพื่อควบคุมความเสี่ยง
- ฝึกใช้คำสั่งล่วงหน้า ทดลองวาง Pending Orders เพื่อเตรียมแผนการเทรดไว้ล่วงหน้า
- พัฒนาสู่คำสั่งที่ซับซ้อนขึ้น เช่น Trailing Stop เพื่อช่วยให้จัดการกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
FAQ — รู้จักคำสั่งซื้อขาย Forex ทุกประเภท (Market, Limit, Stop, Trailing Stop)
การตั้ง TP ไม่มีสูตรตายตัว มีแต่ต้องเหมาะกับ “สไตล์” และต้องตั้งอยู่บนเหตุผล ไม่ใช่ความรู้สึก
- ถ้าเทรดระยะสั้นหรือสไตล์ Scalp/Day Trade (M5–M15) การตั้ง TP ใกล้ช่วยให้เข้าถึงเป้าไวและชนะบ่อยขึ้น แต่กำไรต่อครั้งน้อยและต้องเทรดบ่อย
- ขณะที่การตั้ง TP ไกลในสไตล์ Swing/Trend Following (H1–D1) จะให้กำไรคำโตและมี Risk:Reward ที่ดีกว่า แต่ต้องอดทน รอได้นาน และรับความผันผวนระหว่างทางให้ได้
จริง! และมีทั้งแบบ ลากราคามากิน SL โดยตรงเลย กับแอบทำแบบเนียน ๆ
- โบรกเกอร์ Book B (Dealing Desk) คือโบรกที่ “รับกินคำสั่งของลูกค้า” เอง ไม่ส่งไปตลาดจริง → คุณเสีย = เขาได้
- แบบเนียนๆ คือ พอเขารู้ว่า SL คุณอยู่ตรงไหน เขาก็มี “ข้อมูลเชิงพฤติกรรมของฝูงเทรดเดอร์” ที่สามารถเอาไปเทรดฝั่งตรงข้ามได้ พฤติกรรมที่ดูเหมือน “ลากมากิน SL” มักเกิดจาก “Price Manipulation ภายในระบบ” เช่น เปิด Spread ชั่วขณะในช่วงข่าว หรือจงใจ Trigger SL ระยะใกล้ก่อนราคากลับตัว
- แบบโกงหน้าด้านๆคือ ใช้ MetaTrader Manager หรืออื่นๆ เข้าควบคุมพอร์ตลูกค้าตรงๆไปเลย
การเลือกโบรกเกอร์จริงมีความสำคัญมาก แนะนำให้เลือกเฉพาะ โบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ เท่านั้น