Free Margin คืออะไร?

  • พูดให้เข้าใจง่าย Free Margin คือเงินว่างที่เหลืออยู่ในบัญชีหลังจากเอาไปวางเป็นหลักประกันเปิดออเดอร์แล้ว
  • เงินส่วนนี้คือกำลังยิงของพอร์ต ถ้าไม่มีเหลือเลยจะเปิดออเดอร์ใหม่ไม่ได้ และถ้ากราฟวิ่งสวนแล้ว Free Margin ติดลบ ก็มีโอกาสโดนล้างพอร์ต
  • Free Margin ไม่ได้อยู่นิ่ง มันจะเปลี่ยนไปตามกำไรหรือขาดทุนของออเดอร์ที่ถืออยู่
  • Free Margin เปรียบเสมือน “เบาะกันกระแทก” ของพอร์ต ถ้าตลาดสวิงแรง ๆ แล้วไม่มีเบาะพอ พอร์ตจะเจ็บหนักทันที
  • หลายคนเข้าใจว่า Free Margin ใช้แค่ตอนจะเปิดออเดอร์ใหม่ แต่จริง ๆ มันยังเกี่ยวกับความสามารถในการ “ทนกราฟแกว่ง” ด้วย
  • กราฟอาจไม่ได้สวนแรงมากก็จริง แต่ถ้า Free Margin มีน้อย โอกาสพอร์ตถูก Stop Out ก็ยังสูง
  • โบรกเกอร์บางเจ้าจะไม่ให้เปิดออเดอร์เพิ่มเลย ถ้า Free Margin เหลือต่ำกว่า 100% ของ Margin ที่ต้องใช้
  • Free Margin ยังเกี่ยวกับการถือออเดอร์ข้ามคืนด้วย เพราะบางคู่เงินมีค่า Swap ที่ติดลบ ยิ่งถือนาน Equity จะยิ่งลด Free Margin ก็จะลดตาม
  • ไม่ควรใช้ Free Margin จนหมดทุกบาท แนะนำให้เหลือไว้ขั้นต่ำสัก 30–50% เป็น Safety Zone เพื่อกันกรณีตลาดเคลื่อนไหวผิดทาง
  • ในช่วงข่าวแรง เช่น FOMC หรือ NFP แม้จะมี Free Margin เหลือ แต่ก็ไม่ควรรีบเปิดออเดอร์เพิ่มทันที เพราะความผันผวนอาจทำให้ Equity ลดฮวบได้ในพริบตา

ยกตัวอย่างให้เข้าใจเกี่ยวกับ Free Margin ง่าย ๆ 

  • บัญชีมีเงินอยู่ 10,000 บาท
  • เปิดออเดอร์ใช้ Margin ไป 2,000 บาท
  • ถ้ามีกำไรลอยอยู่ 500 บาท
  • Equity จะเป็น 10,000 บวก 500 เท่ากับ 10,500
  • Free Margin คือ 10,500 ลบด้วย 2,000 เหลือ 8,500 บาท

ภาพนี้อธิบายถึงคำว่า Free Margin ในแบบที่เข้าใจง่ายมาก มันก็จะเหมือนกับการที่เรามีเงินในกระเป๋า และ มีการใช้จ่าย ที่จะใช้จ่ายได้อีกเท่าไหร่ ?

ความสัมพันธ์ระหว่าง Free Margin, Equity และ Margin

  • ความสัมพันธ์นี้คือหัวใจของการคุมพอร์ต เทรดเดอร์ต้องเข้าใจสูตรสำคัญที่ใช้คิดคือ Free Margin เท่ากับ Equity ลบด้วย Margin
  • Equity คือตัวเลขที่เปลี่ยนตลอดเวลา เพราะรวมกำไรหรือขาดทุนของออเดอร์ที่เปิดอยู่
  • Margin คือเงินที่ใช้ค้ำประกันกับโบรกเกอร์ มันคงที่จนกว่าออเดอร์จะถูกปิด
  • ดังนั้น Free Margin จะผันผวนตลอด ถ้าขาดทุนหนักขึ้น Equity จะลดลง Free Margin ก็จะหดไปด้วย

เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ

  • ลองนึกถึง Margin เป็นค่ามัดจำรถที่เช่าไว้
  • Equity เหมือนเงินในบัญชีเราตอนนี้
  • Free Margin ก็คือเงินที่เหลือจากเงินในบัญชีลบค่ามัดจำ
  • ถ้าโดนหักค่าปรับหรือค่าซ่อมเพิ่ม (เทียบเท่ากราฟสวน) เงินที่เหลือใช้ก็จะลดลงแบบเดียวกับ Free Margin ที่ลดลง

ตัวอย่าง

  • เปิดออเดอร์ใช้ Margin 3,000 บาท
  • ออเดอร์นั้นขาดทุนอยู่ 1,000 บาท
  • Equity คือ 10,000 ลบ 1,000 เหลือ 9,000
  • Free Margin คือ 9,000 ลบ 3,000 เหลือ 6,000 บาท

ทำไม Free Margin ถึงสำคัญต่อการเทรด

  • Free Margin เปรียบเหมือนถังออกซิเจน ถ้ามีเยอะ พอร์ตจะหายใจสะดวก ถ้ามีน้อยก็เหมือนคนที่หายใจติดขัด
  • มันคือพื้นที่ที่ช่วยให้พอร์ตทนต่อการแกว่งของราคาได้ ถ้าราคาเคลื่อนไหวสวนทางแล้ว Free Margin เหลือน้อย มีโอกาสโดนปิดไม้แบบไม่ทันตั้งตัว
  • เทรดเดอร์สายลากไม้หรือสายเทรดสวน ต้องคอยดู Free Margin ตลอด เพราะถ้าคำนวนพลาด แค่การแกว่งเพียงเล็กน้อยก็พังได้ทั้งพอร์ต
  • เทรดเดอร์ที่ใช้ EA ต้องเขียนเงื่อนไขให้ระบบเช็ค Free Margin ด้วย ไม่อย่างนั้นระบบอาจเปิดออเดอร์เพิ่มตอน Margin แทบไม่เหลือ
  • ช่วยให้แก้พอร์ตได้ทันเวลา หากกราฟวิ่งสวนแรง การมี Free Margin เหลือพอ จะเปิดไม้ Hedge หรือไม้แก้ทางได้ทันก่อนพอร์ตพัง
  • สะท้อนวินัยของเทรดเดอร์ ใครที่คุม Free Margin ได้ดี แสดงว่ามีวินัย ไม่เทรดเกินตัว ไม่เปิดออเดอร์มั่วจนพอร์ตเสี่ยง
  • จำเป็นต่อการถือออเดอร์ระยะยาว การถือไม้ยาวต้องเผื่อ Free Margin ให้พอรับความผันผวนระหว่างทาง ไม่อย่างนั้นอาจโดน Stop Out ก่อนถึงเป้า

ประสบการณ์จริง
        เคยเปิดหลายไม้พร้อมกันหวังแก้พอร์ตให้กลับมา แต่ไม่คำนวณ Free Margin ให้ดี พอราคาแกว่งผิดทางแค่นิดเดียว พอร์ตเข้าเขต Margin Call และถูกปิดไม้ขาดทุนทันที

ภาพอธิบายความสำคัญ และ ความสัมพันธ์กันของ 3 เรื่อง เริ่มจาก Margin – Equity – Free Margin

ตัวอย่างง่าย ๆ ในการคำนวณ Free Margin

  • เวลาเทรดจริงต้องคำนวณให้เป็น หรืออย่างน้อยก็รู้วิธีดูในหน้าจอเทรด ว่าตัวเลขที่เห็นหมายถึงอะไร
  • ควรคำนวณจากขนาดล็อตที่เปิด ราคาที่เข้า และเลเวอเรจที่ใช้ เพื่อรู้ว่า Margin ถูกใช้ไปเท่าไหร่
  • อย่าลืมว่า Margin คงที่ แต่ Equity เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ทำให้ Free Margin แกว่งตามสถานการณ์ในตลาด

ตัวอย่างการคำนวนที่ 1 

  • บัญชีมีเงิน 50,000 บาท
  • เปิดออเดอร์ EURUSD ขนาด 1 ล็อต ใช้ Margin ไป 10,000 บาท
  • ตอนนี้ออเดอร์มีกำไรลอย 3,000 บาท
  • Equity จะเป็น 50,000 บวก 3,000 เท่ากับ 53,000
  • Free Margin คือ 53,000 ลบ 10,000 เหลือ 43,000 บาท
  • แต่ถ้าออเดอร์ขาดทุน 5,000 บาทแทน
  • Equity จะเหลือ 45,000
  • Free Margin จะกลายเป็น 45,000 ลบ 10,000 เหลือ 35,000 บาท

ตัวอย่างการคำนวณที่ 2

  • บัญชีมีเงิน 100,000 บาท
  • เปิดออเดอร์ USDJPY ขนาด 2 ล็อต ใช้ Margin ไป 20,000 บาท

กรณีที่ออเดอร์กำไร 8,000 บาท

  • Equity = 100,000 + 8,000 = 108,000 บาท
  • Free Margin = 108,000 – 20,000 = 88,000 บาท

กรณีที่ออเดอร์ขาดทุน 15,000 บาท

  • Equity = 100,000 – 15,000 = 85,000 บาท
  • Free Margin = 85,000 – 20,000 = 65,000 บาท

ภาพอธิบายความสำคัญของ Free Margin ต่อการเทรด ที่มีเรื่องสำคัญคือ การช่วยให้พอร์ตยังคงรั้งไว้หลังจากไปผิดทาง

Free Margin เหลือน้อยเกิดอะไรขึ้น

  • ถ้า Free Margin เหลือต่ำมาก เช่น ต่ำกว่าเกณฑ์ที่โบรกตั้งไว้ ระบบจะเตือนว่าเข้าเขต Margin Call
  • ถ้าไม่เติมเงินหรือไม่ปิดบางไม้เพื่อคืน Margin และราคาเคลื่อนไหวสวนไปอีก ก็มีโอกาสเข้าสู่ระดับ Stop Out โบรกจะปิดออเดอร์ให้เองเพื่อป้องกันพอร์ตติดลบ
  • ระดับ Margin Call กับ Stop Out ไม่เหมือนกันในแต่ละโบรก บางเจ้า Margin Call อยู่ที่ 100 เปอร์เซ็นต์ บางเจ้าอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ ต้องดูเงื่อนไขให้ดี
  • บางคนเข้าใจผิดว่าพอร์ตยังไม่พัง เพราะออเดอร์ยังไม่ถูกปิด แต่จริง ๆ แล้วแค่ Equity ยังไม่ต่ำพอเฉย ๆ
  • ถ้า Free Margin ใกล้ศูนย์ จะไม่สามารถเปิดออเดอร์ใหม่ได้เลย เพราะระบบจะคำนวณว่า Margin ไม่พอสำหรับการค้ำออเดอร์ใหม่ แม้จะเห็นเงินในบัญชีอยู่ก็ตาม
  • พอร์ตที่ Free Margin ต่ำมากจะมีความเปราะบางสูงมากต่อการแกว่งของราคานิดเดียวก็ทำให้เข้าเขต Stop Out ได้ง่าย โดยเฉพาะช่วงข่าวแรง ๆ หรือสเปรดกว้าง
  • เทรดเดอร์ที่ไม่มีระบบคุมความเสี่ยง เช่น ไม่ตั้ง Stop Loss หรือเปิดหลายออเดอร์ซ้อนกัน อาจเจอพอร์ตระเบิดได้แม้จะมีทุนค่อนข้างมาก เพราะใช้ Free Margin หมดเร็วโดยไม่รู้ตัว

เคสที่เคยเจอ
เปิดไม้ไว้เยอะเกินไปจน Free Margin เหลือหลักร้อย ทั้งที่พอร์ตมีหลักหมื่น พอราคาขยับสวนแรง ๆ ไม่กี่พิป โดน Stop Out ทันทีโดยไม่มีโอกาสได้แก้ไม้

ภาพแสดงถึงรายละเอียด ของ Free Margin ที่เหลือน้อย ถ้าเปิดหลายไม้พร้อมกัน กราฟสะบัดทีเดียวพอร์ตก็บินได้เลย

ข้อควรรู้เพื่อรักษา Free Margin ให้ปลอดภัย

  • ต้องรู้ว่าตัวเองรับความเสี่ยงได้แค่ไหน อย่าเทรดเกินกำลัง เช่น พอร์ตมี 5,000 บาทแต่เปิดล็อต 0.5 ถือว่าเสี่ยงเกินไป
  • อย่าใช้ Leverage สูงเกินไปแบบไม่จำเป็น เพราะแม้จะเปิดออเดอร์ได้เยอะ แต่พอร์ตจะอ่อนไหวมากกับการแกว่งของราคา
  • หมั่นเช็ค Free Margin เป็นนิสัย โดยเฉพาะตอนถือออเดอร์ข้ามคืนหรือก่อนเข้าออเดอร์เพิ่ม
  • ถ้าเทรดข่าว หรือช่วงที่ตลาดผันผวนสูง เช่นตอนประกาศดอกเบี้ย หรือ NFP ควรเว้นระยะให้ Free Margin เผื่อมากเป็นพิเศษ
  • การเปิดหลายไม้พร้อมกันแบบไม่มีแผนชัดเจน จะกิน Margin เรื่อย ๆ จนพอร์ตหายใจไม่ออก
  • ตั้งกฎการบริหารเงินทุน (Money Management) เช่น กำหนดไม่เกิน 1-2% ของพอร์ตในแต่ละออเดอร์ เพื่อป้องกัน Free Margin รั่วไหลเร็วเกินไป
  • ใช้เครื่องมือช่วยเช็คสถานะพอร์ต เช่น การตั้ง Alert เมื่อ Free Margin ต่ำกว่าระดับที่กำหนด เพื่อเตือนให้รีบจัดการก่อนพอร์ตเสี่ยงล้าง
  • ฝึกฝนการตัดสินใจไม่เปิดออเดอร์เพิ่มเมื่อตัวเลข Free Margin ใกล้หมด โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดไม่ชัดเจนหรือผันผวนสูง เพื่อรักษาพอร์ตให้ยืนระยะได้ยาวนาน
  • ถ้า Free Margin เหลือต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ จะไม่เปิดไม้เพิ่มเด็ดขาด และจะเริ่มทยอยปิดบางไม้เพื่อลดความเสี่ยง

ภาพอธิบายถึง 5 ข้อ ที่จะทำให้คุณใช้ Free Margin ได้อย่างถูกต้อง ถูกวิธี ซึ่งจะต้องมีแผนในการเทรด ไม่ใช่เทรดมั่ว

คลิปที่น่าสนใจ

  • คลิปที่น่าสนใจสำหรับบทความก็ต้องขอแนะนำ คลิปวิธีการคำนวณ Free margin จากช่อง  RBFX Knowledge Channel Thailand

สรุป

  • Free Margin คือเงินว่างในพอร์ตที่เหลือหลังจากใช้ไปกับ Margin เพื่อเปิดออเดอร์ มันคือ “พื้นที่ปลอดภัย” ที่ทำให้คุณสามารถถือไม้ที่เปิดอยู่และเปิดไม้ใหม่ได้
  • Free Margin จะเปลี่ยนตามกำไร-ขาดทุนลอยตัว (Equity) และขนาดของออเดอร์ที่เปิด (Margin) ถ้า Equity ลดลง Free Margin ก็จะลดตาม
  • ถ้า Free Margin เหลือน้อยเกินไป พอร์ตจะเสี่ยงโดน Margin Call หรือ Stop Out ได้ง่าย
  •  Free Margin ไม่ใช่แค่เงินว่างสำหรับเปิดออเดอร์ใหม่ แต่ยังเป็นตัววัดความสามารถในการ “ทนความผันผวน” ของพอร์ตด้วย
  • การรักษา Free Margin ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมช่วยให้มีโอกาสแก้ไม้หรือปรับพอร์ตเมื่อเจอความเสี่ยงอย่างฉับพลัน
  • Free Margin ที่เหลือน้อยอาจทำให้ระบบอัตโนมัติ (EA) หยุดทำงานหรือเปิดออเดอร์เพิ่มไม่ได้ ส่งผลต่อกลยุทธ์เทรดโดยตรง
  • การติดตามและบริหาร Free Margin เป็นส่วนสำคัญของวินัยเทรด ที่ช่วยลดความเสี่ยงพอร์ตพังและเพิ่มโอกาสทำกำไรในระยะยาว

อ้างอิง

FAQ — Free margin คืออะไร สรุปแบบเข้าใจง่าย

Margin คือเงินที่ถูกล็อกไว้สำหรับเปิดออเดอร์ Equity คือมูลค่าพอร์ตรวมกำไรขาดทุนลอยตัว Free Margin คือเงินที่เหลือหลังจากเอา Equity มาหักกับ Margin ซึ่งเป็นเงินว่างที่ใช้เปิดออเดอร์ใหม่หรือรองรับความเสี่ยงจากการแกว่งของราคา
เพราะ Equity เปลี่ยนตามกำไรหรือขาดทุนลอยตัวของออเดอร์ที่เปิดอยู่ ส่วน Margin จะคงที่จนกว่าออเดอร์นั้นจะถูกปิด ดังนั้นเมื่อกำไรเพิ่ม Free Margin จะเพิ่มตาม แต่ถ้าขาดทุน Free Margin จะลดลงทันที
เมื่อ Free Margin ลดลงต่ำกว่าระดับที่โบรกเกอร์กำหนด เช่น ต่ำกว่า 30 หรือ 50 เปอร์เซ็นต์ของ Margin ระบบจะส่งสัญญาณ Margin Call หากไม่แก้ไขและ Equity ลดลงต่อจนถึงระดับ Stop Out โบรกเกอร์จะปิดออเดอร์บางส่วนหรือทั้งหมด เพื่อป้องกันพอร์ตติดลบ
ควรตั้งกฎไม่เปิดออเดอร์ใหม่เมื่อ Free Margin ต่ำกว่าระดับปลอดภัย ใช้คำสั่ง Stop Loss ในทุกออเดอร์ หลีกเลี่ยงใช้ Leverage สูงเกินจำเป็น และเว้นระยะเวลาถือออเดอร์ให้เหมาะสมกับสภาพตลาด
EA ต้องตรวจสอบ Free Margin ก่อนเปิดออเดอร์ใหม่ หาก Free Margin ไม่เพียงพอ ระบบอาจไม่สามารถเปิดไม้ใหม่หรือจำเป็นต้องปิดออเดอร์บางส่วนเพื่อคืน Margin ทำให้กลยุทธ์ทำงานผิดพลาดหากไม่ได้บริหาร Free Margin อย่างเหมาะสม

 

เขียนโดย

Pakornkiat Poonsuk

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chatchawal Nakcharoen