สวัสดีครับทุกคน! ถ้าพูดถึงเครื่องมือที่ช่วยให้งานเทรดง่ายขึ้น สบายตาขึ้น และช่วยให้เราดูแนวโน้มตลาดได้แบบ “ชัดแจ๋ว” กราฟ Heiken Ashi Indicator ก็น่าจะติดโผอันดับต้นๆ ครับ

“เฮเคน อาชิ” หรือ Heiken Ashi ฟังดูเหมือนชื่อซามูไรญี่ปุ่นใช่ไหมครับ? แต่จริงๆ แล้วมันคือคำภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า ค่าเฉลี่ยของแท่งเทียน ซึ่งบอกเลยว่าเครื่องมือนี้ไม่ได้มีไว้แค่ทำกราฟให้สวยนะครับ แต่ยังช่วยให้เราเข้าใจการเคลื่อนไหวของตลาดได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องปวดหัวกับ “สัญญาณหลอก” ที่บางทีกราฟแท่งเทียนปกติชอบหลอกเราอยู่บ่อยๆ ครั

ทำความรู้จัก Heiken Ashi Indicator

รูปที่ 1 อธิบายและขยายความเกี่ยวกับอินดิเคเตอร์ Heiken Ashi ว่าแปลว่าอะไรใช้ประโยชน์ด้านไหน

ถ้าพูดถึง Heiken Ashi หลายคนอาจจะนึกว่าเป็นชื่อของตัวละครในหนังซามูไร แต่เปล่าเลยครับ! จริงๆ แล้ว Heiken Ashi (เฮเคน อาชิ) เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า “ค่าเฉลี่ยของแท่งเทียน” ซึ่งตรงกับบทบาทของมันแบบเป๊ะๆ เลย เพราะกราฟ Heiken Ashi ถูกออกแบบมาเพื่อ “ปรับแต่ง” แท่งเทียนปกติ ให้ดูเนียนขึ้นและเข้าใจง่ายกว่าเดิมครับ

ที่มาของคำว่า “Heiken Ashi” 

  • คำว่า Heiken (平均) หมายถึง “ค่าเฉลี่ย” 
  • Ashi (足) หมายถึง “เท้า” หรือ “ก้าว” ซึ่งถ้าจะแปลแบบจริงจังในโลกของกราฟมันก็คือ “ค่าเฉลี่ยของการเคลื่อนไหว” 
  • แต่ถ้าแปลแบบฮาๆ หน่อย ก็อาจจะแปลได้ว่า “กราฟที่เดินแบบเนียนๆ ไม่มีสะดุด” เพราะมันช่วยกรองความผันผวนที่มักจะทำให้เราใจสั่นจนเผลอเทรดพลาดครับ

จุดเด่นของ Heiken Ashi Indicator ที่คุณต้องหลงรัก

  • กราฟที่ดู “เนียน” กว่าแบบ Candlestick
    • ถ้า Candlestick คือกราฟที่เต็มไปด้วยจุดสูง จุดต่ำ ไส้เทียนยาวเฟื้อย Heiken Ashi ก็คือกราฟที่ดูเรียบง่ายเหมือน “โรตีสายไหมที่ม้วนเรียบร้อย” ครับ
    • มันช่วยให้เรามองแนวโน้มได้ชัดขึ้นโดยไม่มี “เสียงรบกวน” จากการเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ ในตลาด
  • ช่วยลด “สัญญาณหลอก” ทำให้อ่านแนวโน้มง่ายขึ้น
    • บางทีกราฟ Candlestick ทำให้เราโดนหลอกด้วยแท่งเทียนที่กลับตัวแบบไม่จริง แต่ Heiken Ashi ช่วยกรองตรงนี้ออกไปครับ
    • คุณจะเห็นแนวโน้มได้ชัดขึ้น เช่น ถ้าแท่งเทียนต่อเนื่องเป็นสีเขียวก็แปลว่าแนวโน้มยังขาขึ้น ส่วนถ้าเป็นสีแดงก็หมายถึงขาลงแบบชัดๆ ครับ

Heiken Ashi กับการวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend Analysis)

รูปที่ 2 อธิบายตัวอย่างการใช้อินดิเคเตอร์ Heiken Ashi กับการวิเคราะห์แนวโน้ม

  • การดูแนวโน้มอย่างแม่นยำด้วยกราฟเนียนๆ
    • Heiken Ashi เป็นตัวช่วยที่เยี่ยมยอดสำหรับการวิเคราะห์แนวโน้มครับ เพราะมันช่วยลดความผันผวนของตลาดและทำให้แนวโน้มดู “ชัดเจน” ขึ้นมาก 
    • ถ้ากราฟ Heiken Ashi มีแท่งเทียนสีเขียวต่อเนื่องกัน นั่นหมายถึงแนวโน้มขาขึ้นกำลังแข็งแกร่ง
    • ในทางกลับกัน ถ้าแท่งเทียนเป็นสีแดงต่อเนื่อง แนวโน้มขาลงก็กำลังชัดเจนครับ
  • ตัวอย่างสถานการณ์จริง พร้อมคำอธิบายเข้าใจง่าย
    • สมมติว่าคุณกำลังดูกราฟคู่เงิน XAU/USD แล้วเจอแท่ง Heiken Ashi สีเขียวเรียงยาว 5 แท่ง นี่คือตัวบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นยังคงมีพลังครับ
    • คุณสามารถใช้โอกาสนี้เปิด Buy และรอจนกว่าแท่งเทียนจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเพื่อพิจารณาปิดออเดอร์
  • การใช้กราฟ Heiken Ashi เพื่อหาจุดเปลี่ยนเทรนด์
    จุดกลับตัวเป็นหัวใจสำคัญของการเทรดครับ และ Heiken Ashi ทำให้การระบุจุดนี้ง่ายขึ้น โดยคุณสามารถสังเกตได้จาก

    • สีของแท่งเทียนเปลี่ยน เช่น จากสีเขียวเป็นสีแดง หรือจากสีแดงเป็นสีเขียว

Heiken Ashi และการใช้ร่วมกับ Indicator อื่นๆ

รูปที่ 3 อธิบายตัวอย่างการใช้อินดิเคเตอร์ Heiken Ashi กับการใช้ร่วมกับ MACD

  • แนะนำการจับคู่ Heiken Ashi กับ RSI หรือ MACD
    Heiken Ashi จะแสดงแนวโน้ม ส่วน RSI และ MACD จะช่วยยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้มครับ เช่น

    • ใช้ RSI เพื่อตรวจสอบ Overbought/Oversold ขณะที่ดูแนวโน้มจาก Heiken Ashi
    • ใช้ MACD เพื่อยืนยันจุดตัด (Crossover) ร่วมกับการเปลี่ยนสีของแท่ง Heiken Ashi
  • สูตรเด็ดที่ใช้ง่ายและเหมาะกับมือใหม่
    • รอให้ Heiken Ashi เปลี่ยนสี เช่น จากแดงเป็นเขียว
    • ยืนยันด้วย MACD ที่เริ่มมี Cross ขาขึ้น
    • เปิด Buy และใช้ Stop Loss ใต้จุดต่ำสุดของแท่ง Heiken Ashi ล่าสุดครับ

ข้อดี-ข้อเสียของ Heiken Ashi Indicator

ข้อดีของ Heiken Ashi ที่คุณจะหลงรัก

  • กราฟสวย อ่านง่าย
    • พูดถึง Heiken Ashi สิ่งแรกที่ทำให้ทุกคนตกหลุมรักคือกราฟที่ดู “สบายตา” มากครับ ไม่มีไส้เทียนยาวๆ 
    • กราฟดูเรียบง่ายช่วยให้เรามองเห็นแนวโน้มได้ชัดเจน ไม่ต้องเดาให้เหนื่อยครับ
  • เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบเทรนด์ยาวๆ ครับ
    • สำหรับสาย Trend Following Heiken Ashi ถือเป็นเครื่องมือคู่ใจเลยครับ เพราะมันช่วยยืดแนวโน้มให้นานขึ้นได้
    • เช่น หากกราฟแท่งเทียนธรรมดาอาจแสดงสัญญาณหลอกบ่อยๆ Heiken Ashi จะกรองสัญญาณพวกนั้นออกไป ทำให้เทรดเดอร์ที่ชอบถือออเดอร์ยาวๆ สามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจครับ

ข้อเสียของ Heiken Ashi ที่คุณต้องรู้

  • ขาดรายละเอียดในกราฟแบบ Candlestick
    • ข้อเสียของ Heiken Ashi คือมันไม่ได้แสดงราคาสูงสุด ต่ำสุด เปิด และปิดที่แท้จริงของตลาดแบบกราฟแท่งเทียนทั่วไปครับ 
    • สำหรับบางคนที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก เช่น Scalper หรือ Day Trader อาจรู้สึกว่า Heiken Ashi ให้ข้อมูลไม่มากพอ
  • อาจไม่เหมาะกับการเทรด Scalping ครับ
    • เนื่องจาก Heiken Ashi ถูกออกแบบมาเพื่อลดความผันผวนและให้ภาพรวมของแนวโน้ม มันจึงตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงราคาที่ช้ากว่าแบบ Candlestick
    • การเทรด Scalping ต้องอาศัยความเร็วและการตัดสินใจแบบทันทีทันใดอาจไม่เหมาะกับการใช้ Heiken Ashi ครับ

สรุป

หลังจากที่เราได้เรียนรู้ทุกมุมเกี่ยวกับ Heiken Ashi Indicator ไม่ว่าจะเป็นการดูแนวโน้ม การหาจุดกลับตัว หรือการใช้คู่กับเครื่องมืออื่นๆ ผมเชื่อว่าหลายคนคงเริ่มมองภาพกราฟแบบใหม่ที่ “เนียนตา” และน่าประทับใจมากขึ้นแล้วใช่ไหมครับ?

Heiken Ashi ไม่ใช่แค่กราฟสวยๆ เท่านั้น แต่มันคือเพื่อนรู้ใจที่ช่วยให้เรามองตลาดได้อย่างเป็นระบบ ลดความสับสน และเพิ่มความมั่นใจในการเทรดครับ แน่นอนว่ามันไม่ได้สมบูรณ์แบบในทุกสถานการณ์ แต่ถ้าใช้อย่างเหมาะสม มันจะช่วยให้คุณเป็นเทรดเดอร์ที่เก่งขึ้นได้แน่นอนครับ

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

 

เขียนโดย

Somchai Witthtaya

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chonthicha Poomidon