Lot Size คืออะไร รู้จักขนาดของสัญญาแต่ละประเภท

Lot Size คืออะไร

Lot Size คือ ขนาดมาตรฐานของสัญญา แสดงถึงปริมาณในการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ Lot จะมีขนาดที่แตกต่างกันตามสัญญาแต่ละประเภท เช่น Lot Standard (ขนาดมาตรฐาน), Mini Lot (ขนาดเล็กกว่า  Standard) , Micro Lot (มีขนาดเล็กที่สุด)

ประเภท Lot Size มีดังต่อไปนี้

• Lot Standard: มีขนาด 100,000 หน่วยสกุลเงินหลัก
• Mini Lot: มีขนาด 10,000 หน่วยสกุลเงินหลัก
• Micro Lot: มีขนาด 1,000 หน่วยสกุลเงินหลัก
• Nano Lot: มีขนาด 100 หน่วยสกุลเงินหลัก

Lot แต่ละประเภท จะมีขนาดที่แตกต่างกัน เมื่อต้องการเปิดออเดอร์ 1 Lot Standard จะต้องใช้เงินลงทุนอยู่ที่ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือต้องการเปิดออเดอร์ 1 Mini Lot จะต้องใช้เงินลงทุนอยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแบ่งไปตามประเภทบัญชีที่กำหนด Lot หรือมีตัวคูณที่แตกต่างกัน

แต่เมื่อนำเลเวอเรจ (Leverage) เข้ามาใช้ จะสามารถเทรด Lot ขนาดเท่าเดิมได้ แต่ใช้เงินทุนลดลง ตัวอย่างเช่น

ต้องการเทรด 1 Lot Standard เดิมจะต้องใช้เงินลงทุน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อใช้เลเวอเรจ 1:1000 ใช้เงินลงทุนเพียง 100 ดอลลาร์สหรัฐ ก็สามารถเปิดออเดอร์ 1 Lot ได้

จะเห็นได้ว่า สามารถเทรดสัญญาขนาดใหญ่ ได้ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อย โดยการใช้ “เลเวอเรจ” ยิ่งใช้เลเวอเรจสูง จะยิ่งใช้เงินทุนน้อยลง ในระหว่างเดียวกัน ความเสี่ยงก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย แม้จะไม่ได้ใช้เงินทุนสูงก็ตาม แต่ทุกการเคลื่อนที่ก็จะมีมูลค่าที่วิ่งตามเสมอ

Lot Size มีความสำคัญอย่างไร

ขนาด Lot ที่ทำการซื้อขาย ส่งผลโดยตรงต่อความเสี่ยง เช่น Lot Standard ความเสี่ยงสูงกว่า Mini Lot หรือ Micro Lot เนื่องจากมูลค่าของ Pip เปลี่ยนแปลงไปตามประเภทของ Lot และทุก ๆ การเคลื่อนที่ นั่นคือความเสี่ยงที่ต้องจัดการ หรือวางแผนสำหรับการเคลื่อนที่เอาไว้ล่วงหน้า

ประเภทบัญชี ที่มีขนาด Lot แตกต่างกัน คือตัวกำหนดด่านแรก ที่เทรดเดอร์จะต้องเลือกบัญชีที่เหมาะสม ส่วนการคำนวนหา Lot Size จะเป็นการคำนวนตามความเสี่ยงที่เทรดเดอร์ สามารถเทรดและเสี่ยงได้ในแต่ละครั้ง

การเทรดด้วยขนาด Lot Size ที่เหมาะสม จะเป็นการเทรดที่อยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ป้องกันการ Overtrade ที่จะนำมาซึ่งความเสียหายต่อพอร์ตและเงินทุน

Pip Value มูลค่าการเคลื่อนที่ของราคา ที่สัมพันธ์กับ Lot

Pip คือ ปริมาณการเคลื่อนที่ราคาต่อหน่วย มูลค่าขึ้นอยู่กับประเภท Lot ปัจจุบันมีโบรกเกอร์บริการให้ราคา 2 ประเภท คือ

แสดงจุดทศนิยมในรูปแบบราคา จุดทศนิยม 2 ตำแหน่งและจุดทศนิยม 4 ตำแหน่ง

• จุดทศนิยม 2 ตำแหน่ง: USD/JPY: 101.28 จุดทศนิยมตำแหน่งที่ 2 หรือเลข 8 หน่วยเป็น Pip บางโบรกเกอร์ที่มีจุดทศนิยมตำแหน่งที่ 3 หน่วยคือ Point
• ตัวอย่าง เมื่อราคาขยับจาก 101.28 ไป 101.86 มีค่าเท่ากับ 0.58 หรือ 5 Pip อีก 8 Point หรือเรียกง่าย ๆ ว่า 58 จุด
• จุดทศนิยม 4 ตำแหน่ง: EUR/USD: 1.0002 จุดทศนิยมตำแหน่งที่ 4 หรือเลข 2 หน่วยเป็น Pip บางโบรกเกอร์ที่มีจุดทศนิยมตำแหน่งที่ 5 หน่วยคือ Point
• ตัวอย่าง เมื่อราคาขยับจาก 1.0002 ไป 1.0032 มีค่าเท่ากับ 0.0030 หรือ 30 Pip อีก 300 Point
• บางโบรกเกอร์ แสดงราคา 1.00021 เลข 2 หน่วยเป็น Pip เลข 1 หน่วยเป็น Point อาจจะเรียกว่า 21 จุด หรือ Point

จุด (Point) คือหน่วยที่เล็กที่สุด

• Point: คือหน่วยที่เล็กกว่า Pip หลายคนเรียกว่า “จุด”
• จุดทศนิยมตำแหน่งที่ 4: เรียกเป็น Pip
• จุดทศนิยมตำแหน่งที่ 5: เรียกเป็น Point หรือจุดก็ได้ เช่น ราคาเคลื่อนที่ไป 200 จุด
• Point คือหน่วยที่เล็กที่สุด: 100 Point เท่ากับ 10 Pip

Pip Value กับมูลค่าของเงิน

Pip Value โดยอ้างอิงจากสกุลเงินหลักนั่นก็คือ USD เพื่อให้เข้าใจง่ายต่อความเคลื่อนไหว

• 1 Lot Standard: ราคาเคลื่อนที่ 1 Pip เท่ากับ 10 USD
• 1 Mini Lot: ราคาเคลื่อนที่ 1 Pip เท่ากับ 1 USD
• 1 Micro Lot: ราคาเคลื่อนที่ 1 Pip เท่ากับ 0.10 USD
• 1 Nano Lot: ราคาเคลื่อนที่ 1 Pip เท่ากับ 0.01 USD

อาจมีความแตกต่างของแต่ละสกุลเงิน ขึ้นอยู่กับสกุลเงินที่เลือกเทรด

Pip Value กับมูลค่าแต่ละคู่เงิน

ตัวอย่าง สกุลเงิน EUR/USD อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1.00200

สูตรคำนวน เพื่อหามูลค่าของ Pip โดยอ้างอิงตัวอย่างจากสกุลเงิน EUR/USD

สูตรคำนวณ มูลค่า Pip = (1 Pip / อัตราแลกเปลี่ยน) * ขนาดของ Lot

ตัวอย่างที่ 1

• 1 Pip: 0.0001
• สกุลเงินพื้นฐานของบัญชี: USD
• คู่สกุลเงิน: EUR/USD
• อัตราแลกเปลี่ยน:00200
• ขนาดของ Lot: 1 Lot

มูลค่า Pip = 10 USD

ตัวอย่างที่ 2

• 1 Pip: 0.001
• สกุลเงินพื้นฐานของบัญชี: USD
• คู่สกุลเงิน: USD/JPY
• อัตราแลกเปลี่ยน:565
• ขนาดของ Lot: 1 Lot

มูลค่า Pip = 6.43 USD

 

ทำไมจะต้องกำหนด Lot Size

• เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการความเสี่ยง
• คำนวนผลได้เสีย คาดหวังผลกำไรขาดทุน ได้อย่างแม่ยำ
• กำหนด Lot Size อย่างเหมาะสมสำหรับการเทรดในแต่ละครั้ง

แสดงความสำคัญในการกำหนด Lot Size และประโยชน์ในการกำหนด

ตัวอย่างเช่น เมื่อเทรดเดอร์วางแผนการเทรดเอาไว้ก่อนหน้าแล้ว และสัญญาณในการเข้าเทรดใกล้เข้ามาถึง กำหนดจุดเข้าเทรด จุดทำกำไร และจุดตัดขาดทุน ไว้เป็นที่เรียบร้อย

ลับดับต่อมา จะต้องคำนวนเพื่อหาความเสี่ยง และเปิดออเดอร์ในขนาดที่เหมาะสม เพื่อคุมความเสี่ยงให้อยู่ในจุดที่ยอมรับได้

• จุดเข้า Buy EUR/USD ที่ราคา: 00000
• จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): โดยวางไว้ห่างจากจุดเข้าอยู่ที่ 50 Pip
• จุดทำกำไรคำสั่ง (Take Profit): คาดการณ์ผลกำไรอยู่ที่ 100 Pip
• เงินทุนในพอร์ต: 10,000 USD ใช้ความเสี่ยง 3% เท่ากับว่า ออเดอร์นี้เสี่ยงได้อยู่ที่ 300 USD
• เปิดออเดอร์: ด้วยการควบคุม ไม่ให้เกินความเสี่ยงที่กำหนดไว้ นำเอาจุด หรือ Point หารด้วยเงินทุนที่สามารถเสี่ยงได้ จะได้ 0.6
• ผลขาดทุน เมื่อผิดทาง: ผิดทางขาดทุนไม่เกิน 300 USD
• ผลกำไร เมื่อถูกทาง: จะได้กำไร 600 USD
• คิดเป็น RR: 1:2

ข้อควรระวัง ทุกครั้งที่เปิดออเดอร์ จะมีค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้น นั่นก็คือ ค่าสเปรด (Spread) เป็นค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย เป็นช่องว่างระหว่างราคาซื้อกับราคาขาย ที่กำหนดราคาซื้อขายด้วยเส้น bid (ราคาขาย) และราคา Ask (ราคาซื้อ)

ดังนั้น กำไรขาดทุน อาจจะไม่เป็นไปตามคำนวนทั้ง 100% เพราะจะต้องหักจากค่าใช้จ่ายเหล่านี้ หรือเทรดเดอร์อาจจะเปิดออเดอร์ หรือปิดออเดอร์โดยเผื่อเหลือ เผื่อขาด สำหรับค่าใช้จ่ายตรงนี้ด้วย

วิธีคำนวน Lot Size

วิธีการคำนวน จะมีความแตกต่างกันออกไป แต่วัตถุประสงค์ในการคำนวน Lot Size คือหาขนาดที่เหมาะสมกับการเทรด เพื่อให้สามารถควบคุมความเสี่ยงไว้ ให้อยู่ในจุดที่ปลอดภัย มีวิธีการคำนวน ดังต่อไปนี้

สูตรการคำนวน

เงินทุน X ความเสี่ยง / Point (ระยะ SL)

ตัวอย่างเช่น มีเงินทุน 10,000 USD ใช้ความเสี่ยงที่ 3% เมื่อวางแผนการเทรดเป็นที่เรียบร้อย ระยะจุดเข้า ไปจนถึง SL อยู่ที่ 600 Point

• 10,000 X 3% = 30
• 30 / 600 = 0.05 Lot (Lot Standard เป็นบัญชีมาตรฐานที่นิยมใช้กัน)

ออเดอร์นี้ ใช้ความเสี่ยงที่ 3% ของพอร์ต จะเปิดออเดอร์ได้ไม่เกิน 0.05 เท่านั้น สามารถเปิดครั้งเดียว หรือแบ่งออกเป็น 0.01 X 5 ครั้ง ได้เช่นกัน

Lot Size สำหรับทองคำ

ต่างสินทรัพย์ ขนาดและปริมาณย่อมแตกต่างกันออกไป Lot Size ทองคำ จึงมีปริมาณในการวัดและวิธีคำนวนที่แตกต่างจากคู่สกุลเงิน หน่วยมาตรฐานในการวัดทองคำ 1 Lot มีมูลค่าเท่ากับ 100 oz (ทรอยออนซ์)

Pip ทองคำ กับ Pip สกุลเงิน

ก่อนที่จะไปคำนวน Lot Size จะต้องเข้าใจวิธีการดู Pip ก่อน เพราะทองคำจะมีความแตกต่างสกุลเงิน คู่สกุลเงินจะมีราคา 2 ประเภทดังนี้

Pip สกุลเงิน

• จุดทศนิยม 2 ตำแหน่ง: USD/JPY: 101.28 จุดทศนิยมตำแหน่งที่ 2 หรือเลข 8 หน่วยเป็น Pip บางโบรกเกอร์ที่มีจุดทศนิยมตำแหน่งที่ 3 หน่วยคือ Point
• ตัวอย่าง เมื่อราคาขยับจาก 101.28 ไป 101.86 มีค่าเท่ากับ 0.58 หรือ 5 Pip อีก 8 Point หรือเรียกง่าย ๆ ว่า 58 จุด

 

• จุดทศนิยม 4 ตำแหน่ง: EUR/USD: 1.0002 จุดทศนิยมตำแหน่งที่ 4 หรือเลข 2 หน่วยเป็น Pip บางโบรกเกอร์ที่มีจุดทศนิยมตำแหน่งที่ 5 หน่วยคือ Point
• ตัวอย่าง เมื่อราคาขยับจาก 1.0002 ไป 1.0032 มีค่าเท่ากับ 0.0030 หรือ 30 Pip อีก 300 Point

 

Pip ทองคำ

XAU/USD คือ ทองคำเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เป็นสินทรัพย์ที่นิยมเทรดสำหรับเทรดเดอร์ทั่วโลก Pip ของทองคำ แสดงได้ดังต่อไปนี้

XAU/USD: 2300.45

จุดทศนิยมตำแหน่งที่ 1 หรือเลข 4 คือตำแหน่งที่ใช้เรียก Pip และเลข 5 คือ Point สำหรับทองคำ หากราคาขยับไปจาก 2300.45 ไปที่ 2300.65 มีค่าเท่ากับ 0.2 หรือ 2 Pip

การเทรดทองคำ

ทองคำถูกนำมาเทียบกับ USD สัญลักษณ์คือ XAU/USD โดย 1 Pip มีมูลค่า 10 USD สำหรับประเภท Lot Standard ตัวอย่างเช่น

• เปิดออเดอร์ 1 Lot Standard
• ทุก ๆ 1 Pip มีมูลค่า 10 USD
• ทองคำขยับ 1 เหรียญทองคำ
• เช่น ราคาจาก 1855.20 ขยับไปที่ 1856.20 นั่นคือการขยับ 10 Pip

สูตรคำนวน Lot Size สำหรับทองคำ

เงินทุน X ความเสี่ยง / Point (ระยะ SL)

ตัวอย่างเช่น มีเงินทุน 10,000 USD ใช้ความเสี่ยงที่ 1% เมื่อวางแผนการเทรดเป็นที่เรียบร้อย ระยะจุดเข้า ไปจนถึง SL อยู่ที่ 600 Point

• 10,000 X 1% = 10
• 10 / 600 = 0.01 Lot

ออเดอร์นี้ ใช้ความเสี่ยงที่ 1% ของพอร์ต จะเปิดออเดอร์ได้ไม่เกิน 0.01 เท่านั้น

Lot ในสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ หรือตลาดที่แตกต่างออกไป

Lot คือขนาดสัญญา ที่ถูกกำหนดด้วยมาตรที่แตกต่างกัน และปริมาณของสินทรัพย์ที่นำมารวมกันเป็น 1 Lot สำหรับ สกุลเงิน Lot คือจำนวนเงินของหน่วยสกุลเงินฐาน ทองคำ Lot คือทรอยออนซ์ น้ำมัน Lot คือบาร์เรล และดัชนีหุ้น Lot คือราคาหนึ่งหุ้น

Lot Size ของ Forex

เราทราบกันดีแล้วว่า Lot Standard มีขนาดสัญญา 100,000 หน่วย ถ้าราคาคู่เงิน EUR/USD 1.18000 1 Lot จะมีมูลค่าอยู่ที่ 118,000 USD โดยมูลค่าจะเท่ากับสกุลเงินที่อยู่ด้านหลังเสมอ

Lot Size ทองคำ

Lot ของทองคำจะมีขนาดสัญญา 100 หน่วย เช่น ทองคำราคาอยู่ที่ 1,500 USD เมื่อทำการเข้าซื้อทองคำ 1 Lot จะมีมูลค่าอยู่ที่ 150,000

Lot Size สำหรับน้ำมัน

การเทรดน้ำมันดิบ CFD สัญลักษณ์ที่ใช้คือ US/OIL เป็นดอลลาร์เทียบกับน้ำมันดิบต่อหนึ่ง “บาร์เรล” Contract zine เท่ากับ 1000 หน่วย

Lot Size ดัชนีหุ้น

การเทรดดัชนีหุ้น โดยทั่วไปแล้ว 1 Lot ของหุ้น มีขนาดสัญญา 100 หน่วย เช่น หุ้นตัวหนึ่งราคา 150 USD ถ้าเข้าเทรด 1 Lot จะมีมูลค่าเป็น 15,000 USD หรือ 1 Lot เท่ากับ 100 หุ้นนั่นเอง

Lot Size สำหรับคริปโตเคอเรนซี่

Lot ของคริปโตเคอเรนซี่ โดยทั่วไปแล้วจะมีขนาดสัญญาอยู่ที่ 1 หน่วย ตัวอย่างเช่น ทำการเข้าซื้อบิทคอยน์ ในขณะที่ราคา 100,000 USD 1 Lot ก็จะมีมูลค่าเท่ากับ 100,000 USD

การใช้ Lot Size ให้เหมาะสม

คือ การเลือกขนาดสัญญาให้เหมาะสมกับเงินทุนและความเสี่ยง เมื่อใช้ความเสี่ยงสูง แม้โอกาสทำกำไรมีมาก แต่ความเสี่ยงที่ต้องรับ ย่อมมีมากเช่นกัน

ถ้าใช้ขนาดที่เหมาะสม อยู่ในความเสี่ยงที่กำหนด หรือควบคุมได้ ย่อมเกิดความเสียหายไม่เกินไปกว่าที่กำหนด เป็นหนึ่งในกระบวนการของการจัดการความเสี่ยงสำหรับเทรดเดอร์

วิธีการดูข้อมูลประเภทล็อตในโปรแกรม MT4

เพราะการลงทุน มีหลากหลายประเภทสินทรัพย์ จึงทำให้ขนาดสัญญามีความแตกต่างกัน เทรดเดอร์จำเป็นต้องรู้ เพื่อที่จะได้นำข้อมูลเหล่าเพื่อ จัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม และใช้เงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีดูข้อมูลประเภทล็อต หรือขนาดของสัญญาใน MT4 มีดังต่อไปนี้

ขั้นตอนในการดูข้อมูลของสกุลเงิน เพื่อให้แน่ใจว่าประเภทบัญชี มี Contract size อยู่ที่เท่าไร ก่อนที่จะนำตัวเลขดังกล่าว เพื่อไปคำนวนจัดการความเสี่ยงดังที่ได้กล่าวไว้แล้วในเบื้องต้น

1. เลือกสกุลเงินที่สนใจ หรือต้องการดูรายละเอียด แล้วทำการคลิกขวา
2. จะมีหน้าต่างขึ้นมา แล้วให้คลิกไปที่ Specification
3. จะมีหน้าต่างที่แสดงข้อมูลต่าง ๆ ของสกุลเงินที่เลือก จากในภาพ Contract size 100000 ในบัญชีประเภท Standard

แน่นอนว่า แต่ละประเภทสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นดัชนีหุ้น คริปโต น้ำมัน ทองคำ จะมี Contract size ที่แตกต่างกัน รวมไปถึงประเภทบัญชีที่ใช้ เทรดเดอร์หรือนักลงทุน จำเป็นที่จะต้องศึกษารายละเอียด เพราะสิ่งนี้มีผลอย่างมากในการจัดการความเสี่ยง เพื่อที่จะสามารถวางแผนการเทรด และจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม

สรุป

Lot Size คือขนาดสัญญาที่เทรดเดอร์จะต้องทำความเข้าใจ เพื่อให้สามารถจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม กับสินทรัพย์ที่เลือกเทรด เพราะสินทรัพย์แต่ละประเภท จะมีขนาดสัญญาและปริมาณที่แตกต่างกัน ไม่สามารถใช้การคำนวนวิธีเดียว กับทุก ๆ สินทรัพย์ได้

การทำความเข้าใจอย่างถูกต้อง เป็นพื้นฐานที่สำคัญ ที่จะสามารถนำไปต่อยอดเพื่อให้การเทรด เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น

แต่กระนั้น การคำนวนเพื่อหาขนาดสัญญาที่เหมาะสม ก็ไม่ได้การันตีได้ว่าจะสามารถเอาชนะตลาดได้ เป็นเพียงกระบวนการหนึ่งในการบริหารจัดการความเสี่ยงเท่านั้น