Arbitrage คืออะไร?
- Arbitrage คือการหาผลกำไรจากความแตกต่างของราคาสินทรัพย์เดียวกันที่มีอยู่ในหลายตลาด เช่น ตลาด Forex, ตลาด CFDs เป็นต้น หรือระหว่างโบรกเกอร์ที่แตกต่างกัน
- โดยมีเป้าหมายคือ “ซื้อถูก ขายแพง” พร้อมกัน โดยไม่มีความเสี่ยงหากทำได้ทันเวลา
ตัวอย่างการทำ Arbitrage
ตัวอย่างที่ 1
- หากราคา ทองคำ ในตลาดหนึ่งอยู่ที่ 1,800 USD ต่อออนซ์
- และในอีกตลาดหนึ่งอยู่ที่ 1,805 USD ต่อออนซ์
- นักเทรดสามารถซื้อทองคำจากตลาดที่ราคา 1,800 USD และขายที่ตลาดที่ราคา 1,805 USD
- ทำให้ได้กำไรจากส่วนต่างราคา 5 USD ต่อออนซ์
ตัวอย่างที่ 2
- หากราคาของ คู่สกุลเงิน EUR/USD ที่โบรกเกอร์หนึ่งเป็น 1.1000
- และโบรกเกอร์อีกแห่งเป็น 1.1010
- นักเทรดสามารถซื้อที่ราคา 1.1000 และขายที่ราคา 1.1010
- เพื่อทำกำไรจากความต่าง 10 pip
การทำ Arbitrage ในแบบต่าง ๆ
- Spatial Arbitrage: การซื้อและขายสินทรัพย์ในตลาดต่างประเทศที่มีราคาแตกต่างกัน
- Temporal Arbitrage: การใช้ความแตกต่างของราคาในช่วงเวลาต่าง ๆ เช่น การใช้เวลาที่ตลาดยังไม่เปิดหรือปิด
- Statistical Arbitrage: การใช้ข้อมูลทางสถิติเพื่อหาโอกาสในการทำกำไรจาก การเคลื่อนไหวของราคา
ทำไมโบรกเกอร์ไม่ชอบ Arbitrage?
- โบรกเกอร์ ขาดทุนทันทีโดยไม่มีโอกาสได้กำไร
- มันไม่ใช่การเทรดปกติทั่วไป แต่คือการเล่นกับช่องว่างความล่าช้าของระบบ
- ถ้าโบรกเกอร์ไม่รีบออกกฏมาปิดช่องโหว่ อาจถูกบอท Arbitrage เล่นจนระบบเสียสมดุลได้
การทำ Arbitrage ส่งผลกระทบต่อตลาดและโบรกเกอร์
- เพราะมันสามารถทำให้พวกเขาขาดทุน
- จากการที่นักเทรดสามารถหาผลกำไรจากราคาที่แตกต่างกันในช่วงเวลาสั้น ๆ
- ซึ่งทำให้เกิดความไม่สมดุลในระบบการเทรดของโบรกเกอร์
ภาพอธิบายถึงการทำ Arbitrage เรียกได้ว่าเป็นการหาผลกำไร จากความต่างของราคาสินทรัพย์เดียวกันที่มีอยู่หลายตลาด เทรดเดอร์ ซื้อ Buy โบรกเกอร์ A และ ขาย Sell โบรกเกอร์ B ส่วนต่างคือ “กำไร”
ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับโบรกเกอร์
- ต้นทุนการดำเนินการสูงขึ้น
- การทำ Arbitrage สามารถทำให้โบรกเกอร์ต้องจัดการกับคำสั่งซื้อขายจำนวนมากในช่วงเวลาสั้น ๆ
- ซึ่งทำให้มีต้นทุนในการดำเนินการสูง
- การบิดเบือนราคา
- เทรดเดอร์ ที่ทำ Arbitrage อาจจะส่งผลกระทบต่อการตั้งราคาในระบบของโบรกเกอร์
- ทำให้ราคาสินทรัพย์หรือ คู่สกุลเงิน ผิดเพี้ยนจากสถานะปกติ
- ตัวอย่างเช่นการเกิด รีโควต นั่นเอง
การใช้เทคโนโลยีและการปรับปรุงระบบ
- โบรกเกอร์บางรายอาจใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการป้องกันการทำ Arbitrage
- การใช้ระบบการตรวจจับอัตโนมัติ (algorithmic trading) ที่สามารถจับการทำ Arbitrage ได้ทันที
- เพื่อป้องกันการหาผลกำไรที่ไม่เป็นธรรม
การป้องกันด้วยการบล็อกคำสั่ง
- โบรกเกอร์บางรายอาจจะบล็อกคำสั่งหรือปฏิเสธคำสั่งซื้อขายที่เกิดขึ้นในลักษณะของ Arbitrage โดยอ้างถึงข้อกำหนดในการใช้งานหรือกฎระเบียบที่ห้ามการทำ Arbitrage
ภาพแสดงถึงความยุ่งยาก ที่โบรกเกอร์บางราย ต้องจัดการกับคำสั่งซื้อขายจำนวนมากในเวลาสั้น ๆ บางโบรกเกอร์เข้มงวดถึงขั้นแบนไม่ให้กำไร และ ไม่ให้ถอนเงินด้วย
ข้อจำกัดที่โบรกเกอร์กำหนด
กฎระเบียบที่เข้มงวด
- โบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ หลายรายมีกฎที่ห้ามการเทรด Arbitrage โดยเฉพาะกับการเทรดที่ใช้ระบบอัตโนมัติหรือการเทรดที่มีความเร็วสูง
- เพราะมันอาจทำให้โบรกเกอร์ไม่สามารถจัดการกับปริมาณคำสั่งที่มากเกินไปในช่วงเวลาสั้น ๆ
การปรับปรุงราคาและ spread
- โบรกเกอร์อาจใช้วิธีการเพิ่ม spread หรือปิดการเปิดคำสั่งในบางกรณี
- เพื่อป้องกันการทำ Arbitrage ซึ่งอาจทำให้ได้กำไรจากความแตกต่างระหว่างราคาที่เสนอขายในตลาด
ตัวอย่างของผลกระทบจาก Arbitrage
ผลกระทบต่อความเสถียรของตลาด
- การทำ Arbitrage อาจทำให้เกิดความผันผวนในตลาด เพราะนักเทรดจะพยายามหาผลกำไรจากความแตกต่างของราคา โดยการดำเนินการนี้อาจทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การป้องกันโดยการใช้เทคโนโลยี
- โบรกเกอร์ที่พัฒนาแพลตฟอร์มขั้นสูง เช่น การใช้ ECN (Electronic Communication Network) หรือ STP (Straight Through Processing) ที่สามารถตรวจจับและจัดการกับการทำ Arbitrage ได้อย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อโบรกเกอร์
ทำไมยังคงมีการทำ Arbitrage ในตลาด?
- โอกาสในการทำกำไร
- แม้ว่าจะมีความเสี่ยงและข้อจำกัดจากโบรกเกอร์ แต่การทำ Arbitrage ยังคงเป็นโอกาสในการทำกำไรจากความแตกต่างของราคาในตลาดต่าง ๆ
- การใช้เทคโนโลยี
-
- การใช้ระบบการเทรดที่มีความเร็วสูงและอัลกอริธึมที่ซับซ้อนช่วยให้นักเทรดสามารถหาผลกำไรจากความแตกต่างของราคาในเวลาอันรวดเร็ว
การเข้าใจถึง Arbitrage และเหตุผลที่โบรกเกอร์ไม่ชอบสามารถช่วยให้นักเทรดสามารถจัดการกับ กลยุทธ์การเทรด ได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการทำ Arbitrage ในตลาด
ภาพแสดงถึงข้อควรระวังสำหรับนักเทรดที่ชอบใช้กลยุทธ์ Arbitrage เพราะว่า ในข้อกำหนดการสมัคร มีบอกว่าถ้าคุณทำผิดกฎ จะถูก Banned จากทางโบรกเกอร์
ตัวอย่างของนักเทรดที่ถูกแบนเพราะทำ Arbitrage
- ตัวอย่างของนักเทรดที่ถูกโบรกเกอร์แบนหรือปิดบัญชี เนื่องจากการทำ Arbitrage มีอยู่จริง
- เกิดขึ้นกับนักเทรดที่ใช้ EA (Expert Advisor) หรือ ระบบอัตโนมัติ เพื่อดักจับความต่างของราคาระหว่างโบรกต่าง ๆ
- แม้แต่ในบัญชีเดียวกันช่วงตลาดผันผวน ต่อไปนี้คือตัวอย่างกรณีที่พบได้บ่อย
ตัวอย่างที่ 1: เทรดเดอร์ใช้ EA ทำ Arbitrage ข้ามโบรก
- เหตุการณ์: นักเทรดรายหนึ่งในฟอรัมชื่อดัง ใช้ EA ประเภท “latency arbitrage” ที่เชื่อมต่อบัญชีจากโบรก A ซึ่งส่งราคาช้า (slow broker) กับโบรก B ที่ส่งราคารวดเร็ว (fast broker)
- กลยุทธ์: EA จะสั่งซื้อขายทันทีเมื่อพบความต่างของราคา โดยไม่สนใจการวิเคราะห์ทางเทคนิคใด ๆ
- ผลลัพธ์: สามารถทำกำไรได้หลายพันดอลลาร์ในระยะเวลาอันสั้น
- โบรกเกอร์ตรวจจับได้ว่าเป็นรูปแบบการเทรดที่ใช้ช่องโหว่ของระบบ
- บัญชีถูกปิด และกำไรที่ได้ถูกริบคืน
- นักเทรดถูกแบนไม่ให้เปิดบัญชีใหม่อีก
ตัวอย่างที่ 2: เทรดเดอร์ใช้บัญชี Cent ทำ Arbitrage ข่าว
- เหตุการณ์: เทรดเดอร์ในโซเชียลมีเดียเล่าว่าเขาใช้บัญชี Cent กับโบรกเกอร์หนึ่ง โดยอาศัยความผันผวนของตลาดช่วงประกาศข่าวเศรษฐกิจ เช่น NFP หรือ CPI
- กลยุทธ์: ใช้คำสั่งแบบ Pending Order ทั้ง Buy Stop และ Sell Stop ก่อนประกาศข่าว เพื่อดักการกระชากของราคา
- ผลลัพธ์: ในช่วงไม่กี่วินาที เขาได้กำไรเกือบ 100% จากเงินทุนหลักร้อย
- โบรกเกอร์พิจารณาว่าเป็น “ข่าว Arbitrage” และเป็นการใช้ช่องว่างของระบบ
- โบรกเกอร์อ้างถึงข้อกำหนดใน ToS (Terms of Service) ว่าห้ามการทำกำไรจากช่องว่างของระบบในลักษณะนี้
- ยอดกำไรทั้งหมดถูกลบ และบัญชีถูกจำกัดการใช้งาน
ตัวอย่างที่ 3: เทรดเดอร์ Copy Trade ระบบ Arbitrage ก็ไม่รอด
- เหตุการณ์: เทรดเดอร์มือใหม่คัดลอกสัญญาณจากนักเทรดที่ใช้ระบบ Arbitrage
- กลยุทธ์: ระบบหลักเป็น HFT (High-Frequency Trading) ที่เก็งกำไรจากราคาผิดปกติในช่วงเวลาสั้น ๆ
- ผลลัพธ์: แม้ทำกำไรได้เร็ว แต่หลังจากนั้น ไม่กี่วันโบรกเกอร์ตรวจพบว่าระบบมีลักษณะของ “latency arbitrage”
- บัญชีของเทรดเดอร์ถูกแจ้งเตือนว่าฝ่าฝืนกฎการใช้งาน
- โบรกเกอร์หยุดจ่ายกำไรและแนะนำให้ออกจากระบบ Copy Trade ดังกล่าว
- สุดท้ายบัญชีถูกจำกัดสิทธิ์บางส่วน เช่น ถอนเงินได้เฉพาะทุน และแบนไม่ให้ฝากเงินเข้ามาเทรด
บทเรียนสำคัญจากกรณีเหล่านี้
- ก่อนใช้งาน EA หรือกลยุทธ์ใด ๆ ที่เป็นระบบอัตโนมัติ ควรอ่าน เงื่อนไขการให้บริการ (Terms & Conditions) ของโบรกเกอร์ให้ชัดเจน
- โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ระบุชัดว่าห้ามการเทรดที่อาศัย ช่องโหว่ทางเทคนิค เช่น latency, arbitrage, หรือ news spike
- การทำ Arbitrage ไม่ผิดในเชิงกลยุทธ์ แต่ผิดในแง่ จริยธรรมของระบบการเทรด หากโบรกเกอร์มองว่าเป็นการเอาเปรียบ
ประเภทของ Forex Arbitrage ที่พบบ่อย
- Triangular Arbitrage (อาร์บิทราจแบบสามเหลี่ยม)
- ใช้อัตราแลกเปลี่ยนของ 3 สกุลเงิน (เช่น EUR/USD, USD/JPY, EUR/JPY) เพื่อหาช่องว่างของราคา
- ตัวอย่าง ถ้าอัตราแลกเปลี่ยนไม่สัมพันธ์กันตามตรรกะ จะเกิดช่องว่างให้ทำกำไรได้
- Two-Currency Arbitrage (ระหว่างสองโบรกเกอร์)
- ซื้อ EUR/USD ที่โบรกเกอร์ A ในราคาถูก แล้วขายที่โบรกเกอร์ B ในราคาที่แพงกว่า
- ต้องใช้บัญชีทั้งสองที่ และระบบที่รวดเร็วมาก
- Latency Arbitrage
- ใช้ความแตกต่างของความเร็วในการอัปเดตราคาจากโบรกเกอร์สองราย
- ซื้อ/ขายก่อนที่ราคาจะอัปเดต
- โบรกเกอร์จะเกลียดมากและแบนการใช้งานทันที ถ้าตรวจจับได้
- โบรกเกอร์ไม่ชอบ Arbitrage โดยเฉพาะ Latency Arbitrage
- บัญชีอาจถูกแบน ปิด หรือโดนยกเลิกกำไร
- ต้องใช้ระบบเทรดอัตโนมัติหรือโปรแกรมช่วยเพื่อให้ทันกับความเร็วของตลาด
- แม้กลยุทธ์อย่าง Arbitrage จะดูเหมือน “ทำกำไรได้แน่ ๆ” แต่ก็มี ความเสี่ยงด้วยต้นทุนแฝง เช่น ความล่าช้าในการส่งคำสั่ง (execution delay) ทำให้ไม่ได้ราคาที่ต้องการ, ค่าสเปรด หรือค่าคอมมิชชั่น ซึ่งต้นทุนแฝงพวกนี้สามารถ “กลืนกำไร” ไปจนเหลือศูนย์ หรือขาดทุนได้เลย
3 ประเภทที่พบได้บ่อย คือ ใช้อัตราแลกเปลี่ยนของ 3 สกุลเงินในการทำกำไร , การแลกเปลี่ยนระหว่าง 2 โบรกเกอร์ และ การใช้โอกาสซื้อขายก่อนที่ราคาจะอัปเดต
คลิป
- คลิปนี้จะอธิบายถึงคำว่าการทำ Arbitrage ได้เข้าใจง่ายขึ้น กับ คลิปจากช่อง Wanda Exchange TH
- Arbitrage ทำกำไรแบบไม่เสี่ยง มีด้วยหรอ? – Wanda Academy Ep.4
- 0.17: บทนำพูดถึง การทำ Arbitrage
- 1.00: ยกตัวอย่างการทำ Arbitrage
- 2.35: ปัจจัยที่ควรระวัง
สรุป
- โบรกเกอร์หลายรายมองว่า Arbitrage ทำให้ระบบการเทรดเสียสมดุล
- บางโบรกเกอร์อาจขาดทุนเมื่อเทรดเดอร์ใช้ช่องโหว่ของระบบ เช่น ความล่าช้าในการส่งข้อมูล (latency arbitrage)
- อาจส่งผลให้โบรกเกอร์ต้องเสียค่าธรรมเนียม หรือค่า swap โดยไม่ได้รับกำไร บางรายอาจแบนบัญชีเทรดที่ใช้กลยุทธ์นี้
- แม้ Arbitrage จะฟังดูไร้ความเสี่ยง แต่ในทางปฏิบัติยังมีความเสี่ยง เช่น
- ความล่าช้า
- ค่าธรรมเนียม
- ความผิดพลาดในการประมวลผล หรือการถูกแบนจากโบรกเกอร์
อ้างอิง
- Arbitrage: How Arbitraging Works in Investing, With Examples: https://www.investopedia.com/terms/a/arbitrage.asp
- What Is Arbitrage? Definition, Example, and Costs: https://www.investopedia.com/ask/answers/what-is-arbitrage/
- Arbitrage Trading: All You Need to Know: https://redot.com/blog/arbitrage-trading-all-you-need-to-know/
FAQ – Arbitrage คืออะไร? ทำไมโบรกเกอร์ไม่ชอบ?
- อย่าทำเป็น pattern เดิมซ้ำ ๆ และอย่าให้ถี่ เช่น ถ้าวันละหลายร้อยครั้ง นี่เสี่ยงโดนสูงมาก
- เลือกใช้ โบรกเกอร์ที่เป็น ECN/STP ไม่ใช่ B-book/Hybrid
- สลับการเทรดปกติเข้าไปในพอร์ตบ้าง ทำให้ไม่ดูเหมือนบอท