เมื่อแท่งเทียนไม่ใช่แค่กราฟธรรมดา

  • แท่งเทียนบนกราฟ Forex บอกถึงพฤติกรรมของราคาผลิตภัณฑ์นั้น 
  • ไม่ใช่กราฟธรรมดา แต่สามารถวิเคราะห์เพื่อหาจุดเข้าทำกำไรได้อย่างแม่นยำ 
  • หากรู้จักแท่งเทียนเป็นอย่างดี วิเคราะห์ Price Action ได้คล่อง แทบที่จะไม่ต้องใช้ Indicator ช่วยเสริมเลย
  • ได้ตาสว่างสักทีเมื่อรู้ว่า เราสามารถสร้างกำไรได้เพียงแค่ศึกษา พฤติกรรมของราคา Price Pattern 

ประสบการ์ณเทรดช่วงแรกที่มองข้ามแท่งเทียน

  • ช่วงแรกที่ผมเองได้เข้าสู่วงการ เทรด Forex เป็นมือใหม่ที่มองกราฟแล้วสุดจะไม่เข้าใจเลย รู้แต่ว่า แท่งสีแดงกำลังลง กับ แท่งสีเขียวกำลังขึ้น 
  • เมื่อความรู้แค่นั้นทำให้มองว่าการเทรด Forex ก็เหมือนกันกับการเล่นพนัน ไม่ขึ้น ก็ลง มีโอกาส 50-50 ในการชนะ 
  • แต่เมื่อได้สัมผัสจริง ๆ แล้ว ไม่มีหรอกครับ 50-50 ถ้าเข้าเทรดผิดจุด โอกาสชนะในออเดอร์นั้นแทบจะเป็น 0% 

ภาพที่บอกถึงว่าก่อนหน้านี้รู้แค่ ขึ้นกับลง เขียวกับแดง และเชื่อมั่นไปว่า ตลาดแห่งนี้มีโอกาส 50-50 แต่แท้จริงแล้ว มันสามารถคาดเดาทิศทางได้จากการมองแท่งเทียนให้เป็นนั่นเอง 

จุดเริ่มต้นของการมองเห็น

  • เมื่อผมแพ้บ่อย ๆ ใน บัญชี Demo ผมก็เริ่มต้องหาความรู้เกี่ยวกับการเทรด Forex เพิ่มเติม จนได้เจอกับบทความ Price Action เมื่อได้อ่านจนเข้าใจและทดสอบจึงรู้ว่าเราสามารถสร้างกำไรได้จริง ๆ 

แท่งเทียนแต่ละแท่งคือพฤติกรรมของผู้ซื้อผู้ขายที่มีชีวิต! ไม่ใช่แค่รูปร่าง แต่เป็น “ผลลัพธ์ของจิตวิทยาตลาด” นั่นเองครับ

ความหมายที่ซ่อนอยู่ในแท่งเทียน

แต่ละแท่งเทียน คือ การเล่าเรื่องหนึ่งตอนของการต่อสู้ระหว่างแรงซื้อกับแรงขาย 

  • แท่งเทียน ยาวพร้อมไส้บนยาว (Shooting Star) หมายถึง ผู้ซื้อพยายามดันราคาขึ้น แต่ถูกผู้ขายกดลงมาอย่างรุนแรง
  • แท่งเทียนปิดสูงกว่ากรอบเปิด (Bullish Marubozu) หมายถึง ผู้ซื้อครองตลาดอย่างชัดเจน

เมื่อเริ่มแปลความหมายแท่งเทียนได้ ผมเห็นว่าทุกการเคลื่อนไหวราคามี “เหตุผล” อยู่เสมอ ไม่มีการสุ่ม ราคาขึ้น-ลงมักสะท้อน “ความมั่นใจ” หรือ “ความลังเล” ของนักลงทุน

วันที่ “ตาสว่าง” เข้าใจสักทีว่าแท่งเทียนต้องมีอะไร

เคยได้ยินไหมว่า คนที่เจ็บแล้วไม่จำมักจะไม่รู้สักทีว่าผิดตรงไหน ? แต่เมื่อลองมาหยุดคิดแล้วก็อยากจะเล่าเหตุการณ์ที่เข้าใจเรื่องนี้ให้ฟัง คือ 

  • ต้นปีที่ผ่านมาผมเจอกับกราฟ EURUSD ที่เกิดรูปแบบ Doji หลายแท่งติดต่อกันหลังแนวโน้มขาขึ้นแรง
  • ผมตัดสินใจ “ไม่รีบเข้าซื้อ” ทั้งที่อินดิเคเตอร์บอกสัญญาณบวก
  • แน่นอนเลยว่า ราคากลับตัวลงแบบแรงมาก
  • นั่นคือวันที่ผมเข้าใจว่า “แท่งเทียนกำลังเตือนล่วงหน้า” จริง ๆ ว่าหมดแรงเข้าซื้อแล้ว 

นี่คือจิตวิทยาการเทรดที่เป็นคำตอบว่า ตลาดกำลังจะไปในทิศทางไหน ไม่ได้มั่ว เพราะถ้ารู้ล่วงหน้ายังไงในเกมนี้คุณก็คือผู้ชนะ 

ความหมายของแท่งเทียน มีความหมาย และ บอกถึงตลอดเลยว่า กราฟกำลังไปทางไหน 

ความต่างก่อนและหลังเข้าใจแท่งเทียน

ก่อนหน้านั้น ผมมองแค่ราคาว่าขึ้นหรือลง หลังจากเข้าใจแท่งเทียน ผมเริ่มมองเห็น…

  • สัญญาณอ่อนแรงของแนวโน้ม
  • ความลังเลของตลาด
  • จุดเปลี่ยนของเทรนด์mทั้งหมดนี้ผ่านแค่การ “อ่านแท่งเทียน”

รูปแบบแท่งเทียนทุกแบบที่นักเทรดควรรู้

รูปแบบกลับตัวขาขึ้น (Bullish Reversal)

  • Hammer
    • แรงขายหมด แต่ผู้ซื้อดันราคากลับขึ้น แสดงแรงซื้อกลับมา
  • Inverted Hammer
    • สัญญาณกลับตัวในขาลง แม้ไส้บนยาว ก็แปลว่าผู้ซื้อเริ่มสู้
  • Bullish Engulfing
    • แท่งเขียวกลืนแท่งแดงก่อนหน้า = แรงซื้อเริ่มชนะชัดเจน
  • Morning Star
    • 3 แท่งติดกัน แสดงการกลับตัว: ขาย – กลาง – ซื้อ
  • Piercing Pattern
    • แท่งเขียวปิดครึ่งบนของแท่งแดงก่อนหน้า = แรงซื้อมากขึ้น

รูปแบบกลับตัวขาลง (Bearish Reversal)

  • Shooting Star
    • แรงซื้อพยายามดันขึ้น แต่ถูกขายรุนแรง จบแท่งด้วยไส้บนยาว
  • Hanging Man
    • คล้าย Hammer แต่เกิดบนยอดราคา แสดงสัญญาณอ่อนแรง
  • Bearish Engulfing
    • แท่งแดงกลืนแท่งเขียวก่อนหน้า = แรงขายเริ่มชัดเจน
  • Evening Star
    • 3 แท่งติดกัน = ซื้อ – กลาง – ขาย จะแสดงถึงสัญญาณกลับตัว
  • Dark Cloud Cover
    • แท่งแดงปิดครึ่งล่างของแท่งเขียวก่อนหน้า = เริ่มมีแรงขาย

รูปแบบของกราฟ Price Action ที่มีรูปแบบการกลับตัว

แบบต่อเนื่องแนวโน้ม (Continuation)

  • Rising Three Methods
    • แท่งเขียวใหญ่ – ตามด้วย 3 แท่งเล็ก (พัก) – แล้วทะลุขึ้นต่อ
  • Falling Three Methods
    • แท่งแดงใหญ่ – ตามด้วย 3 แท่งพัก – แล้วลงต่อ แสดงแรงขายยังแข็งแรง
  • Marubozu
    • แท่งที่ไม่มีไส้บน/ล่าง = แรงไปทิศทางเดียวชัดเจน (ขึ้นหรือลง)

รูปแบบความลังเล (Indecision / Neutral)

  • Doji
    • ราคาเปิด-ปิดใกล้กันมาก = ตลาดลังเล ไม่รู้จะไปทางไหน
  • Long-Legged Doji
    • มีไส้ยาวทั้งบน-ล่าง = ความลังเลสูงมาก
  • Dragonfly Doji
    • ไส้ยาวล่าง = แรงขายหนักแต่ผู้ซื้อดันกลับขึ้นมา
  • Gravestone Doji
    • ไส้ยาวบน = ผู้ซื้อดันขึ้นแต่ถูกแรงขายกดกลับมาปิดต่ำ

รูปแบบพิเศษอื่น ๆ ที่ควรรู้

  • Inside Bar
    • แท่งใหม่เล็กกว่าแท่งก่อนหน้า อยู่ในช่วงราคานั้น = รอเบรก
  • Outside Bar
    • แท่งใหม่ครอบแท่งก่อนหน้า = ความผันผวนเพิ่มขึ้น
  • Three White Soldiers
    • แท่งเขียว 3 แท่งติดต่อกัน = สัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น
  • Three Black Crows
    • แท่งแดง 3 แท่งติดกัน = สัญญาณกลับตัวเป็นขาลง

รูปแบบของกราฟที่จะมีแนวโน้มไปต่อ กับ กราฟที่มีความลังเลใจ

วิธีสังเกตแท่งเทียนที่มีน้ำหนัก

หลักวิเคราะห์แท่งเทียนแบบโปร

  • รูปแบบต้องชัดเจน
  • มีโครงสร้างราคาสนับสนุน 
  • จังหวะการเกิดต้องเหมาะสม ช่วงเวลาที่ตลาดมีแรงจริง

ตัวอย่างแท่งเทียนจากกราฟจริง

  • เกิด Bullish Engulfing ที่แนวรับหลัก
  • มีโวลุ่มทะลุค่าเฉลี่ย 20 วัน
  • ปิดเหนือแนวต้านระยะสั้นได้

7 ขั้นตอนอ่านแท่งเทียนอย่างโปร

  1. ดูตำแหน่งก่อนดูรูปแบบ
  • แท่งเทียนที่ดีต้องเกิดใน “จุดสำคัญ” เช่น แนวรับ แนวต้าน โซน Supply/Demand
  • อย่าเพิ่งหลงไปกับรูปแบบสวย ๆ ถ้าเกิดผิดที่ ก็ไม่มีน้ำหนักพอ
  1. วิเคราะห์โครงสร้างตลาด (Context)
  • ตลาดเป็นเทรนด์ขาขึ้น ขาลง หรือไซด์เวย์? SideWay
  • การอ่านแท่งเทียนต้องสัมพันธ์กับทิศทางตลาดหลักเสมอ
  1. โฟกัสแท่งเทียนที่ “เล่าเรื่อง” ได้ชัดเจน
  • เช่น Pin Bar, Engulfing, Doji บางประเภท
  • มองแท่งเทียนเหมือนการอ่านพฤติกรรมผู้ซื้อ-ผู้ขาย
  1. เช็กแรงส่ง (Momentum) ด้วยขนาดแท่ง
  • แท่งเทียนยาว แสดงถึงพลังและความมั่นใจ
  • แท่งเล็ก ๆ บ่งบอกความลังเลและต้องระวัง False Signal
  1. สังเกตไส้เทียน (Wick) อย่างละเอียด
  • ไส้ยาวขึ้นบน = ผู้ขายเริ่มกดราคา
  • ไส้ยาวลงล่าง = ผู้ซื้อเริ่มรับราคา
  • ไม่มีไส้ = แรงชัดไปทางเดียว
  1. เช็กยืนยันด้วยโวลุ่ม (Volume)
  • ถ้าแท่งเทียนเกิดพร้อมโวลุ่มหนาแน่น = สัญญาณน่าเชื่อถือกว่า
  • ถ้าโวลุ่มเบา ๆ ให้ระวังการหลอก (False Breakout)
  1. รอการยืนยัน (Confirmation)
  • อย่ารีบเข้าทันทีที่เห็นแท่งสวย
  • รอสัญญาณยืนยัน เช่น การปิดแท่งต่อไป, การเบรกแนวรับ/แนวต้าน หรือคอนเฟิร์มจาก Timeframe ใหญ่กว่า

แท่งเทียนไม่ได้ทำนายอนาคต แต่ช่วยให้เราอ่าน เจตนาตลาด ได้เฉียบคมขึ้น

ภาพแสดงถึงกราฟแท่งเทียนจริงบน Trading View กับราคาทองคำที่ให้สัญญาณว่าแรงซื้อเยอะมากแล้วนะ โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ทำให้คุณเองได้คาดเดาถึงการเคลื่อนที่ในอนาคตได้นั่นเอง

คลิป

  • ขอฝากคลิปแนะนำการใช้กราฟแท่งเทียนในการเทรด แท่งเทียนกลับตัว ที่ใช้ได้จริงในการเทรด forex หุ้น เป็นพื้นฐานกราฟแท่งเทียน แบบกลับตัว | candlestick จากช่อง DudeeTrading ดูดีเทรดดิ้ง
  • 03:10 | แท่งเทียนแบบกลืนกิน Engulfing 
  • 29:40 | เจาะลึกแท่ง pinbar รูปแบบต่างๆ 
  • 1:00:01 | เทคนิคการเทรดทำกำไรด้วยแท่งเทียนกลับตัว

สรุป

การเข้าใจแท่งเทียน ไม่ได้แค่เพิ่มโอกาสเทรดแม่นขึ้น แต่ยังช่วย “รู้ทัน” จังหวะตลาด ผมเริ่มยอมรับความไม่แน่นอน และใช้แท่งเทียนเป็นเครื่องมือตัดสินใจอย่างมีเหตุผลมากขึ้น เนี่ยแหละคือหนทางการเทรด Forex แบบกำไรสุด ๆ แต่อย่าลืมว่าเลือกหาโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ ด้วย

  • อย่ารีบเข้าสัญญาณแค่เพราะแท่งเทียนดูสวย
  • ฝึกอ่านกราฟเปล่า ๆ จนเข้าใจ “ภาษาแท่งเทียน” โดยไม่ต้องพึ่งตัวช่วยอื่นมากเกินไป
  • เทคนิคการเทรดโดยใช้แท่งเทียนยังคงต้องควบคุมความเสี่ยงก็คือการตั้ง Stop loss 
  • การเทรดด้วยรูปแบบนี้อาศัยการใช้ประสบการณ์ในการเทรดค่อนข้างสูง หากชั่วโมงบินน้อยไม่แนะนำ 

FAQ — วันที่ “ตาสว่าง” เพราะเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในแท่งเทียนแต่ละรูปแบบ


ไม่จำเป็นต้องจำทั้งหมด แค่รู้จักรูปแบบหลัก ๆ และเข้าใจบริบทของมัน เช่น เกิดตรงแนวรับ แนวต้าน หรือในเทรนด์แบบไหน แค่นั้นก็เพียงพอสำหรับการตัดสินใจเทรดอย่างมีเหตุผล
สามารถหลอกได้ โดยเฉพาะถ้าเกิดในตำแหน่งที่ไม่มีนัยสำคัญ วิธีป้องกันคือดูบริบทประกอบ เช่น เทรนด์หลัก, แนวรับแนวต้าน, โวลุ่ม และรอสัญญาณยืนยันจากแท่งถัดไป
ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรด ถ้า Day trade นิยมใช้ M15–H1 ถ้า Swing trade จะใช้ H4–D1 แต่ที่สำคัญคือควรดู Timeframe ใหญ่ประกอบเสมอ เพื่อให้เห็นภาพใหญ่ก่อนเข้าจุดเล็ก
เริ่มจากการ Backtest ดูย้อนหลังบนกราฟจริง หยุดกราฟไว้ทีละแท่ง แล้วลองวิเคราะห์ว่าแท่งนั้นสื่ออะไร พยายามเชื่อมโยงกับโครงสร้างตลาด จากนั้นจดบันทึกไว้ จะช่วยให้เข้าใจเร็วขึ้นและฝังแน่นยิ่งขึ้น
ไม่ได้คิดไปเอง! พอ “ตาสว่าง” จากแท่งเทียน ทุกจุดกลับตัว ทุกแรงซื้อขาย มันมีเหตุผลซ่อนอยู่ ชาร์ตที่เคยมองผ่าน ๆ กลับกลายเป็นแผนที่ลับของตลาดเลยล่ะ!

 

เขียนโดย

Rattapoom Jitjaroen

ผู้ตรวจทานความถูกต้อง

Chonthicha Poomidon